เตรียมพบกับ "โขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ" ตอน"สะกดทัพ" มี 5 ไฮไลท์ชวนดู
แฟนๆ“โขนศิลปาชีพฯ”เตรียมซื้อบัตรได้แล้ว ครั้งนี้นำเสนอรามเกียรติ์ตอน"สะกดทัพ" อลังการงานสร้าง มีความวิจิตรงดงาม คุ้มค่ากับราคาบัตรเข้าชม
โขนศิลปาชีพ ห่างหายไปถึง 2 ปี อีกไม่นานเกินรอ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็จะเปิดม่านการแสดงโขนศิลปาชีพฯ ประจำปี พ.ศ. 2565 ตอน “สะกดทัพ” วันที่ 30 ตุลาคม-5 ธันวาคม ศกนี้ ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน “สะกดทัพ”ครั้งนี้ มีไฮไลท์พิเศษหลายเรื่อง ไม่ว่าการฟื้นฟูกระบวนท่ารำที่หาชมได้ยาก ฉากการแสดงที่มีการเพิ่มสีสันอลังการตระการตา รวมทั้งด่านพิเศษในการผจญภัยของหนุมานให้ตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น เรียกว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับหรือผู้ที่จะเริ่มการดูโขนเป็นครั้งแรก
การแสดงครั้งนี้ เป็นการนำบทพระราชนิพนธ์ฉบับในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมาเป็นบทการแสดง จึงใช้ตัวสะกดชื่อ “ไมยราพ” ตามบทพระราชนิพนธ์ ซึ่งต่างจากตอน “ศึกมัยราพณ์” ที่เคยจัดแสดงในปี 2554 อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ ฉบับในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
5 ไฮไลท์เด่นๆ รามเกียรติ์ "สะกดทัพ"
1. ครั้งแรกกับการฟื้นฟูเพลงหน้าพาทย์
มีการฟื้นฟูเพลงหน้าพาทย์ดำเนินพราหมณ์ที่ใช้กับตัวโขนไมยราพ ซึ่งมีความเป็นมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์
อาจารย์ประเมษฐ์ บุณยะชัย ที่ปรึกษาอาวุโส กล่าวถึงความพิเศษของโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ว่า เป็นโขนที่ใช้องค์ความรู้จากครูผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ทั้งโขน ละคร ดนตรี คีตศิลป์ ทุกขั้นตอนทำด้วยความประณีต
ฉากขบวนไมยราพและหุงสรรพยา
"โดยจะมีกระบวนท่ารำที่ไม่ค่อยปรากฎที่ไหน เช่น เพลงหน้าพาทย์ที่ใช้บรรเลงประกอบตัวโขนไมยราพ เป็นหน้าพาทย์ดำเนินพราหมณ์ที่เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งแทบจะสูญหายไปแล้ว แต่ครูอร่าม อินทรนัฎ สืบทอดกระบวนการรำนี้ไว้สู่ศิลปินรุ่นหลัง สำหรับการแสดงโขน ตอนสะกดทัพ”
2. การแต่งองค์ทรงเครื่องของไมยราพ
เป็นการแต่งองค์ทรงเครื่องตามบทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 1 ซึ่งไมยราพบวชเป็นฤๅษี จึงแต่งกายด้วยเครื่องทรงสีแดงสดงดงาม เพื่อเข้าโรงพิธี นอกจากนี้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ยังสร้างเครื่องแต่งกายไมยราพและตัวโขนอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่กว่า 100 ชุด
ฉากหนุมานรบมัจฉานุ
3.การผจญภัยฝ่าด่านต่างๆ ของ“หนุมาน”
การผจญภัยในด่านต่างๆ ที่ยอดทหารวานรต้องฝ่าฟัน และต้องใช้นักแสดงที่รับบทหนุมานถึง 7 คนในการแสดงแต่ละรอบ
ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้กำกับการแสดงและเขียนบท เล่าว่า “รามเกียรติ์มีหลายสำนวน โดยครั้งนี้นำบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 ที่ใช้ในการเรียนการสอนในวิชาภาษาไทยในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมาจัดทำบทการแสดง ซึ่งมีวิธีการเล่าเรื่องและการดำเนินเรื่องที่แตกต่างออกไป
"เป็นตอนที่มีฉากผจญภัยมากมาย มีเรื่องราวการต่อสู้ของหนุมาน ยอดวานรทหารเอกของพระรามต้องฝ่าด่านต่างๆ เช่น ด่านช้างตกมัน ด่านเขากระทบกัน ด่านยุงตัวเท่าแม่ไก่ ด่านหนุมานรบมัจฉานุ ฯลฯ เพื่อช่วยพระรามกลับมา ”
4. ฉากไฮไลท์เพิ่มเทคนิคกลไก
ดร.สุรัตน์ ให้ข้อมูลเรื่องฉากเด่นที่สร้างสรรค์ใหม่ว่า
“ในช่วงท้ายเรื่องมีฉากไฮไลท์ที่เพิ่มเติมจากตอน ‘ศึกมัยราพณ์’ ที่เคยแสดงเมื่อ 10 ปีก่อน ได้แก่ ฉากหนุมานต้องแผลงฤทธิ์ แปลงร่างใหญ่ยักษ์ 4 พักตร์ 8 กร สูงเทียมฟ้า เคลื่อนไหวด้วยกลไกทันสมัย รวมทั้งเพิ่งกลไกฉากที่หนุมานต้องหักก้านบัวแล้วกระโดดลงบ่อ และฉากหนุมานอมพลับพลา ที่จะโชว์ความประณีตอลังการ”
5. ครั้งแรกของโขนรุ่นจิ๋วในบท “มัจฉานุ”
เป็นครั้งแรกที่ใช้เด็กประถมศึกษาอายุตั้งแต่ 9 ปี ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจำนวน 7 คน เพื่อรับบทมัจฉานุ ลูกชายของหนุมานกับนางสุวรรณมัจฉา
โดยฉากรบมัจฉานุยังมีกระบวนท่ารำที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ท่าขึ้นลอยมัจฉานุ ซึ่งเป็นกระบวนท่ารบที่ต้องแสดงพลังของนักแสดงโขนเป็นอย่างมาก
............
รายละเอียดการแสดง
- โขนรามเกียรติ์ ตอนสะกดทัพ แสดงวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 5 ธันวาคม 2565 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
- ซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา หรือ thaiticketmajor.com
- บัตรราคา 1,820 / 1,520 / 1,020 / 820 / 620 บาท รอบนักเรียน นักศึกษา บัตรราคา 200 บาท (หยุดพักการแสดงทุกวันจันทร์และอังคาร)
- ติดตามข่าวสารได้ทางเฟซบุ๊ค Khon Performance โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ