"โตโน่" สำรวจแม่น้ำโขง ลั่นยินดีถูกดราม่า ถ้าช่วยแบ่งเบาภาระหมอ พยาบาล
"โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่เตรียม ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง 15 กิโลเมตร ระดมทุนจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลไทย และ สปป.ลาว ล่าสุดเจ้าตัวอยู่ จ.นครพนม พร้อมลงสำรวจแม่น้ำโขงก่อนวันว่ายจริง
นักร้องหนุ่ม "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่เตรียม ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง 15 กิโลเมตร ระดมทุนจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลไทย และ สปป.ลาว ภายใต้โครงการ "One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 นี้ ล่าสุดเจ้าตัวอยู่ จ.นครพนม พร้อมลงสำรวจแม่น้ำโขงก่อนวันว่ายจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "โตโน่" ใช้อุโมงค์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ สรุปฟรีหรือไม่ฟรี?
- ดราม่าเดือด "โตโน่" หลุดเอกสาร 33 หน่วยงานรับผิดชอบ ผู้จัดการแจง ใครจ่ายเงิน
"โตโน่" เตรียมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเส้นทางระหว่างตัวเมือง จ.นครพนม กับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าตัวได้ลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำโขงพบว่า สภาพน้ำถือว่าไม่มีความกังวล แต่ไม่มีแผนในการฝึกซ้อมว่ายสนามจริง เพราะมั่นใจในสภาพร่างกายพร้อมมาก
นอกจากนี้ "โตโน่" ยังพูดถึงกระแสดราม่าที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ตนขอน้อมรับทุกความคิดเห็น รวมถึงความเห็นต่าง หากตนถูกดราม่าแล้วเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับแพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆได้ ตนยินดี เพราะแพทย์ พยาบาล ต้องทำงานทุกวันในการดูแลรักษาคนไข้ ตนเหนื่อยแค่วันเดียว ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม อยากให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน หันมาช่วยเหลือสังคม ทำความดีเพื่อสังคม อยากถามว่าไม่ดีหรืออย่างไรที่คนเรามาร่วมทำความดี ทำเพื่อประโยชน์ ต้องขอกราบขอบพระคุณมีหลายหน่วยงานให้การสนับสนุน
ประเด็นอุโมงค์น้ำ จุฬาฯ "โตโน่" ระบุว่า ทั้งที่ตนและทีมงานไม่เคยคิดจะใช้ของใครฟรี และไม่ใช้งบประมาณรัฐในการจัดกิจกรรม แต่ในเมื่อมีหน่วยงานต้องการสนับสนุนอนุเคราะห์ให้ใช้ทดสอบร่างกาย เพื่อความพร้อมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไม่ใช่เรื่องแปลก
เรื่องนี้ตนจะไม่นำมาเป็นอุปสรรค เพราะหากกลัวดราม่าคงไม่ต้องทำอะไร การทำความดีไม่ต้องกลัวดราม่าเพราะคงมีทุกวันอยู่แล้ว สำคัญที่สุดต้องทำให้ถึงเป้าหมาย ต้องช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม รวมถึงโรงพยาบาลแขวงคำม่วนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนขอแค่ได้ทำเพื่อประโยชน์แก่สังคม
โตโน่ ยังกล่าวอีกว่า ฝากทำความเข้าใจว่ากิจกรรมที่ตนจัดขึ้นต้องการทำเพื่อแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย อย่าเอาการเมืองหรือแบ่งพรรคแบ่งสีมาเกี่ยวข้อง ใครจะเชียร์ใครผมไม่สนใจ เพราะโรงพยาบาลไม่เคยเลือกว่าจะต้องรักษาใคร มีหน้าที่รักษาทุกคน ทุกพรรค ทุกฝ่ายทุกสี
อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าการเอาสีเอาฝ่ายมาเป็นปัญหา อยากให้รักสามัคคีกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า ไม่ว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ขอเพียงผมได้ทำ นั่นคือความตั้งใจของผม ขอทำให้ดีที่สุด