‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น

การโต้ตอบ อันเนื่องมาจากละครเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ ที่เพิ่งจบลงไป ก่อให้เกิดความสงสัยในความไม่สมบูรณ์ของละครว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้นได้

หลังจากตอนจบละคร พรหมลิขิต ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส ได้ลาจอไป เสียงสะท้อนของคนดูก็ดังขึ้นในโลกโซเชียล ส่วนใหญ่รู้สึกงุนงงกับตอนจบที่รวบรัดจนตามไม่ทัน บ้างก็ว่าตัวละครไม่เหมือนกับในนิยาย

และเล็งเป้ามาที่ผู้ผลิต ผู้จัด ผู้เขียนบท

วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ผู้เขียนบท ศัลยา สุขะนิวัตต์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ค Salaya Sukanivatt ว่า...

พรหมลิขิต 2566

ยกที่หนึ่ง

พรหมลิขิตตอนจบรวบรัดเกินไป

นิยายเขียนคำว่า ‘จบบริบูรณ์’ หลังจากฉากแต่งงานของพ่อริดเและพุดตาน

ต่อจากนั้นนิยายเขียนว่า ‘ตอนพิเศษ’ ความยาว 4 หน้าหนังสือ

ในเมื่อเป็นตอนพิเศษ

จึงไม่เพิ่มไม่ลดไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ

บทละครจึงเหมือนนิยายทุกประการ

คำว่ารวบรัดเกินไปจึงขอมอบให้ตอนพิเศษของนิยายเรื่องนี้

ยังมียกต่อ ๆ ไป

1) คาแรคเตอร์ของพ่อริด เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว

2) คาแรคเตอร์คนอื่นๆ : ไม่เหมือนนิยายแน่หรือ

3) ตัวละครหาย : คนเขียนบทหรือนิยายกันแน่ที่ทิ้งตัวละคร

4) เหตุการณ์พุดตานถวายตัวที่ไม่มีในนิยาย : ทำไม

5) บทอาฆาตแค้นของจันทราวดีต่ออทิตยาที่หายไป : เพราะอะไร

6) ศรีปราชญ์ : ตัวละครเจ้ากรรมตั้งแต่บุพเพสันนิวาส : มีและไม่มีเพราะอะไร

7) การเคารพบทประพันธ์และการเคารพวิถีการเขียนบทละคร: ศาสตร์ที่แตกต่างกัน

8) บทละครเหมือนนิยาย หรือต่อยอดจากนิยาย เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ : ต้องคำนวณ

9) การวิพากษ์วิจารณ์รวบยอดที่รุนแรงและไม่เป็นวัตถุวิสัย

ฯลฯ

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น

รอมแพง Cr. Kanok Shokjaratkul

ที่สำคัญ นักเขียนนิยายเรื่องพรหมลิขิต รอมแพง หรือ Janyavee Sompreeda ได้มาโพสต์ตอบในข้อความของโพสต์นี้ว่า

อุ้ยต้องกราบขอโทษป้าแดงด้วยนะคะ ที่นิยายของอุ้ยมีความผิดพลาดขาดพร่องจนทำให้ป้าแดงทำงานยาก และต้องดัดแปลงจนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขนาดนี้ รวมไปถึงความอ่อนด้อยในการตอบคำถามของพิธีกรและนักข่าวก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับทีมละคร เป็นความผิดของอุ้ยเองค่ะ

กราบขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ

อุ้ย รอมแพง

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น Cr. เบลล่า ราณี แคมเปน

ซึ่งก่อนหน้านั้น รอมแพง ได้ไปออกรายการหนึ่ง และกล่าวถึงละครพรหมลิขิตที่กำลังออกอากาศว่า มีบางส่วนไม่เหมือนในนิยาย

ล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคม 2566 อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตต์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ กรุงเทพธุรกิจ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังละครพรหมลิขิตจบลงว่า... ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น

"ละครคือผลรวมของนิยายกับละคร นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เราทำละครจากนิยายเป็นส่วนใหญ่ มันเป็นการหลอมรวมกันกับสองเรื่องนี้

เพราะฉะนั้นสองเรื่องนี้จะมีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของมัน มันจะดีจะเลว ไม่ได้ว่ามันจะดีหมด มันจะเลวหมด ก็ต้องร่วมกัน

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น

ศัลยา Cr. Kanok Shokjaratkul

เมื่อรู้สึกว่าส่วนหนึ่งมันไม่ดีสมใจก็แสดงความรู้สึกนั้น ซึ่งมันทำให้อีกฝ่ายหนึ่งที่ทำอยู่ด้วยกัน รู้สึกเฟลมาก เสียความรู้สึกมาก จริง ๆ มันต้องร่วมกัน ถ้าจะไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ซึ่งเป็นไปได้

ไม่ได้หมายความว่างานชิ้นหนึ่งจะถ่ายทอดไปสู่อีกสื่อหนึ่ง มันอาจจะไม่สมบูรณ์ มันอาจจะมีรอยแผล มันอาจจะมีอะไรบ้าง มีสิทธิ์ที่จะรู้สึก ก็มาคุยกันสิ

เราทำงานอยู่ด้วยกัน เราร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ใช่ไปบอกกับคนนั้นคนนี้ นี่คือสิ่งที่ไม่เคยได้เจอ เพราะทำงานกับคุณโบตั๋นก็เป็นมิตรกันรักกัน ทำกับนักเขียนใหญ่มาตั้งกี่คน

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น Cr. เบลล่า ราณี แคมเปน

ไม่ว่าจะเป็นคุณทมยันตี คุณกฤษณา อโศกสิน คุณวินิตา ดิถียนต์ อาจารย์ศรีฟ้า ลดาวัลย์ คุณกิ่งฉัตร ปิยะพร ก็ไม่เคยเจออย่างนี้

เราเคยมีแต่ความรู้สึกที่ดีต่อกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผิดพลาดบกพร่องไป ก็คุยกัน ด้วยความรักต่อกัน ด้วยไมตรีจิต มิตรภาพต่อกัน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะก่อให้เกิดอะไรที่ดี ๆ เป็นความรู้สึกที่ดี

ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น แล้วไม่ใช่ว่าเราไม่เคยทำงานกับนักประพันธ์คนนี้ เราทำมาแล้ว แล้วมันไม่ใช่สิ่งปกติด้วย มันเป็นปรากฎการณ์ด้วย

แล้วทำไมถึงยังไม่พอใจ มาทำอย่างนี้ออกสื่อ ต้องบอกว่าไม่ถูกอย่างยิ่ง ไม่นึกเลยว่าจะทำ ทำให้เกิดความงงงวย ไม่เข้าใจ

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น Cr. เบลล่า ราณี แคมเปน

เราทำงานกันคนละส่วนอยู่แล้ว เราก็ทำหน้าที่เรา ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง อยากจะบอกว่างานทั้งสองชิ้น (บุพเพสันนิวาส-พรหมลิขิต) มันเป็นงานหนัก งานเหนื่อย

คนเป็นร้อยต้องทุ่มเททำอันนี้ ตั้งแต่เตรียมงาน จัดงาน นักแสดง ทีมเสื้อผ้าต่าง ๆ ทีมฉาก ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นงานหนักงานใหญ่ เราทำเต็มที่ เราทำสุด เพื่อให้มันดีทั้งหมด

แม้ว่าข้างในมันจะมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง แต่ภาพรวมเราต้องยอมรับว่า นี่คืองานที่มีการทุ่มเทออกไปเต็มร้อย

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น Cr. เบลล่า ราณี แคมเปน

แต่พอเจออย่างนี้มันอึ้ง มันไม่ถูกแล้ว การที่นักประพันธ์ออกมาพูดเองนี่ เสียงตอบรับที่เห็นด้วยกับนักประพันธ์มันดั่งสนั่น เขาสมควรที่จะทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นหรือ

แล้วสิ่งที่คุณรอมแพงขอโทษ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะพูดตรงนั้น เขาพูดว่า เสียใจ ขอโทษที่นิยายทำให้ทำละครดีไม่ได้ ไม่ใช่ มันผิดประเด็น มันเบี่ยงประเด็น มันบิดประเด็น ชนิดที่น่าประหลาดใจ น่าอัศจรรย์ใจ

‘พรหมลิขิต’ดราม่า ‘ศัลยา’ เปรย ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอย่างนี้ขึ้น Cr. เบลล่า ราณี แคมเปน

เขาไม่ได้มองว่านิยายคุณไม่ดีแล้วมาทำละครไม่ดี ไม่ใช่ สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ นักประพันธ์ออกมาบ่นว่าละครนู่นนี่ ขาดตรงนั้น ขาดตรงนี้ ไม่ทำตรงนั้น ไม่ทำตรงนี้

เสียหายตรงนั้น เสียหายตรงนี้ บกพร่องตรงนั้น บกพร่องตรงนี้ เราไม่อยากให้เกิดอย่างนั้น มันฉีกพันธะที่เรามีต่อกันออกไป ทำให้มันเกิดรอยแผล รอยกว้างห่างออกไป"