ดาราหนุ่มฮอต 'ก๊อต จิรายุ' เคยทุกข์เพราะมีชื่อเสียงเงินทอง แต่ไม่มีความสุข
ซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" เปิดใจ ดาราหนุ่มฮอต 'ก๊อต จิรายุ' เคยทุกข์เพราะมีชื่อเสียงเงินทอง แต่ไม่มีความสุข
เปิดใจ ดาราหนุ่มฮอต ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล เคยทุกข์เพราะมีชื่อเสียงเงินทอง แต่ไม่มีความสุข โดย ซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต
- ลมหายใจที่อยู่กับเราตลอดเวลาจะสามารถทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร ?
ก๊อต จิรายุ : คือต้องบอกอย่างนี้ก่อนว่าทำไมผมถึงสนใจเรื่องพวกนี้ โอเคในไทยมันอาจจะไม่ใช่กระแส บางทีเราได้รับวัฒนธรรมมาในลักษณะการทำตามแต่ไม่ได้เข้าใจในแก่นสารของมันว่าจุดประสงค์ทำไปเพื่ออะไร แต่ผมเป็นเด็กช่างสงสัยถามแม่ตลอดว่าทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วได้ประโยชน์ตรงไหน
แม่ก็จะตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง จนมันทำให้เราศึกษาเองจากรอบนอก พอศึกษาเองเราก็ตื่นเต้นความรู้ของฝรั่งมันเยอะจัง พอเรากลับมาศึกษาความรู้ของไทย อ้าวมันมีอยู่แล้วแต่อาจจะพูดคนละแบบ สุดท้ายก็ได้ของสรุปของตัวผมเอง ก็คือมันเป็นเรื่องของภาษาเมื่อไหร่ที่เราเพิกเฉยเรื่องของภาษาได้
อย่างเช่น สมมุติเราพูดคำว่า สมาธิ เราก็ตรวจสอบใจเราว่าพาจิตใจไปเรื่องไหนเรื่องน่าเบื่อ แล้วถ้าพูดเรื่องเข้าวัดมันพาจิตใจไปทางเรื่องไหน บ้างทีพาไปเรื่องไหนก็ไม่รู้เต็มไปหมดดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่พอผมมาเปลี่ยนคำว่า โอเคงั้นช่างมันเรื่องของภาษา ทำอะไรหายใจ เราก็หายใจอยู่แล้วทำไมต้องใส่ใจ
ศึกษาไปก็เลยค้นพบว่าลมหายใจกับจิตใจเชื่อมโยงกัน แล้วผมเป็นคนอยากแก้ไขจิตใจตัวเองให้มันมีความสุขขึ้น มันไม่มีความสุข ก็เลยพุ่งประเด็นไปที่ลองแก้ไขฝึกสังเกตุดูอยากรู้ว่าจะเจออะไรแค่นั้นก่อน
- หลายๆ คนที่เข้าหาอะไรแบบนี้บางทีก็อาจจะเคยไปเจออะไรมา หรือบางคนก็รู้สึกทุกข์มาก สำหรับคุณเป็นแบบนี้ไหม ?
ก๊อต จิรายุ : ผมเกิดขึ้นจากความรู้สึกดีด้วยแล้วก็ทุกข์ด้วย ควบคู่กัน แต่ระยะเวลาไม่เหมือนกัน ตอนแรกที่รู้สึกดีครั้งแรกทำสมาธิจากการเรียน Acting Class คลาสนั้นเป็นคอร์ส Relaxation เขาก็ให้ผ่อนคลายร่างกาย
เราก็ อ๋อ! เข้าใจแล้วว่าความผ่อนคลายอาการเป็นแบบนี้มันสบายเพราะว่าเครียดมาตลอดเลย ตอนนั้นช่วงกำลังทำมาหากินด้วยแล้วก็บีบคั้น แต่พอ Relaxation กลายเป็นว่า 40 นาที ฉันไม่มีตัวฉันเลย นั่นเป็นความประทับใจครั้งแรก ส่วนครั้งที่ 2 ก็คือเริ่มทำโยคะ แล้วก็พร้อมกับหายใจแบบ Relaxation ไปพร้อมๆ กัน เอามารวมกัน
- ที่บอกว่าทั้งสุขทั้งทุกข์ อยากมีความสุขขึ้น ตอนนั้นทุกข์จากอะไร ?
ก๊อต จิรายุ : ตอนนั้นทุกข์จากตอนอายุ 29 ปี ช่วงนั้นได้ชื่อเสียงมาจากละครบุพเพสันนิวาส ได้เงิน ได้ทุกอย่างมา แล้วใจมันหายตรงที่ว่าทุกอย่างที่เราอยากได้ เราติ๊ก Say Yes หมดเลย แต่ไม่มีความสุข
- เพราะเราเคยคิดว่าสิ่งนี้จะต้องเป็นความสุข ?
ก๊อต จิรายุ : ใช่ เราคิดว่าได้เงิน ได้งาน ได้ชื่อเสียง ได้ตำแหน่งที่เราอยากได้จะนำมาซึ่งความสุข แต่กลายเป็นว่าจิตใจเราคุ้นชินกับการมองว่าความสุขอยู่ข้างหน้า ไม่ได้อยู่ตรงนี้ อ้าว! แสดงว่าจิตใจเราคุ้นชินกับการมีความสุขกับการหาความสุข แต่พอได้ความสุขมากลับไม่มีความสุข (หัวเราะ) นั่นแหล่ะจุดเปลี่ยน
- ถ้าอยากบอกคนดูหรือบอกคนที่เรารัก ทำไมถึงอยากให้เขาฝึกหายใจ ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร ?
ก๊อต จิรายุ : อย่างแรกอธิบายอย่างนี้ก่อนว่า การกลับมาหายใจมันต้องใช้ความตั้งใจ โดยปกติแล้วความตั้งใจของคนทั่วไปก็คือออกไปทำมาหากิน หาเงินเพื่อที่จะดำรงชีวิต เท่ากับว่าจิตใจของเรามันออกไปข้างนอกตลอด ออกไปทำเรื่อง 1, 2 ,3, 4 ประเด็นก็คือถ้าเรากลับมาอยู่ที่ลมหายใจเราจะได้ช่วงเวลาพักจากการคิด
เหมือนมอเตอร์มันหมุนอยู่ตลอดแล้วเราหยุดมัน Cool Down มันแป๊บหนึ่ง แล้วพอถอยออกมาบ่อยๆ จะเริ่มเห็นสิ่งที่เราทำอยู่ แล้วรู้จุดประสงค์ว่าทำไปเพื่ออะไร พูดง่ายๆ ตั้งสติ แล้วจิตใจมันจะได้พัก หลายครั้งที่เวลาเราทำงานอย่างต่อเนื่อง
ทำๆ แล้วจะมีช่วงแว๊บหนึ่งที่แต่ละวันอาจจะมีความคิดเข้ามาว่าเราทำไปทำไม เพราะเหมือนลืมจุดประสงค์ของมัน กลับมาหายใจเหมือนตอนที่เราเป็นเด็กๆ ตอนที่เรายังไม่รู้ว่าต้องทำงานไปทำไม เราเป็นแค่เด็กที่นั่งหายใจ Enjoy กับใบไม้ เราใช้เวลากับตรงนั้นแค่ 5 นาทีมันจะเป็นการพักใจที่วิ่งไม่เคยหยุด
- วิถีของคุณตลอด 11 ปีที่ทั้งศึกษาและลองผิดลองถูกมันต่างจากการหายใจแบบปกติยังไง ?
ก๊อต จิรายุ : การหายใจปกติมันไม่มีความรู้ตัวอยู่ในนั้น ไม่รู้ว่ากำลังหายใจอยู่ ไม่รู้ว่ากำลังนั่ง ไม่รู้ว่าอุณหภูมิร่างกายเป็นยังไง แต่มันรู้เรื่องข้างนอกหมด คุยกับใครอยู่แสงเป็นยังไงเขานั่งท่าไหนเขาแต่งตัวยังไงทำผมยังไงรู้เรื่องข้างนอก แต่พอจะรู้เรื่องข้างในกลับเป็นการรู้แบบคลุมเครือ ตัวเองคิดอะไรก็ไม่ชัดเจน แต่การทำสมาธิเยอะขึ้น มันทำให้รู้ตัว
รู้ตัวว่ากำลังมองอะไร แล้วกำลังคิดยังไงกับสิ่งที่มอง แล้วก็รู้ตัวไปอีกว่าอาการตอนนี้มันเป็นยังไง ดีไม่ดีไม่ต้องสนใจ แค่รู้ตัวเฉยๆ ผมทำวันละประมาณ 2 ชั่วโมง เช้า 1 ชั่วโมง เย็น 1 ชั่วโมง มุมของผมการทำสมาธิเป็นเรื่องของการสังเกตุตัวเอง เป็นเรื่องผ่อนคลายความตึงจากความคิด และเป็นเรื่องพาใจกลับมาบ้าน
ไม่ว่าความคิดอะไรจะมาสะกิดให้ออกจากบ้านร่างกายตัวเองไม่ออก ผมคิดว่ามันไม่ใช่กิจกรรมอะไรที่ต้องฝืนทำ แต่มันเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ต่างอะไรจากอาบน้ำ ปกติแล้วเราจะใส่ใจแค่ร่างกายเรา ผมก็แค่เพิ่มไปอีกหนึ่งอย่างคือเคลียร์ใจให้ดีด้วย
- เห็นว่าตอนทำมีเครื่องวัดคลื่นสมองเพราะอยากพิสูจน์ให้เป็นแบบรูปธรรม ?
ก๊อต จิรายุ : คือเวลาเอาไปแชร์คนนะ คุยกับคนไทยต้องใช้พวกนี้ แต่คุยกับฝรั่งเขา Enjoy เรื่องนี้คนที่สนใจนะ แต่พอคนไทยพอมีหลักฐาน ในทางวิทยาศาสตร์เป็นแบบนี้ สามารถทำให้ผมดึงคนหลายคนที่ไม่เห็นความสำคัญมาเห็นความสำคัญได้
ผมก็ต้องเอาข้อมูลต่างๆ มาจากทั่วโลกให้ดูว่ามันเป็นอย่างนี้นะ ถามว่าผมเองต้องเอาเรื่องพวกนี้มาพิสูจน์หรือเปล่า ไม่เพราะมันเจอกับประสบการณ์ตรงแล้ว อาการคลุ้มคลั่งเป็นยังไง อาการผ่อนคลายเป็นยังไง
- อย่างคุณเคยคลุ้มคลั่งด้วยเหรอ ?
ก๊อต จิรายุ : ประจำครับพี่ ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่เลย เป็นดึกๆ จริงๆ พอมันเป็นผมก็ใช้ "ชี่กง" ช่วยเลย
- หัวใจตอนนี้เป็นยังไง ?
ก๊อต จิรายุ : หัวใจตอนนี้ผมลิงโลดไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานถ่ายละครมาจนช่วงหลังๆ ผมไม่แฮปปี้เลย ผมไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เลยปีที่ผ่านมา ปีนี้อยู่กับพ่อแม่เยอะมาก นี่ก็เพิ่งพาพ่อไปหัวหินมา นอนเตียงเดียวกับเขา พาแม่ไปโน้นไปนี่แล้วก็แบบอาจจะเป็นอะไรที่ผมมองหา แต่ไม่เคยที่จะพาตัวเองเข้าไปใกล้มั้ง หัวใจตอนนี้ก็เลยอยู่บ้าน
- แบบนี้มุมมองความรักคิดว่าเปลี่ยนไปไหม ?
ก๊อต จิรายุ : เปลี่ยนไปเยอะ พอมันเติมเต็มอยู่ที่นี่ ใครที่จะเข้ามาก็ต้องไม่ทำให้ความเติมเต็มตรงนี้แหว่งไป (หัวเราะ) แค่นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เพื่อนจะอยู่ใกล้หรือไกลถ้าเข้ามาอยู่ในโซนนี้ที่เราเติมเต็มอยู่ด้วยความสุขตรงนี้
ถ้าเขาเข้ามาแล้วปัญหามันเยอะ ในมุมผมนะเหมือนผมเป็นคนเล่นดนตรีอยู่ที่บ้าน ใครจะเข้ามาเล่นดนตรีกับผมก็ได้ ถ้าคุณเป็น Melody ที่ทำให้บรรยากาศของสถานที่มันดีขึ้นก็เข้ามา แต่ถ้าคุณเข้ามาแล้วเป็นสำเนียงที่มันไม่สอดคล้องไปกับ Melody ของผมหรือครอบครัวผมแค่รู้สึกว่า โอเคไม่เป็นไร
- แสดงว่าตอนนี้ไม่ออกไปหาเลย ?
ก๊อต จิรายุ : อยู่บ้าน (หัวเราะ)
- แต่ทรงแบบก๊อตก็ตกคนได้เยอะนะ คุณไปสร้างเรื่องให้คนเขาแบบว่า...มีบ้างไหม ?
ก๊อต จิรายุ : จริงเหรอพี่ มนุษย์น่ะ มีบ้าง (ยิ้ม) อย่างที่บอกถ้ามันไม่ได้คลื่นความถี่ใกล้ๆ กันก็ไม่เป็นไร
cr. On the way with Chom