วอนยอง IVE ขึ้นแท่น ‘IT GIRL’ สาวฮอตลูกรักเกาหลีใต้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของ “วอนยอง” หรือ Jang Wonyoung สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังจากเกาหลีใต้ “IVE” เป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ฐานะศิลปิน K-POP แต่ในฐานะแฟชั่นไอคอล แบรนด์แอมบาสเดอร์ เดินสายออกอีเวนต์ทั้งในและนอกประเทศ รับบทพิธีกร (MC) รายการเพลงมากมาย ไปจนถึงงานประกาศรางวัลสำคัญต่างๆ และที่สำคัญในช่วงที่หน้าที่การงานของเธอกำลังรุ่งสุดๆ เธอมีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับของ IVE หรือไม่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องเคยเห็นเธอผ่านโซเชียลมีเดีย หรือแคมเปญโฆษณาตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชื่อดัง

วอนยองในแคมเปญโฆษณา Hapa Kristin (IG : for_everyyoung10)

ด้วยความโด่งดังในฐานะศิลปิน หน้าตาที่น่ารัก สไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น ทำให้ “วอนยอง” กลายเป็นสาวฮอตขวัญใจชาวเกาหลีใต้ได้ไม่ยากหรือที่เรียกกันว่า “IT GIRL” หรือ อิทเกิร์ล แต่ไม่ใช่แค่นั้นสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของใครหลายคนก็คือความสามารถ ความตั้งใจ และความทุ่มเทในการทำงาน ไปจนถึงการวางตัวและทัศนคติที่ดี แต่ก่อนอื่นต้องอธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า ความหมายของ IT GIRL คืออะไร

IT GIRL นิยามของสาวๆ ที่มีความโดดเด่น ?

วลี “IT GIRL” ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในสังคมชนชั้นสูงของอังกฤษ เพื่อใช้เรียกผู้หญิงที่มีความโดดเด่นทันสมัยไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา บุคลิก หรือเสื้อผ้าหน้าผม สามารถดึงดูดสายตาของคนทั่วไปได้ไม่ยาก แต่หลังจากนั้นวลีดังกล่าวเริ่มขยายไปยัง “อุตสาหกรรมแฟชั่น” และ “อุตสาหกรรมบันเทิง” ซึ่งจากข้อมูลของ VOUGE ระบุว่า คลาร่า โบว์ (Clara Bow) นักแสดงสาวจากภาพยนตร์เรื่อง “IT” ในปี 1927 คือต้นตำรับของวัฒนธรรม “IT GIRL” ที่มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด และกลายเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลอย่างมากในเรื่องของ “แฟชั่น” ส่วนหนึ่งที่สังเกตได้ก็คือในช่วงที่เธอกำลังโด่งดังจุดเด่นในการแต่งหน้าของเธอคือการเขียนคิ้วให้บางเฉียบ และแน่นอนว่าสาวๆ ในยุคนั้นต่างก็พากันเขียนคิ้วตามเธอ

คลาร่า โบว์ (VOUGE)

หลังจากนั้นเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็มีบรรดา IT GIRL ผู้โด่งดังเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มาริลีน มอนโร (Marilyn Monroe) ในยุค 50, ออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) แห่งยุค 60, ฟาร์ราห์ ฟอว์เซต (Farrah Fawcett) จากยุค 70 หรือ เจนนิเฟอร์ แอนิสตัน (Jennifer Aniston) ที่บางคนเรียกเธอว่าเป็นราชินีแห่งยุค 90 เลยทีเดียว

ด้วยความที่ IT GIRL มักมีความโดดเด่นในเรื่องของ “ความสวย” และ “มีสไตล์” ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต่างพากันติดต่อพวกเธอให้มาร่วมแคมเปญของแบรนด์ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงมักเห็นพวกเธอได้ตามสื่อโฆษณาทุกรูปแบบ เรียกได้ว่าหันหน้าไปทางไหนก็มักจะต้องเห็นโฆษณาของเธออย่างน้อยหนึ่งครั้ง หรือถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็ต้องเห็นพวกเธอในเกือบทุกแพลตฟอร์ม

วอนยอง IT GIRL ลูกรักเกาหลีใต้ ที่มาพร้อมความสามารถรอบด้าน

ใน “อุตสาหกรรมบันเทิง” ของเกาหลีใต้ถือว่ามี IT GIRL มากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ นักแสดงสาว แบซูจี ที่ได้รับฉายาว่า Nation's First Love, ยุนอา Girls' Generation, เจนนี่ BLACKPINK, ซอลฮยอน AOA และล่าสุด วอนยอง IVE

สำหรับเส้นทางในวงการบันเทิงของ “วอนยอง” เริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกของค่าย Starship Entertainment และได้เป็นตัวแทนเด็กฝึกไปแข่งขันในรายการ Produce 48 ที่แม้ว่าเธอจะมีอายุน้อยที่สุดในการแข่งขัน แต่ก็สามารถคว้าอันดับหนึ่งมาครองได้ ทำให้ได้เป็นเซนเตอร์ของวง IZ*ONE ในปี 2018 จากการโหวตของแฟนๆ ทั่วประเทศ เรียกได้ว่าวอนยองได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่ยังไม่ได้เดบิวต์ ด้วยความที่อายุยังน้อยทำให้มีโอกาสได้พัฒนาความสามารถในการร้องและเต้นได้ไม่ยากและเรียกว่ามีพัฒนาที่ก้าวกระโดด ทำให้หลายคนต่างจับตาว่าเมื่อหมดเวลาของ IZ*ONE แล้ววอนยองจะได้เดบิวต์เป็นศิลปินวงใด

วอนยองในรายการ Produce 48 (kpopping)

ต่อมาในปี 2021 วอนยองก็ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปแบบเต็มตัวในวง “IVE” ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังทั้งในแง่ของนักร้อง นักเต้น และที่สำคัญทักษะการแสดงของเธอที่มองเห็นได้ชัดเจนจากมิวสิกวิดีโอ แม้ว่าเธอจะทุ่มเทการทำงานในกับวงการบันเทิง แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งการเรียน โดยเธอจบการศึกษาจาก School of Performing Arts Seoul (SOPA) ในปี 2023

แม้ว่าภาพลักษณ์ของวอนยองจะเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มาพร้อมรอยยิ้มอันสดใสอยู่ตลอด แต่เธอเองก็ตกเป็นเป้าที่เหล่าแอนตี้แฟนโจมตีมากกว่าหนึ่งครั้ง ทั้งการกล่าวหาว่าเธอทำตัวแอ๊บแบ๊ว จนทำให้ใครหลายคนหมั่นไส้ หรือมองว่าเธอทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาสมาชิกคนอื่น แต่การกล่าวหาเหล่านั้นก็ต้องถูกลบล้าง เพราะบรรดาสมาชิกในวงก็ออกมายืนยันว่าวอนยองเป็นคนที่มีทัศนคติดี มีความเป็นมืออาชีพสูง วางตัวดี มีความมั่นใจในตัวเอง และที่สำคัญเธอเป็นคนที่อัธยาศัยดีมาก คอยส่งพลังบวกให้เพื่อนๆ อยู่เสมอ จนทำให้การร่วมงานกับเธอเป็นเรื่องง่ายและแทบจะไม่มีปัญหาเลย

IVE (the bias list)

เหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนได้เห็นความเป็นมืออาชีพของวอนยองก็คือตอนที่เธอได้รับบาดเจ็บขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ I AM และต้องเย็บถึง 7 เข็ม แต่เธอก็ยังทำงานต่อจนจบ

นอกจากนี้วอนยองถือว่าเป็นไอดอลที่วางตัวได้ดีมาก เพราะไม่ว่าเธอจะโดนโจมตีด้วยเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมากแค่ไหน หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องแปลกๆ (เช่น การกินไก่ด้วยตะเกียบ) ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าภายในใจของเธอรู้สึกอย่างไร แต่การแสดงออกของเธอกลับเป็นไปด้วยความสงบ และปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าทุกครั้งที่ต้องออกงานหรือพบปะแฟนๆ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเธอทำงานในฐานะไอดอลมืออาชีพ

ด้วยภาพลักษณ์ที่ดี มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นทำให้หลายแบรนด์ดังในเกาหลีใต้ เลือกที่จะชวนเธอมาร่วมงานในฐานะ “พรีเซนเตอร์” และ “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องสำอาง Innisfree และ AMUSE แบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า SJSJ, SUECOMMA BONNIE, Kirsh, rolarola และ Gospheres ไปจนถึงแบรนด์คอนแทคเลนส์ยอดฮิตที่แม้แต่คนไทยเองยังต้องพรีออเดอร์อย่าง Hapa Kristin รวมถึง SK Telecom เครือข่ายโทรศัพท์มือถือของเกาหลีใต้ ทำให้เธอมีโอกาสขึ้นนิตยสารแฟชั่นชื่อดังมากมาย

วอนยองในแคมเปญโฆษณา AMUSE (IG : for_everyyoung10)

ไม่ใช่แค่ในเกาหลีใต้เท่านั้นแต่วอนยองยังถือว่าเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับแบรนด์หรูไปทั่วโลกจากการที่ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่น และแบรนด์เครื่องประดับชื่อดัง เช่น EIDER, FRED และ MIU MIU ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่เธอได้รับเชิญไปชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ดังมากมายทั่วโลกและที่สำคัญเธอได้นั่งแถวหน้าประกบกับคนดังเบอร์ต้นๆ ของวงการอีกด้วย

วอนยองในงาน Miu Miu S/S 2023 Womenswear Show (kpopping)

นอกจากบทบาทของศิลปินและผู้มีอิทธิพลด้านแฟชั่นแล้ว “วอนยอง” ยังได้รับการยอมรับในฐานะพิธีกรอีกด้วย ทั้งงานประกาศรางวัล รายการเพลง และงานอีเวนต์มากมายทั้งในเกาหลีใต้และต่างประเทศ เนื่องจากเธอสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี หนึ่งในรายการเพลงชื่อดังที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะ MC ก็คือ รายการเพลง Music Bank ของสถานีโทรทัศน์ KBS นอกจากนี้เธอยังเป็น MC ของงานประกาศรางวัล Asia Artist Awards ถึง 3 ปีติดกัน

วอนยองและอีแชมิน ในฐานะ MC รายการ Music Bank (korseries)

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในผลงานของ วอนยอง IVE เท่านั้น ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเธอถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่มีอิทธิพลต่อ “อุตสาหกรรมบันเทิง” และ “อุตสาหกรรมแฟชั่น” โดยเธอยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นในเส้นทางนี้ได้อีกมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธออายุยังน้อย มีความโดดเด่นทั้งการทำงานและสไตล์การแต่งตัว แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “การวางตัว” และ “ทัศนคติ” ที่ดี ทำให้เธอเป็นที่รักของคนในวงการและคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะขึ้นแท่น “IT GIRL” ลูกรักของชาวเกาหลีใต้

อ้างอิงข้อมูล : VOUGE, allkpop, soompi และ daebak