แห่พระรอบเมือง ร่วมพิธีลุยไฟ (ชำระพลังไม่ดี)เทศกาลถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต
ชวนร่วมพิธีลุยไฟ ชำระล้างพลังไม่ดีออกจากร่างกาย แห่พระรอบเมือง กินอาหารเจสตรีทฟู้ดและระดับมิชลิน ในประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต
หากพูดถึงเทศกาลกินเจ ชื่ออันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึงก็คือ ประเพณีถือศีลกินผัก หรือเจี๊ยะฉ่าย ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านการถือศีล ชำระล้างจิตใจ และร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์
ตลอด 9 วัน 9 คืนของประเพณีถือศีลกินผัก ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแต่จะได้ถือศีลละเว้นจากเนื้อสัตว์ ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์และขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และความเชื่อดั้งเดิม ที่ยังคงสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เชิญชวนนักเดินทางร่วมชำระล้างร่างกายและจิตใจ ในประเพณีสำคัญของจังหวัดภูเก็ตอย่าง “ประเพณีถือศีลกินผัก” หรือ เจี๊ยะฉ่าย ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9
ตามปฏิทินจีนของทุกปี จัดวันที่ 3 - 11 ตุลาคม 2567 เป็นงานที่มีความหลากหลายในทุกมิติ ทั้งด้านความเชื่อ ความศรัทธา ประเพณีเก่าแก่ มนต์เสน่ห์ของอาหารที่สร้างสรรค์ และกิจกรรมจากอ๊ามทั่วเกาะภูเก็ต
โดยเฉพาะพิธีอิ้วเก้ง หรือ แห่พระรอบเมือง พิธีกรรมที่แต่ละศาลเจ้าปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน เป็นการออกเยี่ยมขององค์กิ้วอ๋องไต่เต่ เพื่ออวยพรให้ประชาชน จะมีการตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้านเรือนและคุกเข่าสงบนิ่งเพื่อรับพรจากองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป
พิธีที่สอง คือ “พิธีโก้ยโห้ย” หรือพิธีลุยไฟ พิธีกรรมเพื่อชำระพลังไม่ดีออกจากร่างกาย ส่วนพิธีโก้ยห่าน หรือ พิธีสะเดาะเคราะห์ จะทำหลังจากพิธีลุยไฟ โดยการตัดกระดาษตัดเป็นรูปตนเองเขียนชื่อกำกับไว้ พร้อมผักกุ๊ยฉ่าย 1 ต้น จากนั้นต้องเดินข้ามสะพานให้บรรดาม้าทรงปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และประทับตราสัญลักษณ์หลังเสื้อเป็นอันเสร็จพิธี
และสุดท้าย พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ หรือพิธีส่งพระ มีขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าหลายแห่งในเมืองภูเก็ต เพื่อส่งองค์กิ้วอ่องไต่เต่ ผู้เป็นประธานในพิธีกลับสวรรค์ที่หน้าเสาโกเต้ง ช่วงเวลา 22:30 น.
เมื่อขบวนส่งพระออกพ้นประตูไฟทุกดวง ในอ๊ามต้องดับสนิทและปิดประตูใหญ่ พิธีส่งพระถนนทุกสายในตัวเมืองภูเก็ต จะเต็มไปด้วยประชาชนที่มาส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่กลับสู่สวรรค์ เป็นพิธีที่ต้องมาชม โดยเฉพาะช่วงถนนถลาง ถนนภูเก็ต วงเวียนหอนาฬิกา และเส้นทางไปจนสุดสะพานหิน
นอกเหนือจากพิธีกรรมตามประเพณีแล้ว ศาลเจ้าหรืออ๊ามโบราณจังหวัดภูเก็ตยังมีบทบาทสำคัญในการจัดงาน แต่ละแห่งสามารถขอพรให้สมหวังในด้านต่าง ๆ อาทิ เช่น
-ศาลเจ้ากะทู้ (อ๊ามกะทู้) ขึ้นชื่อในด้านการขอพรให้เป็นผู้มีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย และห่างหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
-ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย(อ๊ามจุ้ยตุ่ย) เป็นอ๊ามเก่าแก่ของภูเก็ตนิยมไหว้ขอพรให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
-ศาลเจ้าบางเหนียว (อ๊ามบางเหนียว) โดดเด่นในเรื่องการขอพรด้านการค้าขาย การงาน การเงิน ให้มีความมั่นคงเจริญรุ่งเรือง
-ศาลเจ้าท่าเรือ(อ๊ามท่าเรือ) ภายในศาลเจ้ามีองค์พระโป้เส่ง ไต่เต่ (หงอ จินหยิน) เป็นพระประธาน ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นเทพเจ้าที่มีความสามารถในวิชาแพทย์แผนโบราณการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
-ศาลเจ้าสะปำ(อ๊ามสะปำ) เป็นอีกหนึ่งอ๊ามที่นักธุรกิจ นักเดินทางหลายคนเดินทางเพื่อไปขอพรในเรื่องของ ธุรกิจ การงาน การเงิน ให้มั่นคงและเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น
และพลาดไม่ได้กับเมนูอาหารเจ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็น Creative Cities of Gastronomy หรือ เป็นเมืองที่มีความสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร และยังเป็นเมืองแรกในอาเซียนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558
ดังนั้นนักเดินทางที่เข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักจะได้พบกับอาหารเพื่อสุขภาพหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้านเด็ดสตรีทฟู้ดชื่อดังไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์
โดยจัดเมนูสุดพิเศษไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลิ้มลอง อาทิ ต่าวกั้วจี่ หรือ เต้าหู้ทอดยัดไส้ถั่วงอกทอด, ขนมจีโจ้, เบเฮ่จี่, ห่อหมกเจ, หลนเต้าเจี้ยวเจ, โอวต้าวเจ, หมี่หุ้นแกงปูเจ, โลบะเจ, หมี่ฮกเกี้ยน, แกงไตปลาเจ, แกงเหลืองเจ, ผัดสะตอเจ, ยำส้มโอเจ ฯลฯ