The Devil’s Hour ซีรีส์ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบริหารสมอง
ชวนดู ‘The Devil’s Hour’ ซีรีส์สุดล้ำทาง Prime Video ที่เหมาะกับการบริหารสมองไม่ให้เป็นอัลไซเมอร์ แต่ขอเตือนว่าต่อให้คุณดูหนังดูซีรีส์มาเยอะแล้ว เรื่องนี้ก็ยังมีความแปลกใหม่ให้คุณเซอร์ไพรส์ในตอนจบอย่างแน่นอน
เป็นซีรีส์ที่ชื่อของมันอาจทำให้ไขว้เขวได้ เพราะพอเห็นคำว่า devil หลายคนอาจคิดไปว่าต้องเกี่ยวกับภูตผีปีศาจแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรที่สลับซับซ้อนกว่านั้นเยอะ
The Devil’s Hour เหมาะกับคนที่ต้องการบริหารเซลล์สมองทุกเซลล์เวลาดูซีรีส์ เพราะมันมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มีเงื่อนงำให้ครุ่นคิด ตามเกาะติดทุกนาทีชนิดที่เรียกได้ว่าละสายตาไปทำอย่างอื่นไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นคุณอาจพลาดเบาะแสบางอย่างไป
เวลาของภูตผีปีศาจ
คำว่า Devil’s hour หมายถึงช่วงเวลาระหว่าง ตี 3 - ตี 4 ที่คนตะวันตกมีความเชื่อว่าเป็นเวลาที่ภูติผีปีศาจมีกำลังแก่กล้ามากที่สุด ซึ่งถ้าคุณเป็นคอหนังสยองขวัญอาจเคยสังเกตเห็นในหนังหลายเรื่องมาแล้ว เช่น The Conjuring ที่นาฬิกาจะหยุดเดินที่เวลาตี 3 แล้วปรากฎการณ์ความหลอนต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นนับแต่นั้น หรือในหนัง The Exorcism of Emily Rose ที่เอมิลีจะพบว่าตัวเองตื่นเพราะได้กลิ่นประหลาดในเวลา ตี 3 ของทุกวัน
สำหรับ The Devil’s Hour นั้น ลูซี่ ตัวเอกของเรื่อง ก็ตื่นเพราะความฝันอันแสนหลอนในเวลา ตี 3.33 ของทุกวันเช่นกัน
ดราม่าทริลเลอร์น้ำดีจากอังกฤษ
The Devil’s Hour เป็นซีรีส์แนวดรามาทริลเลอร์จากประเทศอังกฤษ ผลงานการสร้างสรรค์ของ ทอม มอแรน (Tom Moran) นักเขียนดาวรุ่งพุ่งแรงที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีความสามารถ ภายใต้การโปรดิวซ์ของ สตีเวน มอฟแฟต (Steven Moffat) ผู้สร้างซีรีส์ในตำนานจากฝั่งอังกฤษอย่าง Doctor Who และ Sherlock
นำแสดงโดยดาราสุดยอดฝีมืออย่าง ปีเตอร์ คาพัลดี (Peter Capaldi) ผู้ที่เคยรับบท Doctor Who มาแล้ว ร่วมด้วย เจสสิกา เรน (Jessica Raine) จาก Call the Midwife, Becoming Elizabeth ที่สามารถเชือดเฉือดฝีมือกับรุ่นใหญ่แบบคาพัลดีได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของ The Devil’s Hour มีอยู่ว่า ลูซี่ แชมเบอร์ส จะตื่นขึ้นมากลางดึกในเวลา 3.33 นาฬิกาของทุกคืน ตรงเวลาเป๊ะ ไม่มีขาดมีเกินไปแม้แต่นาทีเดียว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตื่นขึ้นก็เพราะสิ่งที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นฝันร้าย ภาพหลอน หรือเดจาวูกันแน่ (Deja vu - ความรู้สึกว่าเราเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์บางอย่างมาก่อนแล้ว)
ขณะเดียวกันกับที่ลูซี่กำลังดิ้นรนกับการใช้ชีวิตที่วุ่นวาย ทั้งการดูแลแม่ที่ความจำเสื่อม ลูกชายตัวน้อยที่มีปัญหาจนแม้แต่จิตแพทย์ก็ยังหาสาเหตุไม่พบ สามีที่เลิกกันไปแล้วแต่ก็เหมือนไม่เลิก และหน้าที่การงานอันแสนจะเคร่งเครียด
ทางฝั่งตำรวจที่นำโดยสารวัตรสืบสวนสอบสวน ดิลลอน ก็กำลังตามล่าตัวฆาตกรต่อเนื่องที่ดูเหมือนว่ายิ่งสืบไป เบาะแสต่าง ๆ กลับโยงเข้ามาหาลูซี่ และไอแซค ลูกชายผู้ผิดปกติของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
ความน่าสนุกในการดู The Devil’s Hour คือ คุณจะได้ใช้สมองคิดตามไปด้วยเพื่อวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องมันคืออะไรกันแน่
ผี? มิติทับซ้อน? การข้ามภพข้ามชาติ? การเดินทางข้ามเวลา? หรือเป็นเรื่องของจิตวิทยา และความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์
ขณะที่การวางพล็อตให้มีทั้งเรื่องฆาตกรต่อเนื่อง การสืบสวนสอบสวน เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ การสร้างบรรยากาศให้ดูหลอนไม่น่าไว้วางใจเหมือนหนังสยองขวัญ เรื่อยไปจนถึงการลักพาตัวเด็ก ดรามาในครอบครัว ปมปัญหาทางจิต ความลึกล้ำแบบไซไฟ ก็ทำให้คนดูถึงกับบอกว่าเหมือนได้ดูงานของผู้กำกับอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ผสมกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน กันเลยทีเดียว
ในส่วนของตัวผู้เขียนเองนั้นถึงกับดูไปนั่งจดรายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องไป พร้อมกับหยิบยกเอาทฤษฎีนู่นนี่นั่นมาประกอบเต็มไปหมด แต่พอถึงตอนจบแล้วต้องบอกว่าซีรีส์เรืองนี้ก็ยังมีอะไรใหม่ที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเราได้อย่างแน่นอน
The Devil’s Hour เป็นซีรีส์สั้น ๆ ความยาวเพียง 6 ตอนเท่านั้น สามารถรับชมได้ทาง Prime Video ประเทศไทย
ส่วนใครที่ดูจบแล้วรู้สึกยังค้างคาใจอยู่ รอติดตามกันในภาคต่อไป เพราะล่าสุดซีรีส์เรื่องนี้ได้รับไฟเขียวให้สร้างซีซั่น 2 และซีซั่น 3 ต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว