'เอส เอส ราชโมลี' ประกาศศักดา RRR หนังอินเดียใต้ชิงออสการ์
ภาพยนตร์ของผู้กำกับอินเดีย “เอส เอส ราชโมลี” ที่มักเต็มไปด้วยฉากร้องเล่นเต้นระบำสร้างความฮือฮาไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ผลงานของเขากำลังเข้าชิงออสการ์เป็นครั้งแรกของภาพยนตร์อินเดียล้วน
RRR (Rise Roar Revolt) ภาพยนตร์อลังการสามชั่วโมง เรื่องแต่งว่าด้วยวีรบุรุษนักปฏิวัติยุคอาณานิคมสองคน กับฉากแอ๊คชั่นเอฟเฟคเพียบและบทเพลงไพเราะตลอดเรื่อง ทำรายได้ถล่มทลายในอินเดีย แถมยังสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชมทั่วโลกตั้งแต่สหรัฐไปจนถึงญี่ปุ่น ล่าสุดเป็นตัวเก็งชิงรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเวทีออสการ์ในเดือนหน้า หลังจากเฆี่ยนเทย์เลอร์ สวิฟต์ และริฮันนา คว้ารางวัลเดียวกันในเวทีลูกโลกทองคำมาแล้ว
“เวลาผมไปดูหนัง ผมอยากเห็นตัวละครที่ยิ่งกว่าชีวิตจริง สถานการณ์ที่ยิ่งกว่าชีวิตจริง ดรามาที่ยิ่งกว่าชีวิตจริง และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำ ไม่มีอะไรฉุดรั้งพระเอกได้ในการแสดงฉากแอคชัน” ราชโมลีกล่าวกับเอเอฟพี
จากความนิยมแบบปากต่อปากเรื่องที่ผู้ชมแดนซ์กระจายกลางโรงหนัง RRR ภาพยนตร์ภาษาเตลูกู กลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เรื่องหนึ่งของอินเดียไม่เพียงเท่านั้น RRR ยังทำให้ผู้ชมทั่วโลกรู้จักอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียใต้ ที่สร้างผลงานมากมายแต่คนรู้จักน้อยกว่า
แม้ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักกันมานานแล้วว่า “บอลลีวูด” อุตสาหภาพยนตร์ภาษาฮินดีผลิตผลงานมากที่สุดในโลก แต่รางวัลภาพยนตร์ระดับนานาชาติยังตกเป็นของภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม Parasite ของผู้กำกับบง จุนโฮ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการกวาดสี่รางวัลออสการ์มาได้ในปี 2563 รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม หลายสิบปีหลังจากหนังเกาหลีมีแต่นักวิจารณ์เท่านั้นที่ชื่นชม
ภาพยนตร์อินเดียก่อนหน้านี้ที่ได้รางวัลออสการ์มีเพียงภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่อง “คานธี” ผลงานสร้างร่วมระหว่างอังกฤษกับอินเดียในปี 1982 และ Slumdog Millionaire ภาพยนตร์อังกฤษดรามาในบรรยากาศมุมไบ
ตอนนี้ราชโมลีหวังว่าความสำเร็จของเพลง“Naatu Naatu” จะเปิดทางให้ผู้สร้างภาพยนตร์อินเดียได้แบบเดียวกัน
ฉากเพลง“Naatu Naatu”ถ่ายทำหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนก่อนเกิดสงคราม เผยลีลาการเต้นเร้าใจจากสองพระเอกขณะเผชิญหน้ากับศัตรู
“เรากำลังทำสิ่งใหม่ แต่ผมคิดว่าเรากำลังเพิ่งเริ่มต้นก้าวแรกๆลองดูเกาหลี (ใต้) เป็นตัวอย่าง สิ่งที่พวกเขาบุกเบิกมา เรา...ผู้สร้างภาพยนตร์อินเดียทุกคนควรมีแรงบันดาลใจที่จะทำอย่างนั้น” ผู้กำกับวัย 49 ปีแนะนำ
ไม่เคยมีมาก่อน
ราชโมลีเกิดในรัฐกรณาฏกะทางภาคใต้ของอินเดีย พ่อเป็นคนเขียนบททำให้เขาได้สัมผัสกับอุตสาหกรรมจอเงิน
ช่วงแรกๆ ราชโมลีได้รับอิทธิพลจากผู้กำกับภาพยนตร์ภาษาเตลูกูคนดัง แต่แท้จริงแล้วเขาหลงไหลภาพยนตร์มหากาพย์ฮอลลีวูดอย่างเบนเฮอร์และเบรฟฮาร์ทอย่างมาก ทั้งยังเป็นแฟนตัวยงของสตีเวน สปีลเบิร์กและเจมส์ คาเมรอน
ภาพยนตร์แอคชันดรามาอิงประวัติศาสตร์เรื่อง“Baahubali” เมื่อปี 2015 ที่ทุ่มทุนสร้างสูงสุดของอินเดียในตอนนั้น ทำให้ชื่อราชโมลีติดปากคนทั้งประเทศ สร้างกระแสหนังภาคใต้ติดท็อปออฟฟิศอินเดียที่มีประชากรพูดหลากหลายภาษา
หนังภาคต่อปี 2017 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน ทั้งสองภาคเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอินเดีย ประเทศที่มีประชากรถึง 1,400 ล้านคน สร้างชื่อเสียงราชโมลีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในฐานะ “ผู้กำกับหนังทำเงิน”
สำหรับ RRR เจ้าตัวบอกว่า “ประหลาดใจแกมปลื้มปริ่ม” เมื่อโลกตะวันตกพูดถึง ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “การขาดความบันเทิงแบบสุดขีด”
“มีกลุ่มผู้ชมที่ต้องการแบบนี้ ได้เต้น ได้กรี๊ดกับหนัง” ผู้กำกับตั้งข้อสังเกต
RRR นั้นแม้ได้ฉายบนเน็ตฟลิกซ์แค่เพียงสองเดือน หลังเปิดตัวในโรงหนัง 1,200 โรงทั่วสหรัฐเมื่อเดือน มี.ค.ปีก่อน แต่ก็กลายเป็นหนึ่งในหนังอินเดียทำเงินสูงสุดของอเมริกาเหนือ
เดวิด เอ กรอส นักวิเคราะห์จากแฟรนไชส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า RRR โดดเด่นชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความเจ๋งของ RRR พิสูจน์ได้จากผู้ชมหลั่งไหลเข้าโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องเพื่อดูซ้ำ ตัวเลขเดือน ม.ค.จากโรงภาพยนตร์ทีซีแอล ไชนีส เธียเตอร์ในฮอลลีวูดตั๋วขายหมดภายใน 98 วินาที
หากมองผลงานของราชโมลีภาพยนตร์หลายเรื่องของเขาถูกเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรของมาร์เวลล์ ซึี่งเจ้าตัวกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ที่ได้รับการร้องขอให้ทำแบบนี้สักเรื่อง แต่ก็กังวลว่าสตูดิโอใหญ่จะต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต
สอดแทรกทัศนคติเจ้าปัญหา
แน่นอนว่ารางวัลที่ RRR ได้รับมาพร้อมกับเสียงวิจารณ์ถึงทัศนคติเจ้าปัญหาที่แทรกอยู่ในภาพยนตร์เช่น การส่งเสริมแนวคิดชาตินิยมฮินดูและความเป็นชายล้นเกิน
(ภาพจาก Netflix)
RRR สอดแทรกตำนานฮินดูและชาตินิยมแรงกล้า ในเวลาที่ผู้สร้างภาพยนตร์ส่วนใหญ่อยู่ในบอลลีวูดต้องตกเป็นเป้าโจมตีบนโซเชียลมีเดียโดยกลุ่มฮินดูขวาจัด
นักรณรงค์สิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ภายใต้นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีชาตินิยิมฮินดู นักแสดงบอลลีวูดกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักแสดงมุสลิมอย่างชารุค ข่าน และอามีร์ ข่าน
ส่วนตัวราชโมลีเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนาอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาไม่เชื่อพระเจ้า ทั้งยังเชื่อว่า “ศาสนาเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อแสวงหาประโยชน์”
เขาตำหนิการวิจารณ์ RRR ในมุมมองสุดโต่งจนไม่เหลือพื้นที่ตรงกลาง
“ผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองสุดขั้ว ผมไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ ทั้งสิ้น ผมทำหนังให้คนที่ยินดีจ่ายเงินที่หามาแสนยากเพื่อซื้อตั๋วหนัง ผมอยากทำให้พวกเขาสนุก มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ร่วมไปกับสถานการณ์ มีช่วงเวลาดีๆ แล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ” ผู้กำกับดังเผยเหตุผลเบื้องหลังการทำหนัง