ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด สูญเงิน 100 ล้าน เป็นหนี้ 50 ล้าน หลงผิดเชื่อลัทธิไลฟ์โค้ช

ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ เปิดใจเล่าทั้งน้ำตาอุทาหรณ์สูญเงินเก็บกว่า 100 ล้าน แถมเป็นหนี้อีก 50 ล้าน โดยเธอได้เล่าช่วงเวลา 6-7 ปีที่เธอหลงผิดจากการไปเชื่อไปฟังสิ่งๆคล้ายพวกลัทธินำเอาเรื่องธรรมอันสูงส่งมาใส่หัวจนเชื่อและยอมทำตามทุกอย่างนำมาเป็นแบบแผนเข็มทิศชีวิตตน จนสุดท้ายต้องสูญเสียทุกอย่าง เลิกกับแฟน เพื่อนๆห้ามก็ไม่ฟังและมองการรับงานบันเทิงเป็นสิ่งที่ไร้สาระ

โดย อาตุ่ย หรือ ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด เริ่มเล่าว่า เมื่อหลายปีก่อนก็จะเห็นรูปที่ร่วมเฟรมกับไลฟ์โค้ชท่านหนึ่งอยู่บ่อยๆ ก่อนจะค่อยๆหายไป ส่วนบรรดาลูกศิษย์ดาราของไลฟ์โค้ชคนดังกล่าวก็เหมือนจะเฟดตัวออกมากันหมดแล้ว ตอนนั้นช่วงที่ไปฟังเขาทำให้เราคิดว่างานในวงการบันเทิงเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นงานอะไรก็ไม่รู้ เราไม่ควรทำ การทำสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ควรรับงาน ไม่ควรมายุ่งกับคนพวกนี้ มันได้ถูกกรอบความคิด แต่เราก็โง่เองด้วย ไม่มีใครจะมากรอบความคิดเราได้นะ ถ้าเราไม่ได้มีวิบากเก่ากับเขา

อาตุ่ย เล่าตัวว่าโดนชักจูงจนหลงเตลิด สูญเสียทุกอย่าง เลิกกับแฟนเพราะขัดขวางการทำคุณงามความดีคนที่เขารักเราห่วงเรา เขาต้องผิดหวังเสียใจ แล้วในเวลานั้นเราทำให้หลายๆคนผิดหวังในตัวเรา เสียใจที่สุดคือเรื่องนี้

เรื่องเงินทอง ที่หายไปมันก็คือเงินทอง แต่ความรักที่หายไปมันเยอะมาก ในช่วงที่เข้าหลงลัทธิ ถ้าเราไม่มีสติปัญญาทันเราก็จะหลงเตลิดไป เสียเวลาในชีวิตเยอะมาก ประมาณ 6-7 ปี ใครโทรหาก็ไม่รับสาย ใครเตือนก็จะตาแข็งใส่เขาจนทำทุกคนเสียใจ คนที่เตือนเราจะมองว่าเขาเป็นมาร มองเหยียดคนอื่น เราแย่มากจนไม่เหลือใครในชีวิตเลย

ตอนนั้นในคำสั่งสอนของแต่ละสำนัก หรืออะไรต่างๆนานา คือดีหมด แต่มันอยู่ที่สติปัญญาของเราด้วย เพราะมีบ้างที่เซ็ตอัปตัวเอง เรียนแบบโคลนนิ่งกับสิ่งที่เป็นของจริงของแท้ แล้วเขาก็ชักจูงเราไป ภายในภาพที่เหมือนเป็นของจริงของแท้ ถ้าเราไม่มีสติปัญญาทัน เราก็จะหลงเตลิดไป 

เพื่อนฝูงเตือน อาไก่ (สมพล ปิยะพงศ์สิริ) เคยพยายามจะพูด ก็ไปตาแข็งใส่ มดดำเตือนเราก็จะรู้สึกว่ามดดำคือพวกมาร พวกคนบาป พวกที่จะชักจูงเราไปในทางที่ไม่ดี เราอุตส่าห์มาดีแล้ว แล้วเหยียดคนอื่นโดยไม่รู้ตัว แย่มากตัวเองในตอนนั้น

ยอมรับว่าหนักจนไม่เหลือใครในชีวิต ไม่เหลือ ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดชังเรานะ โชคดีที่เป็นแบบไหนคนก็ยังรัก แต่ถ้าเตือนแล้วทำตาแข็งใส่เขา เขาก็เลือกที่จะถอย เขาก็บอกว่าวันหนึ่งถ้ามีสติ ถ้ารู้ตัว แล้วบาดเจ็บมา พี่จะกอดเอาไว้ พี่จะรับเสมอ ทั้งๆที่เคยทำตัวแบบนั้น

• อาตุ่ย พุทธชาด สูญเงินหลักร้อยล้าน

ตอนนั้น เราไปทุ่มเหมือนเราเป็นเอฟซี อยากจะทุ่มสปอยล์เอาใจ เอาไปซื้อข้าวซื้อของ พอมานั่งทบทวนตรงนี้นะ ถ้าคนอื่นซื้อเท่านี้ เราจะได้ซื้อแพงกว่ามากๆ ตังค์มันก็จะไปหมดตรงนั้น แต่หลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น มันสูญสลายมลายสิ้นไป ปัจจุบันเหลือหนี้ 50 ล้านกว่าพยายามกลับมาทำงานในวงการบันเทิง แล้วก็ไปโฟกัสการค้าขายมากขึ้น แต่มันก็ยังไปกอบกู้มาไม่ได้มากมาย ยังมีหนี้ติดอยู่หลายสิบล้าน 

ทอง ที่เคยมีซื้อเก็บไว้ ปัจจุบันไม่มี ขายหมด มันเป็นเรื่องของความหลงผิด ฉะนั้นคุณผู้ชมอย่าได้วู่วามนะ ว่าเงินทองที่ใส่ลงไปจะทำให้เราได้สติ ได้ปัญญา ได้เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ใช่นะคะ มันอยู่ที่การปฎิบัติตัวของเรามากกว่า แต่ก็พยายามคิดทุกอย่างในแง่บวก ว่าอย่างน้อยเราก็ได้เป็นอสังหาริมทรัพย์ คิดแบบนี้ไปก่อน เพื่อเป็นแรงใจยืนหยัดในการทำงาน แต่สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ คือความผิดหวังและเสียใจของคนที่รัก ขนาดแม่ยังไม่กล้าเตือนเพราะกลัวลูกบาป

• ตอนนั้น อาตุ่ย พุทธชาด โดนของหรือไม่?

ทุกอย่างเกิดจากความอยากมี ไม่รู้โดนให้กินอะไรหรือเปล่า เพราะไม่มีหลักฐานเลยพูดไม่ได้ตอนนั้นเราก็เห็นภาพลักษณ์อันดีนั้น แล้วก็เซ็ตติ้งที่มันน่าเชื่อถือ มีคนพูดว่าทำไมถึงหลงจัง คนอย่างเธอทำไมถึงหลงขนาดนั้น แต่เราไม่ปกติจนคนสงสัยแบบนั้น ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐานเราพูดไม่ได้

• อาตุ่ย พุทธชาด ฝากเป็นอุทาหรณ์

ถ้าเราทำมาหาได้มีอาชีพ กัลยาณมิตร แต่ยังรู้สึกว่าใจเรายังไม่เป็นสุข ยังไม่ดีมากพอ นั่นเป็นเพราะตัวของเรา ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าคุณจะเอาเงินไปบริจาคทานจนหมดเกลี้ยงหรือว่าแบบไม่รับงานที่คุณทำอยู่ หรือทอดทิ้งทางโลกไปแล้วทำให้คุณจิตใจดีขึ้น ซึ่งอันนี้แหละที่เรียกว่า เป็นการหลงผิด 

แต่คุณจะเป็นเราที่เป็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้ก็คือ เราต้องดูแลความรัก เราต้องเห็นความรักกับคนที่เขาห่วงใยเราอย่างแท้จริง เรารักเขา เขารักเรากลับ เราเห็นความเห็นความดี เห็นคุณค่าที่เขาทำ เราเห็นคุณค่ากับงานที่เราทำอยู่ปัจจุบันอย่างมีความสุข ไม่ต้องไปแบบ ดีกว่าใคร

ขอบคุณรายการ แฉ