Onitsuka Tiger X DoiTung ความคิดริเริ่มเหนือพรมแดน งานฝีมือเพื่อความยั่งยืน
เปิดความเป็นมา สนีกเกอร์ Onitsuka Tiger X DoiTung (โอนิซึกะ ไทเกอร์ และ ดอยตุง) การสานความร่วมมือจากครั้งแรกสู่ครั้งที่ 2 ยังคงหนุนงานฝีมือ มุ่งมั่นเพื่อความยั่งยืนระดับโลก
KEY
POINTS
- Onitsuka Tiger X DoiTung (โอนิซึกะ ไทเกอร์ และ ดอยตุง) เรื่องราวของความยั่งยืนจากไทยและญี่ปุ่น ที่บอกเล่าผ่าน "รองเท้า"
- ความร่วมมือกันในลักษณะนี้สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมและการจ้างงานที่มีความหมายแก่ชาวดอยตุง
- รองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น โดยที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นความยั่งยืน
- สนีกเกอร์เหล่านี้มาพร้อมกับเรื่องราวเบื้องหลังที่ได้ให้นิยามใหม่ของคำว่า "เท่" ในแฟชั่นยุคปัจจุบัน
Onitsuka Tiger (โอนิซึกะ ไทเกอร์) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าผลักดันการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าตื่นเต้นซึ่งผสมผสานสไตล์และการใช้งานเข้าด้วยกัน
ปี 2567 นี้ โอนิซึกะ ไทเกอร์ ภูมิใจนำเสนอการร่วมมือกันเป็นครั้งที่ 2 กับ โครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งถือเป็นโครงการหลักของ ‘มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์’ ในการเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในราชอาณาจักรไทย
และเป็นอีกครั้งที่ได้สร้างสรรค์ รองเท้าสนีกเกอร์ ที่เกิดจากความร่วมมือและความคิดริเริ่มในการก้าวข้ามพรมแดนของ 2 แบรนด์จาก 2 สัญชาติที่เชื่อมั่นในนโยบายเดียวกัน คือการ สนับสนุนงานฝีมือท้องถิ่น และ สร้างความยั่งยืนในสังคม นำเสนอคอลเลคชั่นร่วมสมัยที่ผสมผสานแฟชั่นเข้ากับกีฬาและนวัตกรรมอันล้ำสมัย
Onitsuka Tiger X DoiTung ครั้งแรก พ.ศ.2564
เมื่อปี 2562 ดอยตุง ได้เริ่มติดต่อเป็น partnership ตกลงทำงานร่วมกันกับ Onitsuka Tiger และ18 เดือนต่อมา นักออกแบบสิ่งทอไทยและทีมการผลิตของญี่ปุ่นได้ร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงเส้นทางแห่งความยั่งยืนของทั้งสององค์กร
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แม้มีการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ COVID-19 ทีมงานก็ยังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง
ผลที่ออกมาคือ ผ้าทอมือ ที่ใช้เวลาในการผลิตหนึ่งสัปดาห์ ตั้งแต่การปั่นด้ายไปจนถึงรูปแบบของลวดลาย ซึ่งเมื่อเทียบกับผ้าทอด้วยเครื่องจักรแล้ว วัสดุที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะนุ่มกว่า และงานดีไซน์ที่สำเร็จแล้วจะมีความละเอียดอ่อนกว่า
ดอยตุง ออกแบบลวดลายและผลิตผ้าทั้งหมดด้วยการทอมืออย่างพิถีพิถันตั้งแต่การปั่นด้ายไปจนถึงขึ้นรูปแบบของลวดลาย ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่าผ้าทอด้วยเครื่องจักร
จากนั้น โอนิซึกะ ไทเกอร์ จึงนำผ้าทอดอยตุงไปผลิตรองเท้าสามรุ่นยอดนิยม ได้แก่ MEXICO 66™, MEXICO 66™ PARATY และ SERRANO™ มีทั้งหมด 5 ลายด้วยกัน
สิ่งทอที่นำมาใช้สำหรับรองเท้าทั้งสามรุ่นในคอลลาบอเรชั่นแรกนี้ เป็นลวดลายที่คัดสรรมาอย่างดีจากผ้าแบบดั้งเดิมหลายประเภทที่ผลิตในท้องถิ่น สีแดงและสีน้ำเงินที่นำมาใช้นั้นมาจากสีของ Onitsuka Tiger Stripes
ในส่วนของรองเท้า MEXICO 66™ อีกสองรุ่นที่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะประเทศไทยนั้น ได้ใช้ด้าย PET รีไซเคิล 100% จากขวดพลาสติก ทออย่างพิถีพิถันที่ดอยตุง
โดยรุ่นหนึ่งจะเป็นผ้าสีดำพร้อมปักโลโก้ Onitsuka Tiger ส่วนอีกรุ่นหนึ่งเป็นผ้าลายเสือที่สลับซับซ้อน ให้ความรู้สึกเก๋และทันสมัย นอกจากนี้สีแดงและสีเหลืองบนพื้นรองเท้านั้นมาจากสีหลักของดอยตุงและ Onitsuka Tiger
ความร่วมมือกันในลักษณะนี้ สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมและการจ้างงานที่มีความหมายแก่ชาวดอยตุง
รองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความยั่งยืน
สนีกเกอร์เหล่านี้จึงมาพร้อมกับเรื่องราวเบื้องหลังที่ได้ให้นิยามใหม่ของคำว่า "เท่" ในแฟชั่นยุคปัจจุบัน
Onitsuka Tiger X DoiTung ครั้งที่ 2 ปีพ.ศ.2567
สินค้าในคอลเลคชั่น 2024 (พ.ศ.2567) เป็นการผสมผสานระหว่างงานฝีมือแบบดั้งเดิมของช่างฝีมือในประเทศไทยเข้ากับรองเท้ารุ่นไอคอนิก อันเป็นเอกลักษณ์ของ Onitsuka Tiger ทำให้เกิดเป็นรองเท้าที่รวมไว้ซึ่งคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งแบบไทยและแบบเฉพาะของ Onitsuka Tiger
เป้าหมายคือการแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์เหนือกาลเวลา โครงสร้างที่ทนทานและมอบความสบายเมื่อสวมใส่ ซึ่งจะเหมาะสมกับผู้คนที่หลากหลายทั่วโลก รองเท้าทั้งหมดนี้ผลิตขึ้นโดยผ่านกระบวนการผลิตที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม และ วัสดุที่ยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ ผ้าทอในคอลเลคชั่นนี้จึงเป็นผ้าออริจินัลที่พัฒนาใหม่และทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ Onitsuka Tiger โดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากขึ้น
Onitsuka Tiger X DoiTung คอลเลคชั่นปี 2024 (พ.ศ.2567) ประกอบด้วยรองเท้าที่โดดเด่นที่สุดของ Onitsuka Tiger จำนวน 3 รุ่นที่ใช้ผ้าทอมือของดอยตุง ได้แก่
รองเท้าสนีกเกอร์ รุ่น MEXICO 66 ใช้เส้นด้ายรีไซเคิล PET 100% สำหรับสิ่งทอ และทอด้วยเส้นด้ายที่ทำให้เกิด Tricolor Series หรือโทนสีซิกเนเจอร์ของโอนิซึกะ ไทเกอร์ คือ สีแดงและสีน้ำเงินบนพื้นสีขาว ที่สืบทอดยาวนานกว่า 50 ปี นอกจากนี้ หนังสังเคราะห์และหนังกลับยังใช้วัสดุรีไซเคิลอีกด้วย
รองเท้าสนีกเกอร์รุ่นนี้ยังมีผ้าทอสีสีเขียวอ่อน (Light Green) ให้เลือกอีกหนึ่งความชอบ
รองเท้าสนีกเกอร์ รุ่น MEXICO 66 PARATY ดูสะอาดตาด้วยตัวรองเท้าส่วนใหญ่เป็นสีขาวและแฝงความสนุกตรงส่วนหลังของรองเท้าที่เป็นสีสัน รีไซเคิลตั้งแต่ส่วนบนไปจนถึงผ้าทอมือ รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรองเท้าทำให้ง่ายในการจับคู่กับเสื้อผ้าหลายสไตล์ เหมาะสำหรับโอกาสต่างๆ อย่างมีสไตล์
รองเท้าสนีกเกอร์ รุ่น SERRANO CL เสน่ห์หลักอยู่ที่การใช้เฉดสีอ่อนสำหรับผ้าทอมือดอยตุงซึ่งทอจากเส้นด้ายรีไซเคิล เป็นการผสมผสานระหว่างเฉดสีส้มและสีครีมกันอย่างกลมกลืน, SERRANO CL มีต้นแบบมาจากรองเท้าที่มีหนามสำหรับลู่วิ่งและลานที่พัฒนาขึ้นในช่วงปี 1970 โดยมีรูปลักษณ์แบบมินิมอลลิสต์
MEXICO 66, MEXICO 66 PARATY และ SERRANO CL ล้วนโดดเด่นด้วยผ้าทอมือที่ไม่ซ้ำใคร ส่งผลให้เกิดรองเท้าผ้าใบที่ผสมผสานความสบาย ความทนทาน และความเป็นอมตะ
รองเท้าทุกรุ่นวางจำหน่ายในร้าน Onitsuka Tiger และบนอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการ และ ร้านดอยตุง ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
นอกเหนือจากรองเท้าแล้ว ในคอลลาบอเรชั่นโปรเจคปีนี้ยังมีเครื่องแต่งกายที่จะวางขายเฉพาะร้านดอยตุงอีกด้วย ประกอบด้วย
กางเกงขายาวทรงม้ง เอวยางยืด สวมใส่สบาย พร้อมกระเป๋าด้านหลังฝั่งขวา เป็นการทอแบบ 4 เขา 6 ไม้เหยียบ ทอผสมเส้นใยเรยอนและฝ้าย สามารถแมตช์ลุคกับรองเท้ารุ่น Mexico 66 Paraty ได้อย่างลงตัว
กางเกงขาสั้น พร้อมกระเป๋าด้านข้างและด้านหลัง ตัดเย็บจากผ้าทอมือทั้งชิ้น สวมใส่สบายด้วยเอวยางยืดและปรับกระชับได้ด้วยเชือกผูกเอว สามารถแมตช์ลุคกับรองเท้ารุ่น Mexico 66 รุ่น Thai-Exclusive Model
เสื้อเชิ้ตแขนสั้น เสริมรายละเอียดจากผ้าทอมือที่กระเป๋าเสื้อและกระดุม ทอผสมเส้นใยเรยอนและฝ้ายดอยตุง สามารถแมตช์ลุคกับรองเท้ารุ่น Mexico 66 Paraty
ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Onitsuka Tiger และ โครงการพัฒนาดอยตุง ที่มีต่อการเคลื่อนไหวเพื่อความยั่งยืนระดับโลกที่กำลังเติบโต โดยสัญญาว่าจะเป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้และผู้คนทั่วโลก
