เปิดตำนานเพลง "รักคือฝันไป" จากมุกไวรัล "รักไม่ใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง"
ทำความรู้จัก “สาว สาว สาว” เกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของไทย เจ้าของเพลงฮิต “รักคือฝันไป” เพลงระดับตำนานที่มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งกลายเป็นมุกไวรัลอยู่ในขณะนี้อย่าง “รัก ไม่ใช่ ดวงดาวเมื่อพราวแสง” ที่แม้แต่เพจสถานทูตสหรัฐและสวีเดนก็ยังเอามาเล่น
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพลงรักคือฝันไป ได้กลายเป็นมุกไวรัล ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในทวิตเตอร์ตั้งแต่ปี 2563 ในรูปแบบของการใช้สะกดคำถูกต้อง ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยเนื้อเพลงรักคือฝันไปดังนี้
ทวีตนี้ได้รับการรีทวีตไปกว่า 82,700 ครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ย. เวลา 17.00 น.) อีกทั้งยังมีคนได้นำรูปแบบมุกนี้ไปใช้ต่อเนื่องกัน ทั้งในกรณีที่เปลี่ยนเนื้อเพลงข้างล่างเป็นคำอื่น เช่น ฉัน ไม่ใช่ เขาเธอเลยไม่รักเราสักที หรือเปลี่ยนคำด้านบนที่มักสะกดผิดให้กลายเป็นคำที่ถูกต้อง ไม่เพียงแต่คนทั่วไปเท่านั้นที่เล่นมุกนี้ แต่แบรนด์ต่าง ๆ ที่มักมีสินค้าที่เรียกชื่อผิด หรือ แม้กระทั่งสถานทูตต่าง ๆ ที่มีคำที่คนไทยมักพูดผิดก็ร่วมเล่นมุกนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมตบท้ายด้วย “รัก ไม่ใช่ ดวงดาวเมื่อพราวแสง” เช่น สถานทูตสหรัฐ และสถานทูตสวีเดน
สำหรับที่มาที่ไปของเพลงระดับตำนานนี้ ต้องย้อนกลับไปในปี 2524 “ระย้า - ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร” เจ้าของค่ายเพลงรถไฟดนตรี เล็งเห็นว่าตลาดเพลงไทยนั้นยังไม่มีเพลงที่เป็นนักร้องวัยรุ่น จึงได้ปรึกษากับ “อ.วิรัช อยู่ถาวร” เพื่อหาวิธีสร้างความแปลกใหม่และอุดช่องว่างของวงการเพลงไทย
ในที่สุดจึงได้เกิดการรวมตัวกันของนักร้องวัยรุ่นหญิง 3 คน คือ “แอม - เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” “แหม่ม - พัชริดา วัฒนา” และ “ปุ้ม - อรวรรณ เย็นพูนสุข” ในนามของ “สาว สาว สาว” ที่เน้นการประสานเสียง มีท่าเต้นประกอบ และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถือว่าเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของไทย โดยออกอัลบั้มแรกในปี 2525 ชื่อว่า “รักปักใจ” ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากภาพลักษณ์ยังไม่ชัดเจน อีกทั้งงานเพลงยังมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของทั้ง 3 คน
ปี 2526 สาว สาว สาว กลับมาอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ที่ชัดเจน เต็มไปด้วยความสดใส น่ารัก สมกับวัยของทั้ง 3 คน กับอัลบั้มที่ชื่อว่า “ประตูใจ” อัดแน่นไปด้วยเพลงป๊อปร็อก และ บับเบิลกัมป๊อป มีเพลงฮิตอมตะที่ทุกคนสามารถร้องตามได้มาจนปัจจุบัน คือ “รักคือฝันไป” และ “ประตูใจ” โดยอัลบั้มนี้สามารถทำยอดขายได้มากถึง 300,000 ชุด ซึ่งประสบความสำเร็จมากในยุคนั้น อีกทั้ง 2 เพลงข้างต้นยังสามารถติดชาร์ตเพลงในคลื่นวิทยุเป็นเวลานาน
กระแสนิยมของเพลงนี้ส่งผลให้ทั้ง 3 คนโด่งดังเป็นพลุแตกและกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในขณะนั้น มีงานถ่ายแบบนิตยสาร ได้ออกรายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงแสดงคอนเสิร์ตผ่านรายการ “โลกดนตรี” เป็นครั้งแรก และได้สร้างปรากฏการณ์ทำสตูดิโอถ่ายทำแตก เนื่องจากมีคนมารอชมคอนเสิร์ตเป็นจำนวนมาก จนภายหลังทางรายการต้องย้ายสถานที่จัดคอนเสิร์ตมาเป็นสถานที่กลางแจ้งแทน
สาว สาว สาว ยังคงมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 10 อัลบั้ม โดยในปี 2532 ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีโตเกียว ครั้งที่ 18 (Tokyo Music Festival 1989) อีกด้วย ก่อนที่จะยุบวงในปี 2533 โดยได้เล่นคอนเสิร์ตในรายการ “7 สีคอนเสิร์ต” เป็นคอนเสิร์ตอำลา
หลังจากนั้น ทุกคนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตน โดยแอมกลายเป็นนักร้องนักแต่งเพลงแถวหน้าของค่าย “GMM Grammy” มีเพลงฮิตมากมาย ขณะที่แหม่มเป็นศิลปินและผู้บริหารค่าย “RS” ส่วนปุ้ม เป็นนักร้องคนแรกในตระกูล “ลีลา” ภายใต้การดูแลของ “แจ้ - ดนุพล แก้วกาญจน์” และเป็นครูใหญ่บ้าน “Academy Fantasia” รายการเรียลลิตี้ประกวดร้องเพลงที่โด่งดังที่สุดรายการหนึ่งของไทย
เนื่องจากแต่ละคนแยกย้ายกันไปคนละสังกัด จึงทำให้ สาว สาว สาว ไม่ได้กลับมาจัดคอนเสิร์ตรวมตัวกันอีกเลย จนกระทั่งแหม่มได้ลาออกจากค่าย RS จึงถือเป็นโอกาสดีที่ “ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” จัดคอนเสิร์ต สาว สาว สาว ขึ้นอีกครั้ง ในปี 2561 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 34 ปีของพวกเธอ โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างดีบัตรคอนเสิร์ตทั้ง 3 รอบขายหมดภายในไม่กี่วัน
สำหรับเพลง “ประตูใจ” และ “รักคือฝันไป” ยังคงถูกนำมาใช้เป็นเพลงประกอบในสื่อบันเทิงอยู่ตลอดไม่เคยจางหายไปไหน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” (2546) ละครเรื่อง “แม่ยายที่รัก” (2555) เนื่องด้วยทำนองที่น่ารัก และเนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย ทำให้ทั้งสองเพลงใช้เป็นเพลงประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะ หรือใช้เป็นเพลงประกอบการแสดงของเด็กนักเรียนอีกด้วย
แม้ว่าในทุกวันนี้ สาว สาว สาวจะไม่ได้มีผลงานเพลงใหม่ออกมาให้ฟังแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาว สาว สาว เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจของวงการเพลงไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นใดต่างต้องเคยได้ยินเพลง รักคือฝันไป อย่างแน่นอน นี่จึงวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เชื่อมคนทุกรุ่นเข้าไว้ด้วยกัน และพร้อมจะส่งบทเพลงในตำนานนี้จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งต่อไปตราบนานเท่านาน