'กุ้ง สุธิราช' แถลงน้ำตาคลอ อาการป่วย 'วิรดา วงศ์เทวัญ' ยังวิกฤต ไม่รู้สึกตัว
"กุ้ง สุธิราช" และ "จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ" แถลงน้ำตาคลอ อาการป่วยของน้องสาว "วิรดา วงศ์เทวัญ" นักร้องและนางเอกลิเกชื่อดัง ที่ป่วยโรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง เผยอาการยังวิกฤต ไม่รู้สึกตัว ไม่หมดหวัง เชื่อมีปาฏิหาริย์ ทำบุญทุกทางขอให้น้องดีขึ้น
นักร้องลูกทุ่ง และนักแสดงลิเก "กุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ" และ "จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ" ได้ร่วมกันแถลงน้ำตาคลอ อาการป่วยของน้องสาว "วิรดา วงศ์เทวัญ" นักร้องและนางเอกลิเกชื่อดัง ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง อยู่ในขั้นวิกฤติ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 โดยระบุว่า
เปิดไทม์ไลน์อาการป่วย "วิรดา วงศ์เทวัญ"
เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 66 ที่ทำงานด้วยกัน ตอนแรกเขารู้สึกปวดท้อง นึกว่าเกี่ยวกับมดลูกหรือติดเชื้อ ถามหายาจากผม (กุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ) ไม่มี หลังจากนั้นเริ่มมีไข้สูง ซื้อยามากินเอง เริ่มดีขึ้นก็ทำธุระปกติ
จนวันที่ 26 ธ.ค. 66 เริ่มไม่ไหวรู้สึกเหมือนหัวทิ่มปวดเนื้อปวดตัว เลยไปหาหมอคลินิค และฉีดยามาสองเข็ม แบบเดินไม่ไหว ต้องประคองกันขึ้นรถ ตอนนั้นเขาบอก หัวใจเต้นช้า ความดันตก แล้วไข้ทรงทั้งวันในวันที่ 27 ธ.ค. 66
หลังจากนั้น มีโอกาสที่เราต้องเดินทางไปทำงานหลายที่ เลยนัดแนะกันว่า นั่งรถไปด้วยกัน น้องนั่งรถมาถึงที่บ้าน พอลงมา ตอนแรกดูปกติ แค่หลังจากนั้นเขารู้สึกหนาวสั่น เราก็ถามทำไมหนาวขนาดนี้"
จนประมาณตีสาม คนดูแลบอกว่าพาไปโรงพยาบาล เพราะปวดท้องเป็นไข้ มารู้อีกทีตอนเช้า เราโทรหา เพราะน้องสั่นมาก ผ้าห่มสี่ห้าผืนก็เอาไม่อยู่
ช่วงเที่ยงของวันที่ 29 ธ.ค. 66 เข้าไปเยี่ยม เห็นเขาหลับ เอาผ้าปิดตาไว้ ผมก็รอดูสักระยะหนึ่งไม่ได้ปลุก เลยลาแล้วออกมา ระหว่างที่เดินทางไปได้สักชั่วโมงหนึ่ง คนดูแลโทรมาบอกว่า ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ชักมีน้ำลายไหลออกมา แล้วเริ่มใจไม่ได้ดี
ซึ่งผลต่อมา ออกมาเป็น "ไข้เลือดออก" หลังจากนั้นช็อกหมดสติ แพทย์โทรมาบอกว่า อาจจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาสอดท่อ ความดันอยู่ 60-30 ซึ่งต่ำมาก ต้องใช้ยากระตุ้นความดันผ่านเส้นเลือด ก็ยังไม่ถึงกับดีขึ้น
หลังจากเสร็จงานผมก็ตีกลับมา ยังไม่ดีขึ้น เลยคิดว่าอยากจะย้ายโรงพยาบาล แต่วันนั้นหัวใจยังไม่ดี มีภาวะเสี่ยงในการเคลื่อนย้าย จนสุดท้ายย้ายได้ช่วงบ่ายของวันที่ 31 ย้ายมาที่บำรุงราษฏร์ ตอนนี้หัวใจเต้นไม่ดี เต้นแค่ 20 เปอร์เซนต์ ต้องทำการบอลลูนหัวใจ เพื่อไม่ให้หัวใจทำงานหนักเกิน ต้องแสกนสมอง เพราะเหมืองสมองบวม น่าจะเป็นสายพันธุ์แรก
ถ้าเป็นผู้ใหญ่เป็นจะหนักมากในเมืองไทย และมาหาหมอช้า รวมถึงประกอบกับการติดเชื้ออย่างอื่นด้วย และมีการเอาเชื้อโรคฟอกทิ้งเพื่อให้เลือดดีที่สุด แต่ก็ยังไม่ฟื้น / แนวทางการรักษาตอนนี้ระบบหัวใจดีขึ้น เต้นได้ 50 เปอร์เซนต์ ตอนนี้ที่หนักอยู่คือสมอง ยังไม่รู้สึกตัว หมอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ดีขึ้น เพราะตอนที่มายังอยู่ในภาวะวิกฤต การทำงานของสมองตอนนี้ ตั้งแต่วันแรกยังไม่มีการตอบสมอง
"เราไม่หมดกำลังใจ ทุกวิถีทาง ทั้งทางการแพทย์ และพวกเราที่พอจะทำได้ คือ ทำบุญ ทั้งเรา รวมถึงแฟนๆที่รักน้อง แม่ก็บนน้อง ถ้าฟื้นจะบวช โกนหัว แต่ถึงวันที่รอไม่ได้ แม่เลยขอบวชเลย เราไม่รู้ว่าจะกลับมาได้กี่เปอร์เซนต์ ทุกอย่างยังหวัง (กุ้ง กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่) ตอนนี้หวังปาฏิหาริย์ แม้จะริบหรี่ ขอแค่รับรู้ ตอบสนอง แต่ขอให้น้องดีขึ้น เรายังมีความหวัง ไม่หมดหวัง"
อัปเดทอาการตอนนี้
"คุณหมอทำเต็มที่ ต้องดูกันวันต่อวัน อย่างน้อยผลหัวใจดีขึ้น ค่าตับไตดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง สมองต้องรอดู เคสสมองไม่รับรู้ แต่สามารถกลับมาได้
ตอนนี้สมองยังบวมต้องรอดูวันต่อวัน หมอบอกว่า ยังมีเคสที่กลับมาได้เดินได้ แต่เคสนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ หมอยังได้บอกว่าจะหายหรือดีขึ้น ปกติไม่เคยมีโรคเจ็บปวดอะไร เคยแต่เป็นไข้หวัดธรรมดา ครั้งนี้หนักสุด โทรหาน้องไม่รับสายจนเขาโทรกลับมาบอกว่าเป้นไข้ไม่ไหว นอนทั้งวัน ปวดท้อง เมนยังไม่มา นึกว่า ไข้ทับฤดู จนเข้าโรงพยาบาลถึงรู้
ตอนที่โรงพยาบาลบอกว่า เป็นไข้เลือดออกยังไม่เชื่อนะ แต่ด้วยความเราทำงานเจอยุงอะไรหลายที่ ตอนนี้ทำทุกอย่าง แสงเล็กน้อยก็จะไป ทุกคนส่งกำลังใจให้ ทำบุญ บวชให้ ได้แต่บอกเขาว่า หนูต้องสู้ๆนะ ตื่นขึ้นมารับรู้ทุกกำลังใจ หนูยังมีคนที่รัก ชื่นชมอยู่มากมาย ต้องขอขอบคุณทางโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์นะครับ ที่ดูแลเราอย่างดีทั้งจิตใจ"
ที่มา : คมชัดลึก
ภาพ : กุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ , kung_suthirat