'ริว อาทิตย์' เล่าหมดจากอดีตพระเอกดัง สู่จุดต่ำสุดชีวิตพังตกต่ำ (คลิป)

'ริว อาทิตย์' เล่าหมดจากอดีตพระเอกดัง สู่จุดต่ำสุดชีวิตพังตกต่ำ (คลิป)

รายการ คุยแซ่บShow เปิดใจ 'ริว อาทิตย์' อดีตพระเอกดังยุค 90 เปิดหมดเปลือกชีวิตหลังอำลาวงการไปกว่า 17 ปี เปิดปมจุดเริ่มต้นจากพระเอกดัง ชีวิตพัง การใช้ความรักนำทางจนชีวิตพัง เกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว และจุดเปลี่ยนที่ทำให้รอดมาได้ 

ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เราจะเห็นบรรดาสื่อต่างๆปรากฏภาพของ 'ริว อาทิตย์' อดีตพระเอกดังยุค 90 ที่ปัจจุบันกลายเป็นคนไร้บ้าน เร่ขายของตามริมถนน กินนอนข้างถนน จนกลายเป็นที่ฮือฮา

ล่าสุดรายการ คุยแซ่บShow เปิดใจ ริว อาทิตย์อดีตพระเอกดังยุค 90 เปิดหมดเปลือกชีวิตหลังอำลาวงการไปกว่า 17 ปี เปิดปมจุดเริ่มต้นจากพระเอกดัง ชีวิตพัง การใช้ความรักนำทางจนชีวิตพัง เกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว และจุดเปลี่ยนที่ทำให้รอดมาได้ 

เรื่องความรัก

ริว อาทิตย์ พูดถึงมรสุมชีวิตที่ผ่านมาหลังหันหลังให้วงการบันเทิง โดยเฉพาะเรื่องความรักกับอดีตภรรยา (อาทิตย์ริว มีลูก 3 คน ผู้ชาย 2 คน กับภรรยาคนแรก และผู้หญิง 1 คนกับภรรยาคนที่สอง) เจ้าตัวบอกว่า เป็นความรักประเภทหนึ่ง เป็นความรักที่ตนค่อนข้างปรารถนาดี ปรารถนาดีกับตัวเองด้วย ปรารถนาดีกับเขาด้วยว่าอยากมีลูก อยากมีความรักด้วยกัน อยากมีหัวแก้วหัวแหวนด้วยกัน อยากประคับประคองครอบครัวไปด้วยกัน อยากเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกันนะ แต่มันยังขาดช่วงระยะเวลาศึกษาดูใจในความเป็นตัวตนของแต่ละคนจริงๆ อย่างบางคนเขาจะมองภาพในละคร เขามองภาพความเป็นพระเอก เขาบอกริวต้องเป็นอย่างนี้ ในละครริวเป็นอย่างนี้ ฉันรักริวในคาแร็คเตอร์นั้น แต่ตัวผมไม่ใช่ ตัวผมมีความเป็นตัวเอง

ด้วยความที่ครอบครัว หมายถึงตัวภรรยาเองก็ต้องคาดหวังว่า ตนน่าจะเป็นพระเอกจริงๆ แต่ทีนี้ตนไม่ใช่ ในชีวิตจริงยอมรับว่าเป็นคนเจ้าชู้ ซึ่งตนพูดตั้งแต่ก่อนคบ ถ้าจะคบกันรับได้ไหม เขาบอกรับได้ในความเป็นตัวริว ตนถามว่าแน่นะ ถ้ารับได้ก็คบ เลยตัดสินใจอยู่ ตัวปัญหาเหล่านั้น ผมไม่ได้จะพูดถึงว่าจบยังไงหรือมีปัญหายังไง ผมพูดคร่าวๆว่าผมได้มีลูกกับเขา แล้วปัญหาในครอบครัวต่างๆนานา เกี่ยวกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ผมไม่ขอพูดถึง เพราะทุกวันนี้เขาก็มีชีวิตที่ดีแล้วลูกผมก็น่ารัก

การคิดฆ่าตัวตาย

ริว รู้สึกว่าไม่มีคนรักจนทำให้คิดอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งหลังชีวิตความรักในครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเรามองภาพสวยเกินไป ถ้ามีลูกเราจะพาลูกไปตรงนั้น จะเลี้ยงลูกแบบนี้ เราจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูก แต่งตัวให้ลูกอย่างนี้นะ คนเป็นพ่อจะเป็น ปรากฏว่าเส้นทางที่คิดกับความเป็นจริงมันสวนทางกัน มันกลายเป็นความหึงหวง จากที่เขาบอกว่ารับได้ เขาบอกว่ารับไม่ได้

พอตนจบพังทลายกับชีวิตครอบครัว ลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มีปากเสียงกันแล้วแยกย้ายกัน การที่จะไปพบลูก ถ้าไปในสภาพที่ไม่มีเงินซึ่งคนเป็นพ่อจริงๆก็อยากให้เงินเขา เราอยากดูแลเขา การที่ไปเจอลูกทุกครั้งมันต้องใช้เงิน ตนรู้สึกว่าลูกเป็นตัวประกันหรือเปล่า แต่ตนไม่ได้คิดอย่างนั้น คิดว่าถ้าผมมี ผมให้ แล้วผมให้จริงๆ ผมเซ็นเช็ค 300,000-400,000 บาท ผมให้จริงๆ เพราะไม่ได้บ่อยเลยที่ผมมีโอกาสเข้าไปเจอลูก แต่ทุกครั้งที่ผมเจอลูก กอดลูกมันมีน้ำตา

อยากที่จะฆ่าตัวตาย แต่รอดตรงนั้นมาได้ เพราะยังอยากเป็นพ่อของลูกอยู่

ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่เคยจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นมีการศึกษาด้วยว่า คนฆ่าตัวตาย กระโดดที่ไหนแล้วตาย ต้องดูข่าว ผมต้องคำนวณความสูง ระยะเวลา เขาโดดตอนกี่โมง แล้วเขาทำสำเร็จได้ยังไง ผมเช็กข่าวแล้วเดินทางไป ณ จุดนั้นจริงๆ ผมพยายามอยู่ 2 ครั้ง ผมไป 2 วันติด ครั้งแรกผมไปชั้นจอดรถของห้างๆหนึ่ง ก็มองตรงนี้ผ่านมั้ย เห็นรถผ่านก็หยุด เดี๋ยวเดือดร้อนคนอื่น แล้วถ้าคนเดินผ่านมากูไปทับเขาตายเป็นบาปอีก เลยล้มเลิก

วันที่สอง ขอเช็กก่อนว่ามีใครรักเรามั้ย แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณชีพของความรักเกิดขึ้น ยังไงเธอก็จะจากฉันไปให้ได้ งั้นเอาวันนี้แหละ วันที่เขาเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไป ณ ที่จุดจุดหนึ่ง ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่สำเร็จได้ รอจังหวะ นับในใจ ยามก็เดินมาดู ผมก็บอกไม่มีอะไร ดูนกดูไม้ เพราะผมยืนนานมากประมาณ 3 ชั่วโมง คือตัดสินใจว่าจังหวะนั้นต้องไม่มีใครผ่านมา แล้วต้องไม่มีรถ ต้องลงในจุดไหน

วางโทรศัพท์เตรียมปีนแล้ว สักพักโทรศัพท์มา แฟนโทรมา เขาถามพี่อยู่ไหน ทำไมติดต่อไม่ได้เลย พี่ไปทำอะไร เขาบอกพี่จะบ้าเหรอ พี่ขอร้อง พี่อย่าบ้า เขาก็ดุผม แล้วเขาร้องไห้ขอร้องอย่าทำ ตอนนั้นผมก็ร้องไห้ เขาก็รักเรา

ชีวิตเริ่มพัง ชีวิตตกต่ำเพราะพาดหัวข่าว

เรื่องงานผมไปได้ดีมาก เรื่องเงินทุกอย่างไม่มีปัญหาเลย แต่มีปัญหาเรื่องชื่อเสียง พอมันเป็นข่าวทุกคนก็เอากระแส เกาะติดกระแส สื่อโน้นก็เขียนอย่างนั้น แยกประเด็นผมบ้า ผมเพี้ยน ผมทำร้ายภรรยา ประดังเข้ามาเป็นกระแสไวรัลอยู่ในยุคโซเชียลเริ่มต้นของสมัยนั้น

แต่ผมจะไม่โทษโซเชียล เพราะโซเชียลเป็นฟรีความคิดเห็นของคน ผมบอกกับตัวภรรยาแล้วว่าอย่าไปสนใจกับกระแสพวกนี้ มันนานาจิตตัง ตัวผมเองทำงานในวงการบันเทิง ผมรู้สิว่าถ้าเราไปแคร์มากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แสดงว่าผมคงไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว 

คุยกับ นิกกี้ พิ้ม

นิกกี้ พิ้ม แขกรับเชิญที่มาร่วมพูดคุยกันในรายการ พูดถึงความสนิทกับ ริว ซึ่ง นิกกี้ บอกว่าไม่ได้สนิทมาก มีเจอกันบ้าง พูดคุยกันบ้าง สำหรับผมมันไม่จำเป็นต้องสนิท สำหรับริวผมไม่ติดอะไรเพราะตัวผมเอง ผมเกเรมาก่อน แล้วสิ่งที่เขาน่าจะเผชิญอยู่ผมเคยผ่านมาหมดแล้ว

พอวันนี้ผมตั้งตัวใหม่ได้ ผมรู้สึกว่า ควรจะให้โอกาสคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ  เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแล้วโพสต์ไป แล้วตามหาเขาก็ตั้งใจจริงๆ คือถ้าคนให้เงินคงจะหมดแล้วแหละ เพราะเขาต้องไปใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าคิดว่าจะช่วยต้องให้สุด คิดว่าจะสร้างงานให้เขาก่อน เดี๋ยวจะเอาเขามาทำงานกับองค์กรผม อาจจะมาช่วยทำรายการ ช่วยขายของ ผมเป็นคนที่ถ้าพูดแล้วต้องทำ

พอรายการทักมา โอเคมาเซอร์ไพรส์ริว ผมยกเลิกทุกอย่างแล้วมา คือผมไม่ได้องค์กรใหญ่อะไรมาก แต่ผมเชื่อว่าถ้าเขาได้รู้คุณค่าของตัวเอง ได้กลับมาทำงาน ได้เห็นศักยภาพของตัวเอง เขาจะรู้สึกภูมิใจในการที่เขาจะหาเงิน

 

 

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บShow