เทคนิคการเลือกซื้อเพชรแท้ ตรวจสอบง่ายๆ ด้วยหลัก 4Cs
ผู้เชี่ยวชาญฯ เผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชรแท้ และวิธีการตรวจสอบง่ายๆ ด้วยหลัก 4Cs ได้เพชรแท้ น้ำงาม เสริมราศีผู้สวมใส่ ป้องกันการถูกหลอกซื้อเพชรปลอม
'เพชร' อัญมณีล้ำค่า คุณค่าสูงส่ง ความหมายดี มีมูลค่าสูง หายาก และด้วยเพชรเป็นสิ่งหายากนี่เองจึงมีค่าและราคาแพง ดังนั้นใครก็ตามที่มีเพชรไว้ในครอบครอง ยังบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของชนชั้นสูง ความมั่งคง มีฐานะและรสนิยมที่ดีของผู้ครอบครองอีกด้วย อีกทั้งเพชรยังมีความหมายดีๆ ส่งเสริมพลังบวก สร้างแรงบัลดาลใจให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นมีเพชรแท้เพชรปลอมออกมาวางขายกันมากมาย ในฐานะผู้บริโภคก็ต้องการที่จะได้เพชรแท้ น้ำงาม ไว้สวมใส่เสริมราศีให้ดูเลอค่า แต่ก็เกรงว่าจะได้เพชรปลอมไม่สมราคาที่จ่ายไป จะทำอย่างไรดี?
วันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรที่จะมาเผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชร และวิธีการตรวจสอบเพชรง่ายๆ ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ให้เราเข้าใจด้วยหลัก 4Cs ให้ได้เพชรแท้น้ำงาม มาฝากกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทำไม ‘อิสราเอล’ เป็น ‘ผู้ส่งออกเพชร’ อันดับ 6 โลก ทั้งที่แทบไม่มีแหล่งอัญมณีในประเทศ
ประเมินราคาเพชรด้วยตนเองใช้หลักง่ายๆ 4Cs
นาย ชเนนทร์กันต์ จักรวาลวิบูลย์ Head of gems laboratory บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด 'NGG JEWELLER' อาณาจักรเครื่องประดับแท้จากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับทั้ง เพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี เผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชร และการตรวจสอบให้ได้เพชรแท้น้ำงาม ว่า เพชรถือว่าเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูง มีความหายาก และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนบนโลกส่วนใหญ่รู้จักเพชร จากองค์ประกอบทางเคมีหลักที่แสนจะเรียบง่าย เพชรมีองค์ประกอบหลักเป็นธาตุ คาร์บอน ที่เกิดภายใต้แรงดันและความร้อนที่สูงจากใต้โลก
การประเมินราคาของเพชรนั้นจึงใช้หลักง่ายๆ คือ 4Cs คือ 1. Clarity(ความสะอาด) 2. Color (สี) 3. Cut (การเจียระไน) 4. Carat (น้ำหนัก) โดยพิจารณาดังนี้
1.Clarity (ความสะอาด) ความสะอาดในเพชรคืออะไร? หลายท่านอาจสงสัย เป็นที่ทราบกันดีว่าเพชรเป็นอัญมณีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จึงทำให้มีโอกาสที่จะมีแร่ชนิดอื่นเกิดขึ้นร่วมกัน หรือมีรอยแตกต่างๆ ซึ่งจะถูกเรียกว่า Inclusions เพชรที่มี Inclusions น้อยจะยิ่งมีความหายาก และราคาสูง การจัดระดับความสะอาดจะมีชื่อเรียกต่างๆ ตามระดับความสะอาด เช่น Flawless, internal flawless, VVS1, VS1 เป็นต้น
ซึ่งชื่อเหล่านี้จะเป็นตัวบอกถึงปริมาณ และตำแหน่งของ Inclusions ของเพชรเม็ดนั้นๆ การจัดระดับความสะอาดนั้น จำเป็นจะต้องใช้นักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญในการจัดระดับ เพื่อให้ได้มาตรฐานจะใช้นักอัญมณีศาสตร์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปในการจัดระดับ และจะต้องให้เกรดตรงกัน สองในสาม จึงจะถือว่าเกรดนั้นถูกต้อง
วิธีสังเกตเพชรปลอม ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเพชร
2.Color (สี) การจัดระดับสีเพชร เป็นการจัดระดับสีของเพชรว่า เพชรมีสีใสไม่มีสี ถึงสีเหลืองมากน้อยเพียงใด เพชรที่มีเกรดดีที่สุดคือ สี D หรือ น้ำร้อย คือเป็นเพชรที่ใสไม่มีสีมากที่สุด การจัดระดับสีเพชร นักอัญมณีศาสตร์ จะนำเพชรสีมาตรฐานมาเปรียบเทียบกับเพชรที่ต้องการจัดระดับว่าตรงกับช่วงสีใด ภายใต้แสงไฟ และสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม เพื่อให้ได้สีที่ถูกต้อง จะถูกทำการจัดระดับเช่นเดียวกับการจัดระดับความสะอาด คือต้องให้นักอัญมณีศาสตร์ทำการจัดระดับสีเพชรให้ตรงกันอย่างน้อยสองในสามสี จึงจะถือว่าเกรดนั้นถูกต้อง
3.Cut (การเจียระไน) เหลี่ยมเจียระไนที่เป็นที่นิยมมากสำหรับเพชรนั้นคือการเจียระไนแบบ Brilliant cut หรือเหลี่ยมเกสร และรูปร่างที่เป็นที่นิยมคือรูปร่างกลม การเจียระไน คือการทำให้เพชรที่คุณค่ามากขึ้น ทำให้เพชรได้ส่องประกายได้อย่างสวยงาม การที่จะทำให้เพชรมีประกายสวยงามได้ จะต้องมีการเจียระไนที่มีสัดส่วน สมมุติ และการขัดเงาที่ถูกต้อง
การจัดระดับการเจียระไน จะเป็นการวัดสัดส่วน องศา ของเหลี่ยมต่างๆ การใช้นักอัญมณีศาสตร์ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ จึงมีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์หาสัดส่วน ตรวจสมมุติต่างๆของเพชร จากนั้นนักอัญมณีศาสตร์ จะมาตรวจดูความเรียบร้อยของการขัดเงา ซึ่งได้ผลการจัดระดับที่ถูกต้อง จะทำเช่นเดียวกับการจัดระดับของความสะอาด และสี
4.Carat(น้ำหนัก) คำว่า กะรัต มาจากเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Carob เป็นพืชที่มีอยู่ในแถบตะวันออกกลาง ในสมัยก่อนที่จะมีเครื่องชั่งที่เป็นมาตรฐาน เมล็ด Carob ถูกนำมาใช้แทนตุ้มน้ำหนักในการชั่งอัญมณี น้ำหนัก1กะรัตเท่ากับ 0.2 กรัม การซื้อขายเพชรนอกเหนือจากเรื่องคุณภาพความสะอาด และสี น้ำหนักถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อด้านราคาเช่นกัน
เนื่องจากราคาของเพชรที่มีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วจะมีราคาที่สูงกว่าเพชรที่มีน้ำหนักน้อย สมมุติว่าเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต มีราคา สามแสนบาทต่อกะรัต เพชร 2 กะรัตที่มีคุณภาพเท่ากัน ราคาสี่แสนบาทต่อกะรัต เนื่องจากยิ่งเพชรที่มีน้ำหนักมาก ยิ่งหายาก ราคาต่อหน่วยจึงยิ่งสูง จึงทำให้หลายๆคนชอบเพชรที่มีน้ำหนัก 0.97 – 0.99 กะรัต เนื่องจากจะมีขนาดใกล้เคียงกับเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต แต่ได้ราคาที่ถูก
นอกจากหลัก 4Cs แล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือความเป็นธรรมชาติของเพชร หรือเป็นเพชรธรรมชาติ ไม่ใช่เพชรสังเคราะห์ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าเพชรคือ แร่ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นคาร์บอน ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้อง เกิดภายใต้ความร้อนและแรงดันที่สูง
ส่วนเพชรปลอม หรือที่เราเรียกว่า เพชรสังเคราะห์ คือเพชรที่มีองค์ประกอบหลักคือธาตุคาร์บอนเช่นเดียวกับธรรมชาติ แต่การเกิดมีมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยวทำให้เกิดเป็นผลึกขึ้นมา มีวิธีการสังเคราะห์หลักอยู่สองวิธี คือ HPHT และ CVD เพชรสังเคราะห์มีชื่อเรียกได้หลากหลายชื่อ เช่น เพชรHPHT, เพชร CVD, Synthetic diamond, Lab grown diamond, Laboratory grown diamond, Vegan diamond เพชรสังเคราะห์จะมีการเกิดที่ไม่เหมือนกับเพชรธรรมชาติ
การแยกแยะเพชรธรรมชาติกับเพชรสังเคราะห์ออกจากกัน ไม่สามารถที่จะใช้ตาเปล่า หรือกล้องส่องกำลังขยาย 10 เท่าที่เรียกกันว่า ลูป แม้กระทั้งกล้องไมโครสโคปกำลังขยาย 45 – 60 เท่า ไม่สามารถที่จะเห็นความแตกต่างของเพชรธรรมชาติกับเพชรสังเคราะห์ ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ใช้ในการแยกแยะ ทั้งเครื่องมือขนาดเล็กที่มีผลบอกว่าเพชรเม็ดนี้ผ่านหรือไม่ผ่าน ซึ่งเครื่องเหล่านั้นจะมีความแม่นยำของผลอยู่ที่ไม่เกิน 90% แต่เครื่องมือที่ทางห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี ของ 'NGG JEWELLERY' ใช้นั้นเป็นเครื่องมือเฉพาะเจาะจงในการดูลักษณะร่องรอยการเจริญเติบโตของผลึกเพชรที่จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนได้ผลการตรวจสอบ 100%
แต่การตรวจสอบนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเพื่อดูถึงโครงสร้าง และจำเป็นที่จะต้องใช้นักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญโดยเฉพาะถึงจะสามารถแยะแยะได้ ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ทางห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี ของ 'NGG JEWELLERY' ตรวจสอบเพชรทุกเม็ดทุกกะรัต เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเพชรทุกเม็ดได้ผ่านเครื่องมือ และนักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญทุกเม็ด จึงทำให้เพชรของ NGG มีคุณภาพที่ตรง และทำให้ผู้ชื้อมั่นใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเพชรธรรมชาติอย่างแน่นอน
เพียงนำเทคนิคง่ายๆไปลองใช้กัน ต่อไปเราก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าโดนหลอกให้ซื้อเพชรปลอม หรือจะให้แน่ใจ ก็เลือกซื้อจากร้านที่มีใบเซอร์ ฯ GIA เชื่อถือได้และมีห้องแล็บที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย ผสานเทคโนโลยีที่แม่นยำ และยิ่งมีนักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญมาช่วยตรวจสอบทุกเม็ด พร้อมใบรับประกันคุณภาพ แค่นี้เราก็จะได้เพชรแท้ น้ำงาม มาสวมใส่ ได้อย่างเชิดฉาย