การ "ล้อเล่น" ต้องมีขอบเขต! เมื่อมุกตลกบางอย่าง ไม่ต่างกับการ "บูลลี่"

การ "ล้อเล่น" ต้องมีขอบเขต! เมื่อมุกตลกบางอย่าง ไม่ต่างกับการ "บูลลี่"

กรณี "วิล สมิธ" ตบหน้า "คริส ร็อก" กลางเวทีออสการ์ครั้งที่ 94 สอนให้เรารู้ว่า จะแซวใครต้องมีขอบเขต! เพราะการปล่อยมุกตลกบางอย่าง ก็ทำร้ายความรู้สึกและส่งผลกระทบด้านลบได้ไม่ต่างจากการ "บูลลี่"

แม้การ “ล้อเล่น” อาจไม่รุนแรงเท่ากับการ “บูลลี่” แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะล้อเล่นกับเพื่อนได้ทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะถ้าทำในที่สาธารณะ ซึ่งทำให้ผู้ถูกล้อเลียนรู้สึกอับอายได้ และกรณีของ “วิล สมิธ” “เจดา พินเก็ตต์ สมิธ” และ “คริส ร็อก” จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเพื่อนนักแสดงที่รู้จักกันมานานในวงการฮอลลีวูด

มีรายงานข่าวว่า คริส ร็อก มักจะชอบพูดแซวสามีภรรยาสมิธแรงๆ ผ่านรายการทอร์คโชว์หรือโซเชียลมีเดียเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการที่ "เจดา" เคยประกาศคว่ำบาตรเวทีออสการ์ หรือประเด็นการลงทุนทำหนังบางเรื่องของ "วิล สมิธ" ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ที่ผ่านมา วิล สมิธ ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร

จนมาเกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุดบนเวทีออสการ์ในปีนี้ ที่คริส ร็อค ดันปล่อยมุกแซวเจดาว่า จะรอดูเธอเล่นหนังเรื่อง G.I. Jane ภาค 2 (ซึ่งในภาคแรกตัวเอกของเรื่องต้องโกนผมเพื่อรับบทนี้) ทั้งๆ ที่เธอกำลังป่วยด้วยโรค Alopecia ทำให้วิล สมิธ เดินไปตบคริส ร็อก กลางเวทีออสการ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 

 

  • แม้จะเป็นเพื่อนกัน ก็ไม่ควร "ล้อเล่น" แรงๆ

อีกทั้งเหตุการณ์นี้ก็สะท้อนวลีที่ว่า “ความอดทนของทุกคนมีขีดจำกัด” ได้ดี และเราควรเตือนตัวเองเสมอว่า แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรล้อเล่นแรงๆ แม้อีกฝ่ายไม่ตอบโต้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกแย่

ยืนยันได้จากงานวิจัยของ ณัฐพล ชัยกิตติพรเลิศ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุไว้ว่า การล้อเลียนเป็นพฤติกรรมหนึ่งของการข่มเหงรังแก (bully) แต่การล้อเลียนมีลักษณะซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงมากกว่า และมักมีความกำกวมต่อการตีความอยู่เสมอ และอาจเกิดขึ้นได้ซ้ำๆ 

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ A ล้อเลียน B ไปแล้ว และไม่เห็นว่า B มีการตอบสนองกลับมา จึงอาจคิดว่า B (ผู้ที่ถูกล้อเลียน) ไม่ได้คิดมากอะไร ทำให้ A ยังคงแสดงการล้อเลียนต่อไปในอนาคต 

แต่ในความเป็นจริง B อาจรู้สึกไม่ดีในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมา ทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดไปจากความเป็นจริงและนำมาสู่การมองข้ามปัญหาความรุนแรงที่มาจากการล้อเลียน โดย 5 เรื่องที่พบในการล้อเลียน ได้แก่

1. การแสดงออก (Performance)
2. คุณลักษณะทางด้านการเรียน (Academic Characteristics)
3. พฤติกรรมสังคม (Social Behavior)
4. ภูมิหลังครอบครัว (Family Background)
5. รูปร่างลักษณะ (Appearance) 

การ \"ล้อเล่น\" ต้องมีขอบเขต! เมื่อมุกตลกบางอย่าง ไม่ต่างกับการ \"บูลลี่\"

 

  • ล้อเลียนเมื่อไหร่ ผลกระทบเชิงลบก็ตามมาเมื่อนั้น

นอกจากนี้ พฤติกรรมการล้อเลียนยังส่งผลกระทบในแง่ลบต่อทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ โดยมีข้อมูลทางการแพทย์จาก DoctorRaksa ระบุว่าเมื่อมีการล้อเลียนเกิดขึ้นจะส่งผลดังนี้

ผู้กระทำ : มีพฤติกรรมความก้าวร้าว มักไม่มีขอบเขตในการแสดงออกอารมณ์ของตัวเอง หรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง มีความมั่นใจในตัวเองต่ำ

ผู้ถูกกระทำ : จะรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นๆ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างลดลง เกิดความเปราะบางทางอารมณ์ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง วิตกกังวล อาจเกิดภาวะซึมเศร้าและเพิ่มโอกาสในการทำร้ายตัวเอง

 

  • คริส ร็อค ไม่แจ้งความ วิล สมิธ

เหตุการณ์ช็อกวงการออสการ์ 2022 ครั้งนี้ ไม่ได้จบลงที่ฉากตบเท่านั้น เพราหลังเกิดเหตุ "วิล สมิธ" ก็ได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำชาย และขณะที่ขึ้นไปรับรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิต เขาได้กล่าวบนเวทีพร้อมน้ำตาว่า 

“ความรักมันทำให้คนทำอะไรบ้าๆ ได้ ในธุรกิจนี้เรารู้ดีว่าเราต้องยอมให้ถูกละเมิดได้ เราต้องทนต่อการข่มเหงให้ดี เราต้องทนกับคนที่พูดบ้าๆ ใส่เรา ในวงการนี้ เราต้องทนกับการที่คนไม่เคารพคุณให้ได้ แล้วคุณต้องยิ้ม แสดงทำเหมือนกับว่าคุณสบายดี”

นอกจากนี้ วิล สมิธ ยังได้กล่าวยังขอโทษผู้จัดงานออสการ์ และบรรดานักแสดงผู้เข้าชิงทุกคน (แต่ไม่ขอโทษ คริส ร็อค) ก่อนจะจบคำปราศรัยด้วยการบอกว่า หวังว่าทางงานจะเชิญเขากลับมาอีกครั้ง 

ล่าสุด.. มีรายงานข่าวว่า กรมตํารวจลอสแองเจลิสยืนยันว่าคริส ร็อค ปฏิเสธที่จะแจ้งความ  หลังถูกวิลสมิธตบหน้าในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 

 

  • หากถูกล้อได้รับความอับอาย แจ้งความเอาผิดได้!

สำหรับในประเทศไทย หากคุณถูกผู้อื่นล้อเลียนในพื้นที่สาธารณะหรือต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก จนได้รับความเสียหาย อับอาย เดือดร้อนรำคาญ สามารถแจ้งเอาผิดทางกฎหมายได้ 

โดยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

แต่หากการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำในที่สาธารณะ หรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการทำในลักษณะส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างพฤติกรรมนายจ้างที่หากกระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในที่ทำงาน ก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 397 มีตัวอย่าง 10 ข้อ ดังนี้

การ \"ล้อเล่น\" ต้องมีขอบเขต! เมื่อมุกตลกบางอย่าง ไม่ต่างกับการ \"บูลลี่\"

1. ได้รับมอบหมายงานที่ไม่สามารถทำได้ หรือให้ทำนอกขอบเขตงาน (Job Description) เพื่อกลั่นแกล้งให้ทำงานผิดพลาด

2. ได้รับความกดดันที่มากเกินไปในการทำงาน ทำให้เกิดความเครียดจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

3. ถูกดุด่าว่ากล่าว อย่างรุนแรงต่อหน้าคนในออฟฟิศ เมื่อทำงานผิดเพียงเล็กน้อย

4. ถูกสอบถามเรื่องส่วนตัวมากเกินความจำเป็น

5. ได้รับมอบหมายงานที่ไม่มีคุณค่า หรือไม่จำเป็น เพราะต้องการจะกลั่นแกล้ง

6. ถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่ทำงานที่ได้รับมอบหมาย จะถูกลดเงินเดือน หรือลดผลประโยชน์

7. โดนบังคับให้ไปเที่ยวหรือดื่มเหล้าหลังเลิกงาน โดยที่ไม่เต็มใจ

8. เมื่อทำความผิด ถูกหัวหน้าหรือคนในที่ทำงานเอาไปเล่าต่อให้คนอื่นฟังลับหลัง เพื่อทำให้เสื่อมเสีย

9. ถูกประเมินผลการทำงานอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง

10. ถูกนำความลับส่วนตัว เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ ไปเปิดเผยต่อเพื่อนร่วมงานเพื่อสร้างความอับอาย

-----------------------------------

อ้างอิง : ประมวลกฎหมายอาญาcuir.car.chula, smarterlifebypsychology, doctorraksajobsDB