เปิดตัวหนังสือ 'เราผู้ไม่อาจหยุดยั้ง Unstoppable Us’ ภาคต่อ ‘เซเปียนส์’

หนังสือ ชุด เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ Sapiens A Brief History of Humankind, โฮโมดีอุส : ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้, 21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21

เป็นหนังสือที่เปิดโลกให้กับนักอ่านหลาย ๆ คน และประสบความสำเร็จต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี ต่อยอดมาเป็น เซเปียนส์ประวัติศาสตร์ ฉบับกราฟิก 

 

ล่าสุด ยูวัล โนอาห์ แฮราลี ได้ออกหนังสือเล่มใหม่พร้อมกันทั่วโลก

วันที่ 23 กันยายน 2565 คธาวุฒิ เกนุ้ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ 'Unstoppable Us เราผู้ไม่อาจหยุดยั้ง' ณ โซน think space ร้านหนังสือ B2S สาขาเซ็นทรัลพระรามเก้า

บรรยากาศภายในงาน เริ่มต้นด้วยการแสดง Steeet Theatre โดย กั๊ก วรรณศักดิ์ ศิริหล้า เจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง และรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขาผู้แสดงสมทบยอดเยี่ยม 

ต่อด้วยการเสวนา โดย ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์, นิ้วกลม สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์, ครูทอม จักรกฤต โยมพยอม, น้องต้นหลิว เรไร สุวีรานนท์ ดำเนินรายการโดย ทราย เจริญปุระ 

• เซเปียนส์ของเด็กพรีทีน และผู้ใหญ่ทุกคน

ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ ผู้แปลและผู้อำนวยการสำนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ สวทช. กล่าวว่า เซเปียนส์ (ได้แก่ เซเปียนส์, 21 บทเรียน, โฮโมดิอุส) มีเนื้อหาที่แน่นมาก

“เริ่มจากกำเนิดจักรวาล มีแต่ตัวอักษร คนได้อ่านจำกัดจำนวน ก็เลยมีชุด เซเปียนส์ฉบับกราฟฟิค ออกมา ทำเนื้อหาให้เบาลงนิดหนึ่ง เปลี่ยนวิธีเล่าเรื่อง เป็นการ์ตูน อ่านได้ง่ายขึ้น

ส่วนเล่มล่าสุด ‘Unstoppable Us เราผู้ไม่อาจหยุดยั้ง’ เขาอยากเล่าเรื่องตรงไปที่ผู้อ่านระดับ ประถมศึกษาตอนปลาย (พรีทีน 8-12 ขวบ) โดยตัดรายละเอียดบางอย่างทิ้งไป 

มีมุมมองเล่าเรื่อง มีตัวอย่าง เด็กรณรงค์อะไรบางอย่างแล้วประสบความสำเร็จสูงซึ่งเด็ก ๆ สามารถทำแบบเดียวกันได้ เพื่อช่วยโลก เขาสร้างค่านิยมใหม่ ทำให้เด็กๆ รักโลก ในมุมที่มีความรู้

ยูวัล โนอาห์ แฮราลี เป็นนักเขียนที่เก่งมาก สามารถเลือกปริมาณเนื้อหา วิธีการเล่า ได้พอดิบพอดี รวมทั้งตัวอย่าง

ในเล่มนี้กราฟฟิคตัวการ์ตูนสวยน่ารักมาก สามารถขยายไปปิดฝาผนังห้องนอนห้องนั่งเล่นได้ สวยขนาดนั้น

ในชุดนี้มี 4 เล่ม ต้นฉบับ 2,3,4 เขากำลังทำอยู่ เล่มนี้เราได้รับสิทธิ์วางตลาดพร้อมกับทั่วโลก ซึ่งเล่มก่อนหน้านี้เขาออกมานานแล้วถึงจะให้เรา 

ยูวัล บอกว่า การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ทางวิทยาศาสตร์ เด็ก ๆ ก็ทำได้ และบางทีการค้นพบก็ไม่ได้ลำบากซับซ้อน แค่ทำสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่ทำ

เช่น นักวิจัยเข้าไปในถ้ำเยอะแยะ ไม่เจอ แต่เด็กเข้าไปหนแรก เงยมอง แล้วเจอ แล้วก็มีตัวอย่างที่เด็กรณรงค์ช่วยเหลือสัตว์ ทำให้เด็กเห็นศักยภาพตัวเอง

ยูวัล เป็นโฮโมเซ็กช่วล ประเด็นเพศสภาพเขาชัดเจนมาก ในฉบับกราฟฟิคเขาห้ามใช้คำแสดงเพศ ในเล่ม Unstoppable Us ห้ามใช้คำระบุเพศ

แล้วเขาก็อัพเดทข้อมูลตลอดเวลา เพื่อให้ใช้อ้างอิงได้ มีความถูกต้องสูงสุด เป็นคุณงามความดีของหนังสือที่เขาทำ"

• หนังสือประวัติศาสตร์ ที่สนุกมาก

นิ้วกลม-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนชื่อดัง กล่าวว่า อ่าน เซเปียนส์ มาสามรอบแล้วสนุกมาก การอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มนุษยชาติมันสนุกแบบนี้ได้ด้วยหรือ

“จักรวาล เซเปียนส์ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เขาเขียนขึ้นมาคุยกับคนร่วมสมัย เอาเหตการณ์ประวัติศาสตร์โยงมาถึงคำถามหลัก ๆ ในปัจจุบัน ทั้งเรื่องความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ และเรื่องสิ่งแวดล้อม

ไม่ใช่เพียงแค่ลีลาการเขียนที่ไหลลื่น แต่เขาเอาประเด็นมาโยงกับคำถามที่เรามีอยู่ในปัจจุบันแล้วทำให้เรา อ๋อ ที่แท้มนุษย์มันก็แบบนี้

เราวิวัฒนาการมาแบบนี้ เราเลยเป็นคนที่ต้องแย่งชิงกัน แล้วมันก็ไม่เคยเปลี่ยน เราจัดการกับสิ่งมีชีวิตจนล้มหายตายจากไปไม่รู้กี่สายพันธุ์แล้ว แล้วเราก็ยังคงทำกันอยู่ 

โลกเปลี่ยนไปคนอ่านหนังสือน้อยลงหรือเปล่า ช่วงแรกที่โซเชียลมีเดียเข้ามาเยอะ เราเข้าใจว่าคนใช้เวลากับสิ่งนี้มากขึ้น แต่พอสังเกตดูคนที่อ่านหนังสือก็ยังอ่าน แล้วก็หาเวลาอ่าน

ขณะเดียวกัน สื่อที่มีมากขึ้นก็ทำให้หนังสือถูกเห็นมากขึ้น จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ มีคนไปทวีตดาราเกาหลีอ่านเล่มนี้ คนรุ่นใหม่ยังคงเข้าถึงหนังสืออยู่ ถึงที่สุดแล้วจักรวาลของหนังสือจะพาเราไปสู่หนังสือที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไมชนชั้นกลางยุคปัจจุบันถึงอยากมีสนามหญ้าหน้าบ้าน ย้อนกลับไปในสมัยก่อนคนที่เป็นขุนนาง มีวัง ต้องมีสนามหญ้าเพื่อแสดงความอลังการ เราเป็นผลลัพธ์ของอดีต ที่เราเป็นอย่างนี้ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์

Unstoppable Us อ่านสนุกว่า เซเปียนส์ มีการขยายความประเด็นในเซเปียนส์ให้กว้างขึ้น มีตัวอย่างในชุมชนของมนุษย์ มีครอบครัวที่มีความหลากหลาย

เราไม่เคยคิดว่าสังคมโบราณมันจะมีแบบนี้ เช่น มีชุมชนที่ผู้ชายแต่งงานกับผู้ชายได้ หรือชุมชนที่ไม่มีการแต่งงาน หรือชุมชนที่จะมีเมียกี่คนก็ได้ มันฉายภาพใหม่ของสังคมบรรพกาล เพราะไม่มีใครรู้อดีต

สิ่งที่เด็ดที่สุดอยู่ในหน้าสุดท้ายของบทที่สี่ ว่า ทำไมสัตว์หายไป เขาไม่ได้เขียนเพื่อสะท้อนปัญหาให้เราเห็น แต่เขาให้แรงบันดาลใจแถมท้าย

แล้วทิ้งเครื่องหมายคำถามไว้กับคนอ่านทุกคน จะไม่บอกว่าคืออะไร พอปิดหน้าสุดท้ายลง เราจะรู้เลยว่าคนเขียนเขียนเล่มนี้ขึ้นมาทำไม"

• ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

ครูทอม คำไทย จักรกฤต โยมพยอม ติวเตอร์ภาษาไทยขวัญใจคนรุ่นใหม่ กล่าวว่า เซเปียนส์ มีการเลือกใช้ภาษา และวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ทำให้คนอ่านเข้าถึงได้มากขึ้น

"Unstoppable Us เป็น หนังสือภาพ ที่ใช้กลวิธีและภาษาเหมาะสมกับเด็ก ๆ หรือคนที่เป็นผู้ใหญ่แต่ไม่ได้รู้ลึกอะไร พอได้อ่านแล้วจะเข้าใจได้โดยละเอียด

นอกจากการใช้ชีวิตอยู่กับความหลากหลายแล้ว เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดขึ้นในโลก

อะไรที่เรารู้สึกว่ามันไม่ตอบสนองกับโลกยุคปัจจุบัน เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งผู้ปกครองก็ควรจะอ่านด้วย

เขามีกลวิธีการเล่าเรื่อง ทำเนื้อหาหนักให้เป็นเบา แล้วเอาไปถ่ายทอดได้ง่าย ยกตัวอย่างเรื่อง ปฏิวัติฝรั่งเศส พอมาเล่าในเล่มนี้

การใช้ภาษา เหมาะกับเด็ก ๆ ที่เริ่มสนใจประวัติศาสตร์เชิงลึก เล่าแล้ว เห็นภาพ สามารถเอาไปเล่าต่อให้เพื่อน ๆ ฟังได้ง่าย

ผมชอบอ่านเรื่องยาก ๆ ที่ถูกทำให้ง่าย หนังสือในจักรวาล เซเปียนส์ ถ้าเราอ่านแล้วค่อย ๆ คิดตามไป จะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเชื่อมโยงกับปัจจุบัน

ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ แล้วเราจะเจอคำตอบ ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น เข้าใจเพื่อนร่วมโลกอีกเยอะเลย"

• เข้าถึงได้ง่ายขึ้น น่าอ่านมากขึ้น

น้องต้นหลิว เรไร สุวีรานนท์ เจ้าของเพจ เรไรรายวัน อายุ 13 ปี กล่าวว่า ชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มการ์ตูน

"ก่อนหน้าคุณพ่อได้อ่าน เซเปียนส์ สามเล่มแรกก่อน แล้วก็ไปซื้อเล่มการ์ตูนมาให้หนูกับน้อง ๆ อ่าน พอได้มาอ่าน Unstoppable Us ก็รู้สึกว่า เนื้อหาคล้าย ๆ กัน

แต่มันไม่ใช่การ์ตูน มันเป็น หนังสือภาพ มีตัวหนังสือเยอะขึ้น มีภาพที่สวยขึ้น หนูชอบเล่มนี้มากกว่า เป็นหนังสือที่เราอ่านแล้วสนุกด้วย 

หัวข้อที่น่าสนใจคือ กำเนิดเซเปียนส์ เป็นใคร ยังไง อะไร เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน เล่มนี้หนูชอบภาพและลายเส้นภาพที่มีความเสมือนจริงมากขึ้น  

การ์ตูนสองเล่มก่อนหน้านี้ น้องหนูที่บ้านอายุ 8 ขวบ ก็อ่านเหมือนกัน เพราะน้องเป็นคนชอบเรื่องประวัติศาสตร์อยู่แล้ว และเข้าถึงง่าย ขนาดน้องก็อ่านได้

พอมีเล่มนี้ Unstoppable Us หนูคิดว่าน้องก็น่าจะชอบเหมือนกัน มีการเล่าเรื่องที่โฟลวมากขึ้น น่าอ่านมากขึ้น หัวข้อที่หนูสนใจมากที่สุดคือ สัตว์หายไปไหน

ถ้าให้แนะนำเพื่อนว่าทำไมถึงต้องอ่านเล่มนี้ หนูจะตอบว่า เพราะมันสนุก"  

รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่ https://www.facebook.com/gypzygroup.co.ltd