อาลัย ดาราอาวุโส 'ป้าเขียด' นภาพร หงสกุล เสียชีวิตวัย 76 ปี
อาลัย ดาราอาวุโส “ป้าเขียด” นภาพร หงสกุล วัย 76 ปี เสียชีวิตด้วยโรคชรา อย่างสงบที่บ้านพัก อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
อาลัย “ป้าเขียน” นภาพร หงสกุล เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก ในบ้านเลขที่ 141/28 พื้นที่หมู่ 10 ตำบลท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางนภาพร หงษ์สกุล หรือ ป้าเขียด (ดาราอาวุโส) เสียชีวิตอยู่บริเวณเตียงนอน คาดว่าจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่่อาสามูลนิธิ นำร่างส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เพื่อทำการชันสูตร ก่อนที่จะมอบร่างกับญาติไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
จากการสอบถามนายสมคิด หงสกุล อายุ 58 ปี บุตรชาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แม่ได้มีอาการป่วย และไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครราชสีมา โดยมีอาการเป็นมะเร็งรังไข่ และมีเนื้องอกในช่องท้อง ซึ่งได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น และมาพักรักษาตัวที่บ้านพักในจังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อาการของแม่ได้ทรุดลง เริ่มทานข้าวไม่ได้ ก่อนทึ่จะเสียชีวิตในช่วงสายของวันนี้ โดยทางพี่สาว หรือนายสมคิด จะนำร่างของ (ป้าเขียด) หรือ นางนภาพร หงสกุล ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองรั้ง เบื้องต้นแจ้งว่า จะนำร่างไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 5 วัน ทั้งนี้ อยากจะฝากถึงแฟนละครของคุณแม่ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการเล่นละครของแม่ไว้ในใจของแฟนละครของแม่ด้วย
ประวัติ “ป้าเขียด นภาพร”
นภาพร หงสกุล นักแสดงอาวุโสมากฝีมือ เพื่อเป็นกำลังใจ และย้อนดูผลงานของการแสดงของคุณป้าเขียด จุดเริ่มต้นของการแสดง ป้าเขียด นภาพร มีชื่อเล่นว่า เขียด หรือที่เรียกกันว่า ป้าเขียด อายุ 76 ปี เกิดในครอบครัวของนักแสดงโดยแท้จริง โดยมีคุณพ่อทองชวน – คุณแม่เจริญใจ หงสกุล เป็นนักแสดงละครเวทีโบราณ เป็นละครร้อง หรือที่เรียกว่าละครเร่ โดยป้าเขียด ก็เริ่มเล่นละครเร่มาตั้งแต่อายุ 2 – 3 ขวบ กับละครเร่เรื่องแรกคือ อาญารักต่อมาเมื่อโตขึ้น ป้าเขียดก้ได้รับบทนางเอกของคณะละครเร่ และได้เปลี่ยนชื่อจาก ชรินทร์ มาเป็น นภาพร ตามชื่อนางเอกที่ตนได้รับบทในตอนนั้น
“ป้าเขียด นภาพร” กับการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว เมื่อถึงจุดเปลี่ยน วงการโทรทัศน์ เริ่มมีบทบาทในสังคมไทยมากขึ้น ส่งผลให้ละครเร่ก็ได้รับความนิยมน้อยลงจนหายไปในที่สุด ป้าเขียด จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน เพราะละครเร่นั้นต้องเดินทางออกไปแสดงตามต่างจังหวัดอยู่บ่อย ๆ ทำให้ป้าเขียด ไม่ได้กลับกรุ่งเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมาเลย
ในช่วงชีวิตของการอยู่ในกรุงเทพฯ ของป้าเขียด ก็ได้ใช้วิชาต่าง ๆ ที่สังสมประสบการณ์มาตั้งแต่ยังเด็ก อยู่ตามวงดนตรี จนกระทั่งมาอยู่กับวง ป๋าเหน่ เสน่ห์ โกมารชุน ที่ในสมัยนั้นเป็นทั้งผู้กำกับหนัง และกำลังจะสร้างวงดนตรี จึงไ้ชักชวนให้ป้าเขียดเข้ามาเป้นนักร้องประจำวง รวมถึงทั้งเอาป้าเขียดไปเล่นหนังบ้างเป็นครั้งคราว
จนกระทั้ง ป๋าเหน่ ได้รับเล่นละครทางช่อง 5 เรื่อง คุณหญิงพวงแข ประจวบเหมาะกันนักแสดง ชูศรี มีสมมนต์ ไม่สามารถเล่นต่อได้ แม้ว่าจะเป็นแค่บทคนใช้แต่เป็นตัวละครสำคัญ ป๋าเหน่ จึงแนะนำให้ ป้าเขียด รู้จักกับ เทิ่ง สติเฟื่อง ผู้กำกับของละครเรื่องนี้ และเมื่อเทิ่งได้เห็น ก็ตกลงรับเล่นได้ในทันที เพราะมั่นใจในฝีมือ และประสบการณ์การแสดงของป้าเขียด ถือเป็นการเข้าวงวงการโทรทัศน์ของป้าเขียดอย่างสมบูรณ์
หลังจากประเดิมฝีไม้ลายมือละครเรื่องแรกมาแล้วนั้น ป้าเขียด ก็ได้เล่นในละครของเทิ่งทุกเรื่อง ได้รับบทเป็นสาวใช้เป็นเพื่อนนางเอกบ้าง แต่ส่วนมากจะเล่นเป็นคนใช้ของนางเอก เป็นการตามความฝันของป้าเขียด ที่มีใจรักในการแสดงตั้งแต่ยังจำความได้
แม้ว่าจะแสดงละครมาหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ทำให้ป้าเขียดได้แจ้งเกิดจริง ๆ ก็มาจากบทแม่นม ในเรื่อง ทอฝันกับมาวิน ที่ตัวพระเอกคือ ฟลุค เกริกพล โดยป้าเขียดนั้นมักจะรับเล่นละครจากทาง เอ็กแซ็กท์ประจำจนได้ฉายาว่า แม่นมประจำเอ็กแซ็กท์
และป้าเขียด ก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งกับละครเรื่อง ประชาชนชาวแฟลต กับบทของ อีตุ่ม ชาวบ้านธรรมดาซึ่งอยู่แฟลต กับสามีขับแท็กซี่ บทที่มีความตลก ปนกับการแสดงที่ดูเป็นธรรชาติ ทำให้คนส่วนใหญ่ต่างก็จะชอบตัวละครตัวนี้
ชีวิตส่วนตัวของป้าเขียด นภาพร ความรักครั้งแรกของป้าเขียด เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก จนทำให้ตนต้องกลับมาแสดงละครที่บ้าน พร้อมกับอุ้มลูกติดมาตั้งแต่สมัยเล่นะครเร่ และได้พบรักกับ คุณวิโรจน์ รตาภรณ์ ที่เปลี่ยนชีวิตของป้าให้มีความสุขที่สุดในชีวิต ตัวของป้าเขียดนั้นมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน และความดัน ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ทำการรักษาโรคมะเร็งรังไข่และมีการผ่าตัดเนื้องอกบริเวณช่องท้อง จนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาป้าเขียดได้จากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบ