วรวุฒิ จันทวี อวด dining table แบรนด์ 'Vertier' ผลิตจาก 'วัสดุรีไซเคิล'
dining table หรือโต๊ะกินข้าวรุ่น Asteriod จากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์คนไทย 'Vertier' อวดโฉมในงาน 'บางกอก ดีไซน์ วีค 2024' ในฐานะโต๊ะที่ผลิตจาก 'วัสดุรีไซเคิล'
“Asteriod คือ dining table แบรนด์ Vertier (เวอร์เทียร์) ผลิตขึ้นจากโจทย์ว่า ให้นำวัสดุเหลือใช้แล้วกลับมาสร้างใหม่เป็น live able again ซึ่งนำไปจัดแสดงในงาน บางกอก ดีไซน์ วีค 2024 ที่ผ่านมา”
วรวุฒิ จันทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี เดคคอร์ จำกัด อธิบาย
“คือการนำชิ้นส่วนของหินธรรมชาติที่เหลือจากการผลิตชิ้นงาน หรือ ขยะอุตสาหกรรม เป็น วัสดุรีไซเคิล ที่มีความหลากหลายของลวดลายและสีสันตามธรรมชาติที่แตกต่างกัน มาหลอมรวมและออกแบบใหม่ให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง”
dining table รุ่น Asteriod ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
ผู้บริหารเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทย เสริมว่า
“ตอนแรก SCG ให้วัสดุมาเป็นเส้น ๆ ลักษณะแบบเส้นใย เนื่องจากเราไม่ถนัดงานถักทอ เราจึงใช้เศษหินที่กองอยู่เยอะมากในโรงงานมาผลิตใหม่ นำมาประกอบใหม่เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ผลตอบรับดี พอลูกค้าเห็นก็ถามว่าขายมั้ย...เราก็บอกว่าเป็นดิสเพลย์และนำไปจัดแสดง”
จากงาน บางกอก ดีไซน์ วีค 2024 Asteriod ก็เวียนไปจัดแสดงที่ โรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพ ที่มักนำผลงานของนักออกแบบไทยสาขาต่าง ๆ ไปจัดแสดงอยู่เสมอ
คุณแนตตี้กับคุณวรวุฒิ
“ด้วยความที่คุณแนตตี้ (นิดา วงศ์พันเลิศ) ผู้บริหาร 137 Pillars มีความสนใจในเรื่องแบรนด์ไทยบวกกับแนวคิด sustainable เราจึงนำไปจัดแสดงไว้ในส่วนของล็อบบี้ ไม่ได้คาดหวังเรื่องการขายแต่คิดว่าเป็นการสร้างแบรนด์อะแวร์เนส
Vertier ยังใช้วัสดุที่เป็น sustainable โดยร่วมมือกับโรงทอผ้า ใช้ผ้ารีไซเคิลเอามาหุ้มเป็นเก้าอี้ แม้ไม่ได้เ่น้นด้านนี้เป็นหลักแต่เราร่วมกับ SCG ใช้วัสดุทดแทนหินอ่อน เป็นวัสดุที่ใช้หินมาบดอัดหลอมเป็นลาวาเลย แล้วอัดเป็นหน้าท็อป และลูกค้าชอบ เพราะหินอ่อนบางทีเป็นรอยได้ น้ำซึมได้ ไวน์ซึมได้
เก้าอี้เวอร์เทียร์
แต่เวอร์เทียร์ที่อยู่ภายใต้ SCG ไม่เกิดรอยใด ๆ คราบกาแฟ ไวน์ บางทีหินอ่อนด่างได้ น้ำซึมได้ เวลาขายบางตัวสูงกว่าหินอ่อน 20-30% รับประกัน 10 ปี
วัสดุเหล่านี้เรายังใช้ทำโต๊ะกาแฟ ไซด์เทเบิ้ล โต๊ะข้างเตียง ทุกวันนี้เราพยายามนำมาใช้ให้หมด หินก็เหมือนหนังแท้เมื่อตัดมาแล้วต้องใช้ให้หมดทั้งผืน”
เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทย (Cr.FB: Vertier Bangkok)
ความเป็นมาของเฟอร์นิเจอร์ Vertier คุณเติ้ล - วรวุฒิ เล่าย้อนอดีตว่า
“ตอนไปเรียนและทำงานที่นิวยอร์ก เห็นรุ่นพี่ทำงานตกแต่งร้านอาหารที่นั่น คิดว่าไปอยู่เมืองนอกไม่จำเป็นต้องไปทำงานเสิร์ฟอาหาร เราหาสิ่งที่เราชอบทำเป็นอาชีพได้
พอกลับมาเมืองไทยเริ่มทำงานด้านช่าง จากที่เป็นคนประดิดประดอย มีเพื่อนทำร้านเสื้อผ้าเราก็รับงานเล็ก ๆ ทำสแตนด์ตั้งเครื่องประดับ ราวแขนเสื้อ แท่นวางของ เรียกว่างานดิสเพลย์สินค้า ซึ่งเราทำให้ลูกค้าเยอะมาก ตอนนั้นเข้าห้างแทบทุกคืนเลย ไปตั้งในร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มควอเทียร์ เกษรฯ ไม่สิ่งใดก็สิ่งหนึ่ง ทุกวันนี้ก็ยังมีคนสั่งอยู่
เวอร์เทียร์ เน้นงานหินอ่อน
แล้วก็มีดีไซเนอร์ท่านหนึ่งซื้อผลงานเราไป ไม่ได้บอกว่าไปตั้งที่ไหน มาพบทีหลังว่าไปอยู่ในร้านแบรนด์ดัง ก็เลยคิดว่างานเราน่าจะมีคุณภาพพอที่ไปอยู่ในร้านนั้นได้ เลยลองทำเฟอร์นิเจอร์เป็นชิ้นเล็ก ๆ ตอนแรกฝากวางขายก่อน ปรากฏว่าขายดี”
จากงานดิสเพลย์แปลงร่างเป็นโต๊ะหน้าโซฟา ชิ้นงานเริ่มใหญ่ขึ้น
“จำได้ว่าชิ้นใหญ่ที่ขายครั้งแรก เมื่อ 5-6 ปีก่อน เป็นโต๊ะหินอ่อน ตอนนั้นหินอ่อนยังไม่นิยมมาก จากนั้นทำ dining table พอลูกค้าซื้อไปก็ถามว่ามีโซฟามั้ย ตอนนั้นยังไม่มีช็อป เราขายผ่านออนไลน์ ยังไม่มีชื่อแบรนด์”
พอลูกค้าเรียกร้องมากขึ้น งานเข้ามากขึ้น จึงต้องสร้างแบรนด์
หินอ่อนแต่ละชิ้นมีลวดลายที่ไม่เหมือนกันเลย
“ลูกค้าที่ซื้อโต๊ะไปก็เริ่มถามหาเก้าอี้ เพราะบางทีลูกค้าซื้อของเข้าบ้าน พอซื้อร้านนี้แล้วรู้สึกว่าถูกใจ มีวัสดุให้เลือกเยอะ ออกแบบให้ด้วย ทำ 3D ให้เขาเห็นภาพ เลยคิดว่าซื้อแบรนด์นี้ไปเลยทีเดียว Vertier จึงพัฒนาเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ อีก”
สร้างแบรนด์แล้วต่อมาต้องมีจุดวางสินค้า ลูกค้าจะเห็นตามงานบ้านและสวน งานแสดงสินค้าต่าง ๆ
“จากนั้นเปิดช็อปเล็ก ๆ ที่ CDC เปิดได้ 3-4 ปี พื้นที่ตรงนั้นเล็กไปแล้ว เลยเปิดใหม่ที่ราชดำริ เพิ่งเปิดเมื่อเดือนที่แล้ว พื้นที่ 800 ตร.กม. และเราไปร่วมกับร้าน Lamptitude กับ SCG Experience นำสินค้าของเราไปวาง”
ประกอบกับ SCG มีวัสดุทดแทนหินอ่อน Vertier จึงนำมาใช้ในงานออกแบบด้วย
ไปออกงานบ้านและสวน
“ตอนนี้สินค้าหลักคือ โต๊ะ เก้าอี้ ไดนิ่งเทเบิ้ล โซฟา กำลังวางแผนทำชุดครัว และมีพาร์ทเนอร์อื่น ๆ มาเช่นทำเตียง
จุดเด่นของเราคือ fully customize ลูกค้าเดินเข้ามาอยากได้อะไรต้องได้อย่างนั้น ถึงเราไม่ได้ทำถ้าลูกค้าอยากได้เราทำให้ และเป็น tailor made 100%
ส่วนที่วางในโชว์รูมเป็นตัวที่ลูกค้า customize บ่อย และเป็นดีไซน์ของเราเอง แต่ผมบอกได้เลยว่าแต่ละชิ้นไม่ซ้ำกันเลยสักตัว
จริง ๆ เราก็เหนื่อยกับการออกแบบนะครับ เช่น ลูกค้ามาขอปรับ เก้าอี้สูงหน่อยเพราะคนที่บ้านตัวใหญ่ หรือต่ำหน่อย เราทำให้หมด”
จุดเด่นของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์คนไทย คุณวรวุฒิ บอกว่า
คุณเติ้ล - วรวุฒิ จันทวี
“ดีไซน์โมเดิร์น คอนเทมโพราลี และมีส่วนประกอบของหินอ่อน คือภาพจำของลูกค้า และเราอยากให้นึกถึงว่าเรา เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ โลคัล ที่มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์นำเข้า ทั้งในแง่ดีไซน์และคุณภาพ”
หินอ่อน เป็นวัสดุระดับไฮเอนด์ ชิ้นงานที่มีหินอ่อนแท้จึงเป็นงานเนี้ยบและแพง
“หินอ่อน เป็นวัสดุเดียวที่ต้องนำเข้า นอกนั้นใช้ของไทยหมด เพราะ หินอ่อนเป็น one of a kind ลูกค้าที่ได้ไปเป็นตัวเดียวในโลก อยู่แล้ว ทั้งลวดลาย สีสัน ทุกวันนี้เราทำงานหนักมากเพราะต้องส่งรูปหินอ่อนที่ทำเป็นท็อปโต๊ะให้ลูกค้าดูทุกตัว
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบ้าน 60-70% เกรดเอถึงเอบวก เป็นบ้านสร้างเอง และโครงการที่เป็นซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี”
หินอ่อน เฉดสีและลวดลายต่าง ๆ
ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้หินอ่อนเป็นหลักเสริมว่า
"หินอ่อนมาจากทั่วโลกเลย บางคนเข้าใจว่ามาจากอิตาลี มาจากอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และจีน ก็มี เหมืองเปิดอยู่ทั่วโลก เราไม่ได้นำเข้าเองแต่เราดีลกับผู้นำเข้าทั่วประเทศไทย ซึ่งมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์
ส่วนใหญ่ลูกค้าจะบอกว่าโต๊ะเวอร์เทียร์หินสวย อาจมีส่วนที่เราเลือกหินเอง และการทำงานเมื่อลูกค้าสั่งใช้เวลา 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบที่ว่า ถ้าลูกค้าสั่งแบรนด์นำเข้าอาจรอถึง 9 เดือน กว่าจะสื่อสารและผลิต แต่เรามีโชว์รูม มีโซนให้เลือกแมททีเรียล จะจิ้มอะไรก็ได้ อีกเดือนเดียวก็ได้สินค้า ถ้ามีปัญหาติดขัดเราติดต่อลูกค้าโดยตรง”
คนชอบเฟอร์นิเจอร์หินอ่อน เป็นกลุ่มลูกค้าตลาดบน เพราะความแพง หายาก และเป็นชิ้นเดียวในโลก คุณวรวุฒิ เล่าถึงความพิเศษของหินอ่อนว่า
“หินแต่ละชิ้นมีแคแรกเตอร์ มีสตอรี่หมด เช่น ไวท์คาราร่าจากอิตาลี จะโปร่งแสงขาวใส วางแล้วรู้สึกสะอาด ถัดจากที่นี่ไปหน่อย หินอ่อนสีขาวเหมือนกัน แต่ลายแร่ไม่เหมือนกันเลย
หิน exotic ก็มี คือหินที่หายาก ในภูเขาหนึ่งลูกจะมีแค่ก้อนสองก้อน ราคาเป็นแสน ลูกค้าเคยซื้อไปหน้าท็อปโต๊ะแผ่นเดียว 1 ล้านบาท หินตัวนี้จะมีพาร์ทของคริสตัลที่มีเส้นแร่ที่สวยงาม
หรือ หินจากมาดากัสการ์ มีแร่อยู่ข้างใน เวลาวางตอนกลางคืนจะเรืองแสงขึ้นมาเหมือนปีกแมลงทับ ราคาแพงกว่าหินปกติ 10 เท่า
เราอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ให้ข้อมูลครบ คุยเรื่องราวให้ฟังจนเขาโอเค เรานำหินที่มีความพิเศษมาวางโชว์ให้ลูกค้าเลือกหินที่เขาชอบ”
นอกจากความพิเศษของหินอ่อน การดีไซน์ก็สำคัญมาก
“เรารวบรวมข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ เช่น บางคนขอโต๊ะที่นั่งแล้วไม่ติดขา เข่าต้องไม่ชน นั่งไขว่ห้างได้ ดูโล่ง ทำความสะอาดง่าย ยกย้ายได้ ถอดประกอบได้ มีโต๊ะ dine master ที่สามารถยืดออกเป็น 6 เมตร หรือหดแค่ 1.8 เมตร รูปทรงยังสวย อัตราส่วนจะสวยทุกการยืดหด จะกว้าง ยาว เตี้ย สูง งานดีไซน์ของเราจะเปลี่ยนเป็นไม้ทั้งตัว เหล็กทั้งตัว หรืออะคริลิกทั้งตัว ได้หมด
ตัวนี้ขายดี ผลิตตลอดเลย ราคาเริ่มต้น 8-9 หมื่น เป็นโต๊ะแยกประกอบ เป็นเฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ เพราะเวลาไปส่งในคอนโดต้องขึ้นลิฟต์ อีกอย่างเวลานำเสนอลูกค้าบอกว่าน้ำไม่กระเพื่อมเลย คนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะได้ ไม่แตกไม่ร้าว ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง
หรือโต๊ะ 6 เมตร หินธรรมชาติมา 3 เมตร เราก็ทำเป็นจุดเชื่อมต่อหิน มองไปคือ seamless (ไร้รอยต่อ) หินวางชนกันแต่เวลามองไปเหมือนหินแผ่นเดียวกัน เราใช้เส้นวัสดุมาคาบต่อกันมาเลย พอเราทำแล้วถ่ายรูปลงไอจี ลูกค้ามาดูรูปซื้อเลย ไม่ทันเห็นของจริง”
ทำเฟอร์นิเจอร์ก็เหมือนตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนตัว คำนวณอัตราส่วนการใช้งาน เนี้ยบและเป๊ะ เจ้าของ Vertier บอกว่า โรงงานผลิตอยู่แถวบางปู สเกลไม่ใหญ่มาก รวมคนงาน ดีไซเนอร์ ช่างไม้ สเตชั่นตัดหิน ฯลฯ ราว 30-40 คน
“ราคาเริ่มต้น dining table ราว 2 เมตร นั่งได้ 6 คน ไม่ถึงแสนบาท ราคาจึงเป็นปัจจัยหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด คิดว่าสัก 50% ลูกค้าน่าจะซื้อเราด้วยการดีไซน์ด้วย เช่น แบรนด์ต่างประเทศตัวนี้อาจเริ่มต้น 1 ล้านบาท ของเรา 5-6 แสน
เรื่องรอการผลิตก็มีส่วน จากที่ได้คุยกับลูกค้ากลุ่มซูเปอร์ลักซ์ชัวรี แต่ก่อนเขาอาจไม่ได้พรีเซนต์แบรนด์เรา แต่หลังจากเรามีร้านที่ใหญ่ขึ้น มีการสื่อสารทางการตลาดที่ดีขึ้น ลูกค้าเริ่มภูมิใจนำเสนอแบรนด์เราด้วย เช่น บอกให้พนักงานติดโลโก้ อยากให้คนมาเห็นแล้วรู้ว่าซื้อจากแบรนด์นี้”
ความภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของคุณวรวุฒิคือ เริ่มมีบริษัทอินทีเรียเจ้าดัง นำเฟอร์นิเจอร์ Vertier นำเสนอแก่ลูกค้า
“ในแต่ละปีมีคอลเลคชั่นใหม่ทุก 3 เดือน เราทำงานหนักเรื่องดีไซน์ เพราะเปลี่ยนเร็ว บางทีเร็วกว่าเสื้อผ้าอีก เมื่อวานขายสีทองอยู่เป็นโลหะ พรุ่งนี้เป็นไม้แล้ว เราทำงานออกแบบจริงจังมาก
ความจริงเทรนด์เฟอร์นิเจอร์น่าจะเกิดจากอินทีเรียก่อน บวกกับเทรนด์โกลบอลด้วย เวอร์เทียร์เราถือเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ในไทย ทุกปีผมจะไปมิลาน เห็นเขามีอะไรใหม่กลับมาเปลี่ยนเลย บางทีเร็วเกินไป ลูกค้าตามไม่ทัน บ้านยังสร้างอยู่ พอเสร็จเวอร์เทียร์เปลี่ยนแล้ว บางทีเราล้ำหน้าเกินไป ลูกค้าอาจตกใจ
คุณวรวุฒิ จันทวี แบรนด์เวอร์เทียร์
คำว่า Vertier เราสร้างขึ้นมาเอง บังเอิญไปพ้องกับภาษาดัทช์ แปลว่า amusement คือความสนุก งานออกแบบเราก็เน้นให้ดูสนุก มีลูกเล่น เวลาคุยกับลูกค้าจะสนุกนาน เหมือนกับการสร้างผลงานร่วมกัน”