เหตุผลที่ห้ามพลาดซีรีส์ Moving เมื่อพลังพิเศษกลายเป็นเป้าให้ถูกไล่ล่า
กำลังเป็นกระแสปากต่อปากสำหรับซีรีส์ Moving ทาง Disney+ Hotstar ซีรีส์เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ที่ทางเกาหลีไม่ค่อยได้ทำออกมาให้ดูกันเท่าไรนัก นอกจากพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ และทีมนักแสดงระดับแนวหน้าของประเทศแล้ว Moving ยังมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ไปตามอ่านกัน
การมีพลังพิเศษเหนือมนุษย์อาจไม่ใช่เรื่องดีก็เป็นได้ หากมีแล้วมันทำให้คุณและครอบครัวต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาชีวิตรอดจากการถูกไล่ล่าของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์ลับสุดยอดบางอย่าง
Moving เป็นซีรีส์ออริจินัลเกาหลีจาก Disney+ Hotstar ที่นอกจากจะมีพล็อตเรื่องน่าสนใจแล้ว ยังเต็มไปด้วยทัพนักแสดงมากฝีมือ ทั้งรุ่นใหญ่อย่าง รยูซึงรยง (Extreme Job, The Admiral: Roaring Currents), ฮันฮโยจู (The Beauty Inside, W), โจอินซอง (The Great Battle, Escape from Mogadishu), ชาแทฮยอน (My Sassy Girl, Unexpected Business)
นักแสดงดาวรุ่งอย่าง อีจองฮา (Run On, Nevertheless), โกยุนจอง (Alchemy of Souls, Sweet Home) และคิมโดฮุน (The Faceless Boss, The Law Café)
Moving ดัดแปลงมาจากเว็บตูนที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย มียอดรับชมกว่า 200 ล้านวิว ผลงานของ คังฟูล ซึ่งมารับหน้าที่เขียนบทให้กับซีรีส์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง
สำหรับเรื่องย่อของ Moving มีอยู่ว่า ในช่วงทศวรรษที่ 1990 สำนักงานวางแผนความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นมาซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลที่มีพลังพิเศษทั้งสิ้น พวกเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจลับทางราชการที่คนธรรมดายากจะทำสำเร็จได้ แต่แล้วจู่ ๆ เหล่าคนที่ทุ่มเททำเพื่อประเทศชาติกลับหายสาบสูญไปอย่างกะทันหัน สมาชิกแตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศละทาง ไม่มีใครได้ยินข่าวจากพวกเขาอีกเลย
หลายสิบปีต่อมา บงซอก เด็กหนุ่มที่ลอยตัวได้ก่อนจะเริ่มหัดเดิน ฮีซู เด็กสาวที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกันและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้เปิดเผยความลับให้กันและกันฟัง
แต่ขณะที่ชีวิตวัยรุ่นของพวกเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น จู่ ๆ ก็มีคนขับรถส่งของลึกลับนามว่า แฟรงก์ ปรากฎตัวและเริ่มไล่ฆ่าผู้ที่มีพลังพิเศษทั่วกรุงโซล
ทว่าการมาถึงของ แฟรงก์ ทำให้ความลับต่าง ๆ ที่ถูกเก็บงำเอาไว้ ทั้งเรื่องพลังพิเศษของเด็ก ๆ อดีตอันดำมืดของพ่อแม่พวกเขา โรงเรียนที่พวกเขาเรียนอยู่ และแผนลับของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มเปิดเผยออกมาให้โลกได้ตะลึง
เหตุผลที่ห้ามพลาดซีรีส์ Moving
- กำกับโดย พัคอินเจ (Park In Jae) ที่เคยฝากฝีมือเอาไว้จากซีรีส์ Kingdom ซีซั่น 2 ภาพยนตร์ Moby Dick และ The Mayor เขาบอกว่า Moving เป็นซีรีส์ที่มีหลากหลายแนวผสมกัน ทั้งดรามาครอบครัว แอคชั่น ไซไฟ และโรแมนติก
“เราสอดแทรกฉากแอคชั่นเข้าไปทุกตอนเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชม แล้วยังมีเรื่องครอบครัว ชีวิตวัยรุ่น และความรักอยู่ในทั้ง 20 ตอน”
- ได้ อีฮยองด็อก (Lee Hyungdeok) ผู้กำกับภาพจาก Train to Busan และ Peninsula มาดูแล จึงรับประกันได้ถึงความสวยงามด้านภาพ
- เพลงประกอบเป็นผลงานของ Dalpalan มิวสิคไดเร็กเตอร์ชาวเกาหลีที่กวาดรางวัลสาขา Best Music มาแล้วมากมาย สำหรับผลงานที่โดดเด่นและได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากของเขาคือ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Wailing
- Lee Sung-gyu ผู้ควบคุมฝ่ายวิชวลเอฟเฟค (VFX) บอกว่าฉากคนบิน และฉากต่อสู้ต่าง ๆ เป็นผลพวงจากความร่วมมือระดับโลกเป็นเวลานาน 2 ปี
“มีสตูติโอราว 60 แห่งจาก 9 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในการผลิต VFX เราโฟกัสที่ไปการสร้างภาพให้เหมือนจริงจะได้ไม่เบี่ยงเบนความสนใจของคนไปจากเนื้อเรื่อง”
- Moving มีงบประมาณการสร้างสูงถึง 50,000 ล้านวอน (กว่า 1,300 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับการผลิตซีรีส์เกาหลี
- รยูซึงรยง นักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการรับประกันว่า Moving เป็นซีรีส์ที่มีคุณภาพไม่ต่างกับภาพยนตร์
“ถ้าคุณดูเวลาฉายทั้งหมดแล้ว มันเหมือนเอาหนัง 10 เรื่องมารวมกันเป็นหนังที่ยาวมากเรื่องหนึ่ง ผมคิดว่าพวกเราเหมือน อเวนเจอร์ส (Avengers) เรามีทีมนักแสดงที่เต็มไปด้วยดาราดังอย่างแท้จริง เรามีทีมงานที่ยอดเยี่ยม แล้วเราก็อยากสร้างงานมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ด้วยกันเพื่อนำไปให้คนดูได้รับชม”
คังฟูล (Kang Full) ผู้แต่งและคนเขียนบทบอกว่า Moving เป็น “ฮีโร่สไตล์เกาหลี” ที่ดูเหมือนคนธรรมดา ๆ ต่อสู้เพื่อคนที่พวกเขารักด้วยพลังซูเปอร์พาวเวอร์ที่ซ่อนอยู่
“ฮีโร่สไตล์เกาหลีคืออะไร? ผมอยากโฟกัสไปที่สถานการณ์ และสาเหตุที่บีบให้ฮีโร่คนหนึ่งต้องลุกขึ้นมาสู้ ในซีรีส์เรื่องนี้ ตัวละครแต่ละตัวสู้เพื่อคนที่พวกเขารัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้มีเหตุผลสูงส่งด้านศีลธรรมอย่างการสู้เพื่อปกป้องโลก”
รับประกันว่าคุณจะต้องหลงรักตัวละคร คิมบงซอก รับบทโดยนักแสดงดาวรุ่ง อีจองฮา (Lee Jung Ha) ที่เล่นเป็นหนุ่มน้อยผู้ใสซื่อ บริสุทธิ์ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู
อีจองฮา ยอมเพิ่มน้ำหนักตัวถึง 30 กิโลกรัม แถมยังต้องรักษาน้ำหนักนี้เอาไว้ให้คงที่เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้สมบทบาทของ บงซอก ที่ต้องกินให้อ้วนเข้าไว้เพื่อไม่ให้ตัวลอย
โกยุนจอง ที่โด่งดังมาจากบท นักซู ในซีรีส์ Alchemy of Souls 2 มารับบท จางฮีซู สาวน้อยผู้มีความสามารถพิเศษในการฟื้นจากอาการบาดเจ็บได้เร็ว
โจอินซอง พระเอกรูปหล่อขวัญใจสาว ๆ มาตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง The Classic (2003) กลับมาเล่นละครเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยซีรีส์เรื่องสุดท้ายที่เขาเล่นเอาไว้คือ It’s Okay, That’s Love ในปี 2014
โจอินซอง รับบท คิมดูชิก สายลับผู้เก่งกาจเป็นหัวกะทิของหน่วย ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เขาจะมีใบหน้านิ่งไร้อารมณ์ แม้แต่ในสถานการณ์ตึงเครียดมีเรื่องความเป็นความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมากับคน ๆ เดียวเท่านั้น ซึ่งต้องไปติดตามดูกันว่าคือใคร
ผู้กำกับคิวบู๊ Ryu Sung Chul ชมการเล่นฉากบู๊ของ โจอินซอง เอาไว้ว่า “มันยากมากที่จะเคลื่อนไหว และใช้ร่างกายอย่างอิสระในขณะที่ลอยตัวอยู่ในอากาศโดยมีเชือกขึงเอาไว้ แต่เวลาผมขออะไรไปซักอย่าง โจอินซอง เขาจะให้ตัวเลือกผมกลับมาเพิ่มไปอีก 9 อย่าง”
ฮันฮโยจู พลิกบทบาทครั้งสำคัญกับการต้องมารับบทคุณแม่ของลูกชายวัย 18 ที่เรียนอยู่ชั้น ม.6 เธอเล่าว่าเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่นาน จึงใช้วิธีสะกดจิตตัวเองว่า “ฉันเป็นแม่เด็กคนนี้นะ” แล้วพยายามสร้างความสนิทสนมกับ อีจองฮา ด้วยการไปกินข้าวด้วยกัน ติดต่อพูดคุยกันบ่อยๆ
ในตอนแรก จองฮา วัย 25 ปี ผู้รับบท บงซอก จะเรียกฮันฮโยจู วัย 39 ว่าพี่สาว แต่ถูกเธอห้ามเด็ดขาด แล้วบอกให้เรียกว่า ‘แม่’ แทนจะได้อินกับคาแรกเตอร์
ตัวละคร อีมีฮยอน ที่ฮันฮโยจูเล่นเป็นผู้หญิงที่มีซูเปอร์ฮีโร่เซนส์ นั่นคือ เธอสามารถรับรู้และได้ยินรายละเอียดที่เล็กน้อยที่สุดของสิ่งรอบตัวได้
ใน Moving ฮันฮโยจูรับบทคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงดูลูกชายตามลำพังด้วยความยากลำบาก เพราะต้องปกปิดพลังวิเศษของเขา (ที่ปกปิดได้ยาก) ไม่ให้ใครรู้ แต่ความรัก ความห่วงใย การปกป้องที่มากจนเกินไปของเธอกลับสร้างปัญหา และกลายเป็นแรงกดดันให้กับลูกชายโดยไม่รู้ตัว
จางจูวอน (รยูซึงรยง) เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเจ้าของร้านไก่ทอด เขาเลี้ยงดู จางฮีซู มาตามลำพังหลังจากภรรยาเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ และต้องอดทนอดกลั้นกับสิ่งต่าง ๆ มากมายเพราะคำว่า “เพื่อลูก” คำเดียวเท่านั้น
ชาแทฮยอน ที่คนไทยรู้จักเขาดีจากบท ‘นายเจี๋ยมเจี้ยม’ ในหนังเรื่อง My Sassy Girl เมื่อ 20 ปีก่อน มารับบท จอนกเยโด ที่มีพลังสายฟ้า แต่เขากลับเกลียดพลังวิเศษของตัวเองเพราะคิดว่ามันไม่เคยส่งผลดีให้กับใครเลย
บท จอนกเยโด นี้เป็นบทที่เพิ่มเข้ามาในซีรีส์ (ในเว็บตูนไม่มี) โดยผู้แต่ง คังฟูล ให้เหตุผลว่ามีเรื่องราวมากมายที่เขาไม่สามารถใส่ลงไปได้หมดในเว็บตูน ดังนั้น พอมาเขียนบทซีรีส์เขาจึงต้องสร้างตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปเพื่อให้สามารถลงลึกในรายละเอียดของตัวละครหลักได้
Moving เป็นซีรีส์ที่มีความสนุก ครบทุกรสชาติ ทั้งความรักใส ๆ ของเด็กมัธยม ดราม่าเข้มข้นจากความรักของพ่อแม่ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัยของลูก ความลุ้นระทึกจากเงื่อนงำที่ค่อย ๆ เปิดเผยออกมาเกี่ยวกับกลุ่มคนที่คอยไล่ล่ากลุ่มผู้มีพลังพิเศษ ตลอดจนฉากแอคชั่นดุเดือดเลือดสาดที่สะใจคอหนังบู๊อย่างแน่นอน
Moving เริ่มสตรีม 7 ตอนแรกไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะมีสองตอนใหม่ให้ดูกันทุกวันพุธเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ปิดท้ายด้วยการสตรีมทีเดียว 3 ตอนรวดในสัปดาห์สุดท้าย รวมทั้งสิ้น 20 ตอน