“เรียนรู้ตลอดชีวิต” คีย์สำคัญวัยทำงาน แนวคิดความสำเร็จ “เต - ตะวัน” ในสายอาชีพนักแสดง
เปิดใจ “เต - ตะวัน วิหครัตน์” ถึงการปรับตัวและการทำงานในวงการบันเทิง จากเด็กอินโทรเวิร์ต ขี้อาย ก้าวสู่นักแสดงขวัญใจคนทั้งประเทศ รวมถึงนิสัยรักการเรียนรู้ ทำให้เขากลายเป็นไอดอลด้านความรอบรู้ของคนรุ่นใหม่หลายคน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงขวัญใจทั่วโลก สำหรับ “เต - ตะวัน วิหครัตน์” ที่พึ่งบินลัดฟ้าไปแฟนมีตติ้งร่วมกับ “นิว - ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ” ไกลถึงเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดี
อีกทั้ง เต - ตะวัน ยังถูกพูดถึงในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจใฝ่หาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความเป็นไทย ทั้งการใช้ภาษา วัฒนธรรม และธรรมะ เห็นได้จากรายการออนไลน์ของเขาเป็นพิธีกร สามารถสะท้อนตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น "เตร็ดเตร่ fest กับ เต ตะวัน” "กระหายเล่า" และ "เสน่ห์ห้องเครื่อง" จนกลายเป็นเป็นไอดอลด้านความรอบรู้ของเยาวชนหลายคน
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับเต - ตะวัน ถึงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ และความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต จนถึงการวิธีการทลายกำแพงของตนเอง จากเดิมที่เป็นคนอินโทรเวิร์ต ไม่กล้าแสดงออก แต่พัฒนาตนเองจนก้าวสู่นักแสดงแถวหน้าของวงการได้
Q: แฟนมีตติ้งที่เกาหลีใต้เป็นอย่างไรบ้าง
บรรยากาศดีมากเลย ในงานมีคนไทยตามไปดูด้วย ถือโอกาสไปเที่ยว มีจากประเทศข้างเคียงอย่างญี่ปุ่น ที่เราแปลกใจมากคือมีมาจากอเมริกา ยุโรป ฝรั่งเศส มีมาบางส่วน มีหลากหลายคัลเจอร์ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปจัดแฟนมีตฝั่งยุโรป อเมริกาด้วย
Q: เตเป็นคนขี้อาย เป็นอินโทรเวิร์ต อะไรที่เป็นสิ่งทำลายกำแพงเหล่านั้นมาจนกลายเป็นนักแสดงในทุกวันนี้
ผมก็ต้องปรับตัวเข้าหาคนอื่นมากขึ้น รับพลังงานจากคนอื่นมากขึ้น แต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้เลย เป็นเด็กเก็บตัวมาก มีเพื่อนไม่กี่คน กลัวมากที่จะเข้าสังคมใหม่ ๆ กลัวการพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก พ่อแม่พยายามจะให้ไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ ก็ไม่กล้าไป แล้วปฏิเสธทุกครั้ง เรามานั่งพิจารณาตัวเองที่ผ่านมาแล้วรู้เลยว่าเราเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
ยิ่งไปเจอกับเพื่อนสมัยเด็ก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเตคนนั้นที่เป็นคนขี้อาย ไม่กล้าทำอะไร แม้กระทั่งออกไปพรีเซ็นต์หน้าห้องก็ไม่ทำแล้ว จะมาเป็นนักแสดง หรือเป็นคนที่อยู่บนเวทีให้คนเห็นเยอะ ๆ ได้ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเป็นการเดินทางที่ไกลมากเหมือนกัน แต่มันก็ค่อย ๆ ปรับตัว มันจะมีบางช่วงที่ซัฟเฟอร์ แต่สุดท้ายถ้าเราปรับตัวได้ ก็จะเจอความสุขในแบบของตัวเอง มันอาจรู้สึกแปลกที่ออกจากเซฟโซนของเรา เมื่อก่อนเคยอยู่แค่นี้ แต่ตอนนี้เป็นอีกแบบ เป็นการลองอะไรที่ชีวิตไม่เคยเจอ
Q: แล้วเวลาต้องไปสถานที่ใหม่ ๆ ร่วมงานกับคนใหม่ ๆ ปรับตัวอย่างไร
มันคือความชินแล้ว คนที่มาเจอผมใหม่ ๆ จะนึกไม่ออกเลยว่าผมเป็นอินโทรเวิร์ตได้อย่างไร ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นไปเลย เขาเห็นในร่างที่เราปรับตัวมาไกลแล้วประมาณหนึ่ง เพราะตอนนี้เวลาเจอคน เราจะค่อนข้างเฟรนด์ลี่มาก ๆ
มันอาจเป็นจุดที่ทำให้คนเข้าใจผิดบ่อย ๆ เกี่ยวกับเอ็กซ์โทรเวิร์ต อินโทรเวิร์ต อาจจะไม่เกี่ยวกับการพูดมากพูดน้อย แต่มันคือ ผมว่าที่ผมยังเหมือนเดิมคือเงื่อนไขในการเติมพลัง หรือรับพลังจากสิ่งรอบตัวเรา คือเราต้องการอยู่กับตัวเองเหมือนเดิม บางทีเพื่อนอยากอยู่ต่อ แต่เราอยากกลับแล้ว เราก็ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ เราเป็นคนประนีประนอม เราก็จะพยายามจอย แต่บางทีไม่ไหวจริง เพื่อนที่สนิทก็จะรู้ได้ เออ กลับไปก่อนเลย สุดท้ายเราก็อยู่จนถึงจุดที่ไม่น่าเกลียดแล้วก็กลับ
ภาพลักษณ์ที่คนนอกเห็นอาจจะไม่ได้เห็นมุมนี้ เราปรับตัวมาในวงการบันเทิงมากแล้ว เหมือนเป็น INFP เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ (หัวเราะ) แต่มันก็มีข้อดีของมัน พอเราอยู่ในวงการสักพัก เราจะเรียนรู้ที่จะปล่อยจอยเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม tawan_v
Q: เตเป็นคนหนึ่งที่มักจะมีศัพท์แสงแปลก ๆ สำนวนที่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว ไปเรียนรู้มาจากไหน
อาจจะเติบโตใกล้ชิดมากับคุณปู่ คุณย่า ท่านพูดศัพท์แสงอะไรแบบนี้บ่อย จนเราชิน ผ่านหูมาเรื่อย ๆ บางทีมันหลุดออกมาเอง พวกคำสร้อย มันเป็นคำที่เราใช้อยู่แล้ว บางทีคนก็งง ที่จริงผมว่ามันก็ดีนะ คุณย่าพูดอยู่บ่อย ๆ ถ้าเด็กรุ่นใหม่ไม่ใช้เลย คำเหล่านี้มันก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา อะไรที่มันดีเราก็ควรรักษามันไว้
โลกเรามันหมุนไปเรื่อย ๆ แต่บางอย่างที่มันเป็นเรื่องที่ดีเราเก็บรักษาไว้ได้ อย่างวัฒนธรรมไทย มันสามารถสร้างเอกลักษณ์ ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับความเจริญทางวัตถุ เป็นสิ่งที่เงินทองซื้อไม่ได้
Q: ทำไมถึงสนใจเรื่องธรรมะ
ส่วนหนึ่งเพราะทางคุณแม่เข้าวงการธรรมะตั้งแต่ผมอยู่ ม.1 พอแม่เข้าแล้วก็ผ่านหูผ่านตาเรามา จนกระทั่งตัวเองได้มาบวช มีโอกาสไปอยู่วัดป่า เลยรู้สึกว่าเป็นทางที่น่าสนใจ เป็นสิ่งไว้บำบัดใจ เวลาเราเจอเรื่องอะไรทำให้ใจขุ่นมัวง่าย ธรรมะจึงเป็นเหมือนยาที่ช่วยรักษาเวลาเราเจอเรื่องที่ทำให้ใจเราไม่ดี
Q: รู้สึกอย่างไรที่เด็กรุ่นใหม่หลาย ๆ คนยกให้เตเป็นไอดอลในเรื่องการเรียนรู้ การหาความรู้ใหม่
ขอบคุณครับ ผมว่าคนที่น่านับถือ ไม่ใช่คนที่มีอายุเยอะเท่านั้น แต่เป็นคนที่พร้อมจะปรับตัวกับโลกสมัยใหม่อยู่เสมอ ขณะเดียวกันเขาก็เอาสิ่งที่เรียนรู้มาตลอดชีวิต และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา มารวมกับสิ่งใหม่ ๆ มันเลยทำให้เขามีคุณค่าในตัวเอง
Q: สำหรับเต “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” สำคัญอย่างไร
สำคัญมาก เราต้องอยู่กับโลกกับสังคม ถ้าเราไม่เรียนรู้มัน เราจะไม่พร้อมเดินไปข้างหน้าพร้อมกับโลก เราคงอยู่ได้แหละ แต่มันคงทำให้เราอยู่ยากขึ้น มันต้องมาพร้อมการปรับตัว เพราะไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเลือกเส้นทางชีวิตตามต้องการได้ 100% คนเรามันต้องอยู่ในวิถีที่หมุนไปตามโลก เพราะฉะนั้นการปรับตัวมันจะทำให้เราอยู่บนโลกใบนี้ได้ง่ายขึ้น แล้วพร้อมจะเข้าใจในความเป็นไปของธรรมชาติได้มากขึ้น ไม่ทุกข์กับสิ่งที่มันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว เราจึงต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต และผมเชื่อว่าตอนนี้ผมพร้อมที่จะทำแบบนั้น
Q: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานในวงการบันเทิงคืออะไร
ได้เยอะมาก ๆ เลย วงการนี้เป็นวงการที่ทำงานกับคนเป็นส่วนใหญ่ เราได้เรียนรู้ทั้งความแตกต่าง การยอมรับ การปล่อยวาง หลัง ๆ ที่ทำได้อาจจะไม่ดีมาก แต่ดีขึ้น คือ บางทีเราต้องยอมปล่อยอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ไปบ้าง แต่ก่อนคือเรายอมไม่ได้ ถ้าคนเข้าใจเราผิด แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราอยู่ตรงนี้ แล้วมีคนเยอะขนาดนี้มองเราอยู่แล้วจะเข้าใจในตัวเราทั้งหมด
เราไม่สามารถรับทุกอย่างเข้ามาในความคิดเราได้ เพราะฉะนั้นเราต้องปล่อยวาง
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม tawan_v
Q: พูดได้ว่าเตทำงานในวงการมาเกือบทุกอย่างแล้ว ยังมีอะไรที่อยากทำอีกบ้าง
ตอนนี้ยังไม่ได้อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ตอนนี้อยากทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดียิ่งขึ้นไป ตั้งใจว่าปีหน้าจะรับงานที่เราอยากทำจริง ๆ แล้วก็ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
Q: บทบาทในคู่แท้ แม่ไม่เลิฟเป็นอย่างไร
รับบทเป็นหม่อมหลวงเทวิษฏ์ เป็นคนอนุรักษนิยมมาก ๆ มีความเจ้ายศเจ้าอย่าง มีความ Old Fashion ทั้งในเรื่องการมองผู้หญิง มองโลก มองคน ซึ่งต้องติดตามว่าคนแบบนี้จะได้เรียนรู้ยังไงในซีรีส์
Q: ร่วมงานกับพี่แหม่ม คัทลียาเป็นอย่างไรบ้าง
พี่แหม่มน่ารักมาก ๆ ผมได้คุยกับเขาแล้วเป็นอีกคนที่ผมรู้สึกว่า เป็นแม่ในอุดมคติที่น่ารักมาก ๆ ผมยังคุยกับปันปัน หรือ นักแสดงหลาย ๆ คนเลยว่า พี่แหม่มมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ดี เลี้ยงลูกได้น่ารัก ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ยังตามโลกทัน แต่ยังรักษาขนบธรรมเนียมดี ๆ ของไทยเอาไว้ ให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเองมาก ๆ รู้ว่าลูกเขาจะต้องมีความสุขมาก ๆ
Q: ฝากผลงาน ช่องทางติดตาม
กำลังออนแอร์อยู่นะครับ คือเรื่อง “คู่แท้แม่ไม่เลิฟ” แล้วก็เร็ว ๆ นี้มีซีรีส์อีกเรื่องชื่อ TAN MAN ทางช่อง True นะครับ ส่วนช่องทางการติดตามทั้งทางอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ชื่อเดียวกันเลยครับ @tawan_v แล้วพึ่งสมัครติ๊กต็อกซึ่งเป็นสิ่งที่ในชีวิตนี้จะไม่มีทางเล่น แต่ว่าเราต้องหมุนไปตามโลก (หัวเราะ) เลยต้องเล่นสักหน่อย ชื่อ taytadaotiktok (เตตะดาวติ๊กต็อก) เพราะเรามาช้า ชื่ออื่น tawanv หรืออะไรโดนใช้ไปหมดแล้ว เลยต้องเป็นชื่อนี้ (หัวเราะ)
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม tawan_v