เปิดประวัติ 'เปิ้ล-จารุณี' ราชินีจอเงิน หลังทำฮือฮาโผล่ให้กำลังใจ 'ลุงตู่'
เปิดประวัติ 'เปิ้ล-จารุณี สุขสวัสดิ์' หลังทำฮือฮาโผล่ให้กำลังใจ 'ลุงตู่' ถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เหตุมีอุดมการณ์เดียวกัน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เรียกว่าทำเอาฮือฮาเมื่อดารานักแสดงชื่อดัง 'เปิ้ล-จารุณี สุขสวัสดิ์' หนึ่งในตำนานนางเอกหนังไทย เจ้าของฉายา ดาราทอง , ราชินีจอเงิน และ ราชินีนักบู๊ ที่เมื่อวานนี้(22 พ.ค.66) ได้หอบกระเช้าผลไม้ไปมอบให้กำลังใจ 'ลุงตู่' หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดย 'เปิ้ล-จารุณี' ให้สัมภาษณ์กรณีเดินทางมาให้กำลังใจ 'ลุงตู่' ว่า ตนรู้จักสมาชิก รทสช. หลายคน และมีความคิดเหมือนกันในการรักเคารพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดีใจที่มีโอกาสได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนำเมลอนมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ ที่ผ่านมาแม้ไม่เคยแสดงจุดยืนทางการเมือง แต่จุดยืนของตัวเองคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และไม่ต้องการเห็นชาติสูญสิ้นสลาย เหมือนเวเนซุเอลา หรือ อาร์เจนตินา
'เรารักชาติ ไม่ต้องการให้ต่างประเทศเข้ามา ไม่ใช่ว่าพอลืมตาแล้วไม่รู้ว่าเราคือใครกันแน่ ส่วนตัวยืนยันไม่ต้องการไปเป็นทาสของสหรัฐฯหรือประเทศอื่นๆ เพราะปัจจุบันก็ลำบากอยู่แล้ว เราจะอยู่กันอย่างไรต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆเราทำงานอะไรไม่ได้เพราะประเทศไม่ใช่ของเรา'
ประวัติ เปิ้ล-จารุณี
ประวัติ 'เปิ้ล-จารุณี' หรือ แคโรลีน เดส์แน็ช (Caroline Desneiges) เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 เป็นนักแสดงหญิงลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ศิลปินและดาวค้างฟ้าตลอดกาล เจ้าของฉายา 'ดาราทอง' , 'ราชินีจอเงิน' และ 'ราชินีนักบู๊' หนึ่งในตำนานนางเอกหนังไทยขวัญใจมหาชน มีบิดาเป็นชาวฝรั่งเศส ชื่อ แฟร์น็อง เดส์แน็ช (Fernand Desneiges) และมารดาเป็นชาวไทย ชื่อ ระเบียบ สุขสวัสดิ์
การศึกษา เปิ้ล จารุณี
'เปิ้ล-จารุณี' เรียนระดับอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลทองโชติ , ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ที่โรงเรียนธัมมสิริศึกษา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี , ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ กรุงเทพฯ , ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบางกะปิ , ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่โรงเรียนพาณิชยการเจ้าพระยา , สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และระดับปริญญาโท จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ก่อนจะเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง 'เปิ้ล-จารุณี สุขสวัสดิ์' เคยทำงานในสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ (คลองจั่น บางกะปิ) ทำหน้าที่จำหน่ายบัตรผ่านประตูและเครื่องดื่ม บางโอกาสก็แสดงเป็นสโนว์ไวท์ในขบวนพาเหรดของสวนสนุก และยังเคยหารายได้พิเศษด้วยการทำงานรับจ้างเป็นจับกังและคนงานก่อสร้างเพื่อส่งเสียตัวเองให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือและเจียดเงินส่งให้ครอบครัว
เริ่มเข้าวงการ
'เปิ้ล จารุณี' แสดงภาพยนตร์ในสังกัดสีบุญเรืองฟิล์ม เรื่อง 'สวัสดีคุณครู' เป็นเรื่องแรก ภายใต้การกำกับการแสดงของบรมครู 'พันคำ' เมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยแสดงร่วมกับนางเอกวัยรุ่นอีกคน คือ 'กาญจนา บุญประเสริฐ' และมาเป็นนางเอกเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่องที่ 2 'รักแล้วรอหน่อย' (เรื่องเดียวกับ วนาลี) คู่กับ สรพงศ์ ชาตรี
กระทั่งปี พ.ศ. 2523 'บ้านทรายทอง' กำกับการแสดงโดย 'รุจน์ รณภพ' แห่งบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ประสบความสำเร็จท่วมท้น ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามหาศาลในยุคนั้น ตามด้วย 'พจมาน สว่างวงศ์' ซึ่งทำรายได้ถล่มทลายไม่แพ้กัน ทำให้ชื่อของ 'จารุณี สุขสวัสดิ์' เป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ สายหนังและแฟนภาพยนตร์ไทย จนได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่าเป็น 'ดาราทอง'
นอกจากนี้ 'เปิ้ล-จารุณี' ยังเป็นนักแสดงจอเงินเพียงผู้เดียวที่สวมบทบาทเป็นทั้ง ปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และ รัตนาวดี จากนวนิยายไตรภาค บทประพันธ์ของหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตหรือ ว.ณ ประมวญมารค รัตนาวดี ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายภายใต้การกำกับการแสดงของรุจน์ รณภพ ที่จารุณีแสดงให้กับบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่นในฐานะนักแสดงนำหญิง ก่อนที่หลายปีต่อมา จารุณีจะมารับบทเป็นนักแสดงสมทบให้กับบริษัทไฟว์สตาร์อีกครั้งในเรื่อง 'บุญชุ 8 เพื่อเธอ' ภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงโดยเฉพาะในยุคเฟื่องฟูนั้นจะเรียกติดปากโดยอัตโนมัติว่า 'หนังจารุณี' ทั้งๆที่จารุณีไม่ได้เป็นผู้กำกับการแสดงหรือผู้สร้าง เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นนักแสดงเท่านั้น และภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงส่วนใหญ่มักได้รับการพากย์เสียงโดย ดวงดาว จารุจินดา
'เปิ้ล-จารุณี สุขสวัสดิ์' มีงานหลั่งไหลเข้ามามากมายจนได้ชื่อว่าเป็น 'นางเอกคิวทอง' สามารถแสดงได้ทุกบทบาททั้งชีวิต บู๊ ตลก แก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซน และได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น เนื่องจากจารุณีมีรัศมีความเป็นสุดยอดดารา (Superstar) แสดงภาพยนตร์เป็นธรรมชาติ มีฝีมือและเสน่ห์ในการแสดงที่แพรวพราว หาตัวจับได้ยาก มิหนำซ้ำภาพยนตร์ของเธอทำเงินทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กหรือฟอร์มใหญ่ ถึงขนาดมีการการันตีว่า ถ้าหนังเรื่องไหนได้จารุณีเป็นนางเอกแล้ว รับรองไม่มีเจ๊งหรือขาดทุนอย่างแน่นอน
แฟนภาพยนตร์เป็นจำนวนมากที่รักและศรัทธาในตัว 'เปิ้ล-จารุณี' ได้ก่อตั้ง 'ชมรมสุขสวัสดิ์' ขึ้น เพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน ถือเป็นแฟนคลับยุคแรกๆของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ยุคที่ยังไม่มีระบบสารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยเหมือนในยุคปัจจุบัน
มรสุมชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์
แม้ว่า 'จารุณี สุขสวัสดิ์' จะเป็นนักแสดงมืออาชีพที่มีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดระดับตำนานประวัติศาสตร์ 'ราชินีหนังไทย' และ 'ราชินีจอเงิน' นับจาก 'เพชรา เชาวราษฎร์' แล้ว ในด้านชีวิตส่วนตัวกลับต้องทำงานหนักตลอดเวลา ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอและประสบมรสุมชีวิตหนักๆหลายครั้ง เช่น เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกขณะขี่เรือหางยาวเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 'ลูกสาวกำนัน' จนเกือบเสียชีวิต
อุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่สอง ระหว่างเดินทางในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง 'บ้านสีดอกรัก' ที่เชียงใหม่ จนเกือบต้องพิการตลอดชีวิต และประสบปัญหาด้านสุขภาพ มีอาการตัวบวมเนื่องจากต่อมไทรอยด์เป็นพิษระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 'วันนี้ยังมีรัก' ประกอบกับในช่วงนั้นรายได้และจำนวนการผลิตหนังไทยเริ่มลดลง เป็นผลให้ 'จารุณี สุขสวัสดิ์' ต้องหยุดงานภาพยนตร์ไปช่วงระยะเวลาหนึ่งทั้งๆที่ยังมีชื่อเสียงอยู่ ในที่สุด เปิ้ล-จารุณี สุขสวัสดิ์ ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ ผลงานละครโทรทัศน์เรื่องแรก คือ 'ไฟเสน่หา' หลังจากนั้นก็มีผลงานกับค่ายคีตาและงานบันเทิงด้านต่างๆ เช่น พิธีกร ละครเวที เป็นต้น
ทั้งนี้ ในวงการภาพยนตร์ไทย นางเอกภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและมีดีกรีความโด่งดังระดับแม่เหล็กของวงการ เรียกว่าเป็น 'ราชินีจอเงิน' ที่ดังเป็นพลุแตกมีอยู่ 2 ท่านเท่านั้น คือ เพชรา เชาวราษฎร์ (2504-2513) และ จารุณี สุขสวัสดิ์ (2520-2529)
