รู้หรือไม่ ‘มิเชล โหย่ว’ ถูกบอกให้ออกจากวงการก่อนเล่นหนังรางวัลออสการ์
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ‘มิเชล โหย่ว’ ถูกคนปรามาสว่าควรออกจากวงการได้แล้วเพราะอายุเยอะเกินกว่าจะเล่นหนัง ก่อนหน้าที่จะมารับเล่นเรื่อง Everything Everywhere All at Once ที่ทำให้เธอได้รับทั้งรางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำไปครองในวัย 60 ปี
“อย่ามาบอกว่าฉันต้องทำอะไร ฉันต่างหากที่เป็นคนควบคุมว่าอะไรที่ฉันทำได้บ้าง”
คือคำประกาศจาก มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่กลายเป็นดาวจรัสแสงของฮอลลีวู้ดในวัย 60 ปี หลังได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครองจากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once
Credit : Mark Seliger for the Vanity Fair
มิเชล โหย่ว เป็นนักแสดงมาร่วม 40 ปีแล้ว โดยเธอประสบความสำเร็จในวงการหนังฮ่องกงตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80 - ยุค 90 ก่อนจะเดินทางไปฮอลลีวู้ด ซึ่งเธอก็สามารถผลักดันตัวเองให้เป็นที่จดจำจากหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง
เช่น เจมส์ บอนด์ ตอน Tomorrow Never Dies (1997), หนังกังฟูของผู้กำกับอั้งลี่ เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ที่ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที BAFTA Award
แต่ต้องใช้เวลาหลังจากนั้นอีกนานถึง 22 ปีกว่าที่ มิเชล โหย่ว จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรก และเธอก็ได้รับมันไปครองอย่างน่าภาคภูมิใจ พร้อมกับสร้างสถิติ ‘นักแสดงชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครอง’ ในประวัติศาสตร์ 95 ปีของเวทีออสการ์
Credit : AFP
เท่านั้นไม่พอ บทที่เธอได้รับจากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ยังทำให้ มิเชล โหย่ว ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัล SAG Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ไปครองด้วยเช่นกัน
แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้าที่จะมารับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ไม่นาน มิเชล โหย่วเพิ่งถูกคน (หลายคน) บอกให้เลิกเล่นหนังได้แล้ว เพราะเธอ "แก่เกิน" กว่าที่จะทำงานนี้ต่อไปแล้ว
“พอคุณแก่ขึ้น บทที่จะเล่นมันก็น้อยลง” มิเชล โหย่ว เปิดเผยเรื่องนี้เอาไว้ตอนไปออกรายการพอดคาสต์ “The Envelope” ของหนังสือพิมพ์ ลอส แองเจลีส ไทม์ส
“มันดูเหมือนกับว่าพอตัวเลขมากขึ้น อะไร ๆ พวกนี้มันก็แคบลง หลังจากนั้นคุณก็จะเริ่มถูกผลักออกไปอยู่ด้านข้างมากขึ้น ๆ ดังนั้น ตอนที่ ‘Everything Everywhere’ มาถึง...มันเลยเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เพราะมันหมายความว่าคุณเป็นคนเดียวที่จะได้เป็นตัวนำในกระบวนการทั้งหมด เป็นคนเล่าเรื่อง”
“พอคุณอายุมากขึ้น คนจะเริ่มพูดว่า...คุณควรวางมือได้แล้วนะ คุณควรทำแบบนี้สิ แบบนั้นสิ...ไม่ อย่ามาบอกว่าฉันต้องทำอะไร ฉันต่างหากที่เป็นคนควบคุมว่าอะไรที่ฉันทำได้ ถูกไหม”
มิเชล โหย่ว พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยการกวาดรางวัลจากเวทีใหญ่ระดับโลกไปครองเพราะการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere และด้วยแรงกดดันจากการเป็นผู้หญิงเชื้อสายเอเชียในฮอลลีวู้ด วัย 60 ปีที่ได้รับมานี่เองส่งผลให้ มิเชล โหย่ว กล่าวคำปราศรัยตอนขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีออสการ์เอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจ
“ถึงเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาคล้ายฉันที่กำลังดูอยู่ในค่ำคืนนี้ นี่คือแสงแห่งความหวังและความเป็นไปได้...นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่าให้ฝัน...ฝันให้ใหญ่ แล้วฝันจะกลายมาเป็นความจริง
สำหรับคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย อย่าปล่อยให้ใครมาบอกคุณว่าคุณผ่านช่วงเวลาที่เจิดจรัสมาแล้ว อย่ายอมแพ้เด็ดขาด”
Credit : AFP
ส่วนตอนที่ขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ มิเชล โหย่ว ก็ได้เล่าถึงความดูถูกเหยียดหยามที่เธอได้รับตอนที่เพิ่งเดินทางมาถึงฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็นการถูกมองว่าเป็นชนกลุ่มน้อย หรือถูกเหยียดว่าไม่น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้
ด้วยเหตุนี้เองเวลาที่ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีต่าง ๆ มิเชล โหย่ว จึงมักจะย้ำอยู่เสมอว่ารางวัลที่เธอได้รับมานี้ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลออสการ์ หรือลูกโลกทองคำ มันไม่ใช่รางวัลสำหรับเธอเท่านั้น แต่เป็นรางวัลสำหรับนักแสดงเอเชียในฮอลลีวู้ดที่ตอนนี้โอกาสได้เปิดให้กับพวกเขาแล้ว
สำหรับคนที่อยากพิสูจน์ฝีมือการแสดงของ มิเชล โหย่ว ในภาพยนตร์ Everything Everywhere All at Once ที่กวาดรางวัลออสการ์ ปี 2023 ไปได้มากที่สุด 7 รางวัล สามารถรับชมได้ทาง HBO GO