'บิ๊กเอ็ม' เปิดใจครั้งแรกหลังเจอมรสุมชีวิต เครียดหนักถึงขั้นไอเป็นเลือด

พระเอกหนุ่มชื่อดัง 'บิ๊กเอ็ม' กฤตฤทธิ์ บุตรพรม ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ คุยแซ่บShow หลังฝ่ามรสุมดราม่าถาโถมปมรางวัลที่ 1 ทิพย์ จนถูกต้นสังกัดปลดฟ้าผ่า

 

 

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระ?

 

บิ๊กเอ็ม : ครับ ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระ รู้สึกหวิวๆเหมือนกัน เมื่อก่อนเราจะอยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้เราต้องออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน แต่อีกมุมนึงผมรู้สึกถึงอิสระภาพในการทำสิ่งต่างๆ ได้ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆที่เรายังไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมงาน ปัจจุบันมีคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้

 

ดราม่าถูกหวยทิพย์ รู้มั้ยว่าอาจจะต้องโดนยกเลิกสัญญา?

 

บิ๊กเอ็ม : ผมเตรียมใจมาสักพักนึงแล้ว เพราะข่าวมันรุนแรงมาก ผมอยู่กับช่องมานาน รู้ว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่นอน และก็เตรียมใจแล้วเพียงแค่ว่ามันจะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง และสุดท้ายทางช่องก็โทรมาช่วงเช้าวันที่ 6 มกราคม 2566 จำได้แม่นเลย (หัวเราะ) ก่อนจะรับโทรศัพท์หัวใจเต้นแรงมาก และทางผู้ใหญ่ของช่องก็พูดว่ามันจำเป็นต้องยุติสัญญาจริงๆ เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันกระทบกับทางช่อง ผมก็พูดไม่ออก พูดได้แค่ ครับ ๆ

 

เคว้งมั้ย?

 

บิ๊กเอ็ม : ก็รู้สึกเคว้งมาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต พอเรามาเป็นอิสระแล้วไม่รู้ว่ายังทำงานในวงการบันเทิงได้อีกหรือเปล่า มันกลัวไปหมดเลยครับ

 

 

 

เครียดจนอ้วกเป็นเลือด?

 

บิ๊กเอ็ม : อันนั้นมันเป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนวันสิ้นปี ก่อนถูกยกเลิกสัญญา มันเป็นช่วงที่ข่าวกำลังร้อนมากๆ ผมก็เครียด มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญก่อนที่ผมจะออกไปพูดกับพี่ณวัฒน์ คืนนั้นผมรู้สึกแย่มาก กินข้าวไม่ได้ กินได้ทีละนิดที่ละคำ นอนทั้งวัน ร่างกายก็ผอม คืนนั้นอ้วกออกมามีสีชมพูสีแดงปน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปทำบุญแล้วเดินก็ไม่ไหว ขับรถไม่ไหว สภาพผมนั่งเหม่อลอย

 

กอดกับคุณแม่แล้วร้องไห้?

 

บิ๊กเอ็ม : วันสิ้นปีมันควรเป็นวันของการเฉลิมฉลอง มีความสุข แต่ครอบครัวผมไม่ใช่ ผมนั่งสวดมนต์ข้ามปีกับคุณแม่ที่ห้องพระ สวดจนข้ามปี ผมให้แม่อวยพรให้เพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องไปแถลงข่าวกับพี่ณวัฒน์ อยู่ดีๆความรู้สึกมันก็พรั่งพรูออกมามา ผมกอดแม่แล้วก็ร้องไห้

 

เครียดจนถึงขั้นแบบไม่อยากอยู่?

 

บิ๊กเอ็ม : ตอนนั้นเครียดมาก แต่ไม่ถึงกับว่าไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว ไม่ถึงขั้นนั้น ด้วยความที่ผมเป็นคนต่อสู้ชีวิตมาก่อน ผมรักและหวงแหนตัวเองมาก กว่าที่เราจะมาถึงตรงนี้ได้มันผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่ก็มีความรู้สึกแว้บนึงว่าถ้าพรุ่งนี้เราไม่ตื่นละเรื่องราวพวกนี้จะยังอยู่มั้ยหรือจะจบลง มันก็คิดแค่นี้ แต่ยังไม่ถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง ยังไม่ถึงขั้นนั้น

 

 

กำลังใจที่ดีที่สุดของเรา?

 

บิ๊กเอ็ม : กำลังใจแรกของเราเลยคือคุณแม่ บางอย่างที่ข่าวเกิดขึ้นบางทีผมไม่ได้มีที่ปรึกษา เราก็ปรึกษากันเองสองคนแม่ลูก พอมีอะไรผิดพลาดไปเราก็ยังอยู่กัน 2 คน มีคืนที่ผมบอกแม่ว่าไม่ไหว วันรุ่งขึ้นผมต้องไปคุยกับพี่ณวัฒน์ แม่โทรคุยกับพี่ที่สนิทกันว่าผมจะไม่ไหวมั้ยไม่รู้ แต่มันต้องสู้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะจบแค่นี้ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของเรา แต่ถ้าเราได้ไปต่อก็ถือว่าเราคิดถูก คือเราไม่ได้ไปฆ่าใครตายก็ต้องลุกขึ้นมาสู้สิ ขอบคุณแฟนคลับก็อยู่เคียงข้างผมตลอด รักและขอบคุณมากๆ

 

มรสุมใหญ่ครั้งนี้ได้บทเรียนอะไรบ้าง?

 

บิ๊กเอ็ม : ถ้าคนที่รู้จักผม ตั้งแต่เข้าวงการมาผมไม่เคยมีข่าวเสียหาย พอเรามาเจออะไรที่มันหนักโดนหลายคนโจมตีเรา มันหนักจริงๆ ช่วงที่เกิดเหตุการณ์ผมเป็นคนที่ขี้เกรงใจ ผมเป็นคนที่เข้าถึงกับทุกคน เป็นคนเชื่อคนง่าย เขาให้ทำอะไรก็ทำตามๆเขาไป พอเกิดเรื่องผมจึงมานั่งคิดทบทวนว่าต่อไปนี้เราต้องสแกนคน คิดแล้วค่อยตัดสินใจ ข้อดีข้อเสีย มีสติมากขึ้น เลือกคบคน

 

 

ขอบคุณคลิปจาก Orange Mama