รวมจุดยืน 'คนวงการหนัง' พร้อมใจ แบน 'สุพรรณหงส์'
สรุปจุดยืนเหล่าคนวงการหนังไทย หลังพร้อมใจถอนตัวร่วมงานประกาศรางวัล “สุพรรณหงส์” จนเกิดกระแสวิจารณ์เดือดและแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ สนั่นโลกออนไลน์ขณะนี้
ประเด็นล่าสุดที่เปรียบเสมือน “ฟางเส้นสุดท้าย” ทำให้เหล่าคนดังในวงการภาพยนตร์ไทย รวมถึงผู้กำกับ นักเขียนบท นักวิจารณ์ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ไทย ยอมไม่ได้แล้วก็คือ การประกาศปรับกฎเกณฑ์ภาพยนตร์ที่เข้าชิง “รางวัลสุพรรณหงส์” ใหม่ว่าต้องเป็นภาพยนตร์ที่มียอดผู้ชม 50,000 คนขึ้นไป และต้องเข้าฉายครบทั้ง 5 ภูมิภาคของไทย
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดย ศราวุธ แก้วน้ำเย็น ผู้กำกับศิลป์ (Art director) ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 29 มี.ค.66 ถึงกรณีภาพยนตร์ของเขาถูกตัดสิทธิ์เข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ ระบุว่า ทางสุพรรณหงส์มีหลักเกณฑ์ใหม่ที่เพิ่งตั้งในปีนี้ว่า ภาพยนตร์ที่จะเข้าคัดเลือกต้องมีการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ให้ครบ 5 ภูมิภาคของประเทศไทย แต่ภาพยนตร์เรื่อง Anatomy of Time ไม่ได้ฉายให้ครบทุกภาคของประเทศ จึงไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน
จากการปรับเกณฑ์ดังกล่าวเท่ากับเป็นการตัดโอกาสของภาพยนตร์อิสระ หรือภาพยนตร์ฟอร์มเล็กไปโดยปริยาย จึงทำให้เกิดแฮชแท็กร้อนแรงอย่าง #แบนสุพรรณหงส์ ขึ้นในโลกโซเชียล ซึ่งกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเมื่อเหล่าคนดังในวงการภาพยนตร์ไทย รวมถึงผู้กำกับ นักเขียนบท นักวิจารณ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ไทย ร่วมแสดงจุดยืนผ่านแฮชแท็กนี้
ตามมาด้วย อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหารเครือเนชั่น ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ โดยให้เหตุผลว่า “ไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสุพรรณ์หงส์ ปี 2566”
- รวมพลังคนวงการหนังไทย
ขณะที่ ปิง เกรียงไกร ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “พรจากฟ้า” โพสต์ว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของสมาพันธ์ ที่จะผลักดันกติกาอันไม่เป็นธรรมให้ลุล่วง มันเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2562 ซึ่งสุดท้ายก็เป็นอันตกไปเพราะถูกต่อต้านจากคนทำหนังค่อนวงการ วันนี้มันกลับมาอีกครั้ง ถ้าจะผลักดันกติกานี้ ก็ขอฟังคำอธิบายที่ฟังขึ้นสักหน่อยเถิด
เงื่อนไขดังกล่าว นึกคำตอบที่สมเหตุสมผลไม่ออกเลยว่า ทำไมหนังที่จะเข้าชิงรางวัลจึงต้องได้ฉายใน 5 จังหวัดสำคัญ ต้องมีคนดูมากกว่า 50,000 คน เพื่อการันตีอะไร? การมอบรางวัลมีเพื่ออะไรกันแน่?”
ด้านปิ๊ง อดิสรณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ระบุว่า “ขออนุญาตถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเพื่อ คัดเลือกเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ จะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนังและเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ และทีมงานหนังไทยทุกคน ปล.เป็นการตัดสินใจส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางบริษัทและผู้ร่วมสร้างภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒”
ขณะที่ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นักเขียนบทภาพยนตร์ “ฮาวทูทิ้ง” และ “fast & feel love” แสดงจุดยืนว่า “ขอถอนตัวจากการได้รับสิทธิ์ในการถูกคัดเลือกเพื่อได้รับการพิจารณาในรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ เพราะโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกติกาและเงื่อนไข”
นอกจากนี้ ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “สนับสนุนการไม่สนับสนุนกติกาที่ผิดเพี้ยน #แบนสุพรรณหงส์”
ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับสารคดี เอหิปสสิโก และหนึ่งในนักเขียนบท One for the Road ประกาศว่า "ขออนุญาตถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติจะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนังและเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ และทีมงานไทยทุกคน"
ด้านคงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับภาพยนตร์ Faces of Anne ระบุในทวิตเตอร์ว่า “ขอใช้สิทธิส่วนตัวในการไม่ร่วมสังฆกรรมกับรางวัลสุพรรณหงส์ในกติกาสกปรกที่พยายามลักลอบทำมาหลายปีแล้ว ลำพังหนังไทยทุกวันนี้ก็โดนด้อยค่ามากพอแล้ว แต่การด้อยค่ากันเองนี่ทุเรศเกินทน #แบนสุพรรณหงส์”
เช่นเดียวกับ บาส - นัฐวุฒิ พูนพิริยะ หนึ่งในนักเขียนบท One for the Road แสดงจุดยืนผ่านอินสตาแกรมว่า “ขอถอนชื่อของตัวเองจากการได้รับการเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกเข้าชิงรางวัลผู้กำกับและผู้เขียนบทของรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติจะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนัง และมองเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ไทยทุกเรื่อง และทีมงานทุกคน ศิลปะที่ดีไม่ได้เกี่ยวกับขนาดเล็กหรือใหญ่ แต่ต้องพิสูจน์ด้วยพื้นที่ในใจคนดู”
นอกจากนี้ โจ-หรินทร์ แพทรงไทย นักตัดต่อภาพยนตร์ Take Me Home : สุขสันต์วันกลับบ้าน และ Where We Belong ระบุว่า “ขอเรียกร้องให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทีมงานภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง งดการมีส่วนร่วมกับงานสุพรรณหงส์ที่จัดโดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกว่า พวกเราไม่ยอมรับเกณฑ์การคัดเลือกหนังที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับหนังค่ายใหญ่ #ไม่ให้ค่างานที่ไม่เห็นคุณค่าคนทำงาน”
ศิวโรจณ์ คงสกุล ผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “อรุณกาล” และ “ที่รัก” ประกาศว่า “ขอคัดค้านกฎใหม่ผู้เข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ที่ไม่เอื้อต่อหนังไทยจากสตูดิโอขนาดเล็ก #แบนสุพรรณหงส์”
ขณะที่โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง เธอกับฉันกับฉัน ระบุว่า “ไม่เห็นด้วยกับกฎที่เป็นการกีดกันหนังอิสระ ผมขอร่วม #แบนสุพรรณหงส์”
- ท่าทีล่าสุดจากหนึ่งในกรรมการตัดสิน
ช่วงเย็นวันนี้ นุชี่-อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดงานรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ โพสต์ในเฟซบุ๊ก Anucha Boonyawatana ว่า “ไม่ทราบมาก่อนจากกรณีที่มีกติกากีดกันภาพยนตร์อิสระ และไม่เห็นด้วยกับกติกาดังกล่าว และจะหาทางแก้ไขหลังจากประชุมกับทางสมาพันธ์พรุ่งนี้ นุชี่ไม่ได้รับทราบมาก่อนว่าจะมีกติกาที่กีดกันภาพยนตร์อิสระเรื่อง เวลา Anatomy of Time ที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ รวมทั้งตัวนุชี่เองก็เป็นคณะกรรมการรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด ที่ร่วมตัดสินมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับเรื่อง เวลา ด้วยค่ะ
นุชี่ไม่เห็นด้วยกับกติกาดังกล่าวนี้อยู่แล้ว พรุ่งนี้จะไปประชุมกับทางสมาพันธ์เพื่อหาคำตอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนะคะ ช่วงนี้มีปัญหาในวงการภาพยนตร์ไทยหลายอย่าง จะพยายามค่อย ๆ หาทางแก้ไปค่ะ
ส่วนงานรางวัลสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 4 เมษายนนี้ เวทีของเราเปิดโอกาสให้ภาพยนตร์ทุกๆเรื่อง และผลรางวัลเกิดจากคะแนนโหวตของผู้กำกับภาพยนตร์ไทยร่วมกันลงคะแนนค่ะ
ปีนี้งานประกาศรางวัลสมาคมฯ มาใน theme “Freedom of Speech” ทางสมาคมไม่ได้ของบหน่วยงานภาครัฐมาจัดงานเพราะไม่ต้องการให้มาแทรกแซงห้ามแสดงความคิดเห็น ห้ามพูดโน่นพูดนี่ จึงขอเชิญคนทำหนังไทยทุกท่านเข้าร่วมงานค่ะ เราอยากฟังเสียงของทุกท่านนะคะ”