‘ดาวนีย์ จูเนียร์’ ในบท Dr. Doom จะฉุดมาร์เวลจากยุคตกต่ำได้หรือไม่
จาก Iron Man ซูเปอร์ฮีโร่คนสำคัญ กลายมาเป็น Dr. Doom วายร้ายตัวใหม่จักรวาลมาร์เวล การหวนคืนบ้านเก่าของ ‘ดาวนีย์ จูเนียร์’ ในครั้งนี้จะช่วยพลิกฟื้นหนัง MCU ออกจากยุคตกต่ำ รายได้ดิ่งฮวบได้หรือไม่
การประกาศเปิดตัว ‘โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์’ ในฐานะ Doctor Doom (ด็อกเตอร์ดูม) ซึ่งจะกลายมาเป็นลาสบอส หรือวายร้ายคนสำคัญของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ที่เกิดขึ้นในงาน Comic-Con นครซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 สร้างความฮือฮา และก่อให้เกิดบทวิเคราะห์ตามมามากมาย
โดยสิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันก็คือดิสนีย์หวังใช้บารมีของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้ทำให้ตัวละครโทนี่ สตาร์ก หรือ Iron Man เป็นที่รักของแฟน ๆ และกลายเป็นเสาหลักที่มั่นคงของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลมานานนับสิบปี ทำให้ MCU หลุดพ้นจากยุคตกต่ำที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนประเด็นที่ว่ามาร์เวล และดาวนีย์ จูเนียร์ในบท Dortor Doom จะทำสำเร็จหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ที่แน่ ๆ ดิสนีย์ทำสำเร็จไปแล้วอย่างหนึ่งคือการเปิดตัวโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ในครั้งนี้ได้สร้างเซอร์ไพรส์ และความสั่นสะเทือนให้กับวงการภาพยนตร์เป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับขั้นสุดชนิดที่ไม่มีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาก่อนหน้านี้
ดังนั้น พอผู้ที่รับบท Doctor Doom สวมชุดสีเขียวเดินออกมาบนเวทีแล้วเปิดหน้ากากสีเงินออกมาเป็น โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ จึงเกิดเสียงฮือฮาดังลั่นฮอลล์ ตามด้วยการรายงานข่าวที่ปรากฏขึ้นบนหน้าแรกของสื่อออนไลน์แทบทุกสำนักทั่วโลก
เซอร์ไพรส์ครั้งนี้ แม้แต่ เจเรมี เรนเนอร์ ผู้รับบท ฮอว์กอาย ยังออกมาบอกว่าดาวนีย์ จูเนียร์ปิดปากเงียบสนิทชนิดที่เพื่อนซี้ร่วม MCU อย่างตัวเขา และอีกหลายคนไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การมารับบท Doctor Doom ของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากก็เพราะเขามีภาพจำที่แน่นแฟ้นชนิดลบไม่ออก ในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นเสาหลักของจักรวาลมาร์เวล จึงไม่มีใครคิดว่าเขาจะพลิกบทบาทมารับบทตัวร้ายที่มีความสำคัญระดับลาสบอส (แบบเดียวกับธานอส) ซึ่งเป็นขั้วตรงกันข้ามของ Iron Man นั่นเอง
Avengers ที่มี Doctor Doom เป็นลาสบอส
สำหรับแผนงานเบื้องต้นที่ดิสนีย์วางเอาไว้คือจะให้ Doctor Doom ปรากฎตัวในภาพยนตร์ Avengers ยุคใหม่ 2 เรื่อง ได้แก่ Avengers: Doomsday ที่มีกำหนดฉายในปี 2026 และ Avengers: Secret Wars ที่มีกำหนดฉายในปี 2027
นอกจากนี้ มาร์เวลยังไปชวน ‘สองพี่น้องรุสโซ’ คือ แอนโทนี และโจ รุสโซ ที่เคยกุมบังเหียนหนังมาร์เวลที่ทำรายได้ถล่มทลายอย่าง Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame กลับมากำกับภาพยนตร์อเวนเจอร์สสองภาคใหม่นี้ด้วย
นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์พ่อมด
แล้ว Doctor Doom มีความเก่งกาจขนาดไหนถึงถูกมาร์เวลยกสถานะขึ้นมาเป็นลาสบอสตัวใหม่ของจักรวาล
หากอ้างอิงจากในหนังสือการ์ตูน Marvel Comics ‘ด็อกเตอร์ดูม’ ที่มีชื่อเต็มว่า ดร. วิคเตอร์ วอน ดูม ถือเป็นตัวร้ายที่โดดเด่นอีกตัวหนึ่งในจักรวาลมาร์เวล แต่เขาจะมีบทบาทเกี่ยวพันกับจักรวาล Fantastic Four มากกว่าซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มอื่นของมาร์เวล ลักษณะนิสัยของเขาคือ หยิ่งยโส ฉลาดเป็นกรด และมีความสามารถทั้งในแง่ของวิทยาศาสตร์ และศาสตร์พ่อมดควบคู่กันไป
วิคเตอร์ วอน ดูม เกิดในประเทศ Latveria มีแม่เป็นแม่มดที่ถูกฆ่าตาย พ่อเป็นหมอยามือดีที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารกษัตริย์ ทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขายากลำบาก ต้องระเห่เร่ร่อนไปทั่ว ภายหลังเขาได้พบตำราและสิ่งประดิษฐ์ของแม่ จึงเรียนศาสตร์แม่มดและการใช้เวทย์มนต์ด้วยตนเอง
ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย วิคเตอร์เก่งด้านวิทยาศาสตร์ มีฝีมือในการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ และกลายมาเป็นคู่ปรับกับ รีด ริชาร์ดส ที่ภายหลังได้กลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในนาม Mr. Fantastic
วิคเตอร์ที่มีปมพ่อกับแม่ถูกฆ่า พยายามสร้างเครื่องมือติดต่อกับคนตายแต่เกิดความผิดพลาด เครื่องมือระเบิดใส่หน้าเขาเป็นแผล แถมยังถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย วิคเตอร์จึงออกเดินทางไปทั่วโลกจนมาถึงทิเบตที่เขาได้รับชุดเกราะ หน้ากากเหล็ก และเปลี่ยนชื่อเป็น Doctor Doom ก่อนจะกลับไปยึดอำนาจการปกครองใน Latveria และตั้งตนเป็นกษัตริย์สำเร็จ
สองตัวละครที่เป็นขั้วตรงข้าม
หากพิจารณาจากความสามารถแล้ว Doctor Doom เปรียบเสมือขั้วตรงข้ามของ Iron Man จึงไม่แปลกที่มาร์เวลจะนึกถึง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในตอนที่หาคนมารับบทนี้
เพราะ วิคเตอร์ วอน ดูม เชี่ยวชาญในเรื่องเวทมนตร์แถมยังรอบรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “มนุษย์ที่ฉลาดที่สุดคนหนึ่งในจักรวาลมาร์เวล” เขาสร้างอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ มากมาย ทั้งเครื่องไทม์แมชชีน ชุดเกราะสารพัดประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับ โทนี่ สตาร์ก เจ้าของบริษัทสตาร์ก อินดัสตรีส์ ที่สร้างชุดเกราะขึ้นมาใช้เองจนกลายมาเป็น Iron Man
ที่สำคัญ ทั้งคู่ยังมีความอหังการอันสืบเนื่องมาจากความฉลาดสุด ๆ ของตัวเองเหมือนกันอีกด้วย
ชายผู้ช่วยให้จักรวาลมาร์เวลรอด
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ นักแสดงชาวอเมริกันวัย 59 ปี ก้าวเข้าสู่จักรวาลมาร์เวลด้วยการเล่นหนัง Iron Man เป็นเรื่องแรกในปี 2008 ส่วนเรื่องสุดท้ายคือ Avengers: End Game ในปี 2019 นั่นเท่ากับว่าเขาห่างหายจากหนังมาร์เวลไปนานถึง 5 ปีเต็ม
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบท Iron Man แล้ว แต่ความสามารถด้านการแสดงก็ทำให้ดาวนีย์ จูเนียร์ยังมีงานชุก แถมยังเพิ่งได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาหมาด ๆ จากภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การกลับมารับบท Doctor Doom ของเขาในครั้งนี้มีกระแสตอบรับทั้งในแง่บวกและลบ โดยแฟน ๆ ส่วนหนึ่งดีใจที่ได้เห็นเขากลับคืนสู่มาร์เวลอีกครั้ง แต่ในขณะที่บางส่วนมองว่าน่าจะเปิดโอกาสให้นักแสดงคนอื่นได้รับบทบาทสำคัญแบบนี้บ้าง เพราะโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์เป็นนักแสดงระดับ A-list ที่ได้รับมาหมดแล้วทั้งชื่อเสียงเงินทองและเกียรติยศ
ในส่วนของเจ้าตัวเองนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการรับบท Doctor Doom เอาไว้สั้น ๆ ว่าเป็นเพราะเขาชอบตัวละครที่มีความซับซ้อนแบบนี้
ขณะที่ โจนาธาน เมเจอร์ส ผู้รับบท Kang the Conqueror ในภาพยนตร์ 'Ant-Man and the Wasp: Quantumania' และเคยถูกมาร์เวลวางตัวให้เป็นลาสบอสคนใหม่แทนธานอส แต่ต้องมาถูกปลดเพราะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายอดีตคนรัก ถึงกับใจสลายหลังจากรู้ข่าวว่ามาร์เวลตัดสินใจเลือกดาวนีย์ จูเนียร์ มารับบท Doctor Doom
โจนาธาน เมเจอร์ส บอกว่ายินดีที่ดาวนีย์ จูเนียร์ได้รับโอกาสจากมาร์เวลในแบบที่ตัวเขาเองไม่ได้รับ ซึ่งหมายถึงกรณีที่พระเอก Iron Man เคยถูกดำเนินคดีเหมือนกัน แต่เป็นข้อหามีเฮโรอีน และโคเคนในครอบครองเมื่อปี 1996
หนังมาร์เวลในยุคตกต่ำที่สุด
ภายหลังจากที่ภาพยนตร์ Avengers: End Game จบลงในปี 2019 ซูเปอร์ฮีโร่ตัวเด่น ๆ ที่เป็นขวัญใจคนดูอย่าง ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, แบล็ควิโดว์ จากไป ส่วนทีมอเวนเจอร์ที่เหลืออย่าง ฮัลค์, ธอร์, ฮอว์กอาย ถูกลดบทบาทลง แต่ซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ที่มาร์เวลพยายามผลักดันกลับมีกระแสตอบรับที่ไม่ดี คนดูวิพากษณ์วิจารณ์ว่าหนัง MCU ไม่สนุกเหมือนก่อน ส่งผลให้รายได้ลดลงเป็นอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจนได้รับการเรียกขานว่าเป็นยุคที่หนังมาร์เวลตกต่ำถึงที่สุด
การประกาศดึงตัวโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ มารับบท Doctor Doom รวมไปถึงการดึงสองพี่น้องรุสโซ่กลับมากุมบังเหียนแฟรนไชส์ Avengers อีกครั้งจึงเป็นความพยายามของดิสนีย์ และมาร์เวลที่จะกอบกู้ศรัทธาของแฟน ๆ กลับคืนมาให้ได้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่สามารถอาศัยเพียงแค่นักแสดงอย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และผู้กำกับอย่างสองพี่น้องรุสโซ่เท่านั้น
แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ ‘บทภาพยนตร์’ ว่าจะคำนึงถึงตัวละคร คำนึงถึงคนดูเป็นหลักแบบหนัง MCU ยุคก่อน หรือจะทำแบบยุคใหม่ที่ดึงเอาปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง เช่น ใส่ตัวละครหญิงเข้าไปมากเกินความจำเป็น หรือนำนักแสดงที่ไม่ตรงกับคาแรกเตอร์มาเล่น
ทั้งนี้ก็ "เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร" ว่าใส่ใจปัญหาสิทธิสตรี มุ่งสร้างความหลากหลายเท่าเทียมกันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มากกว่าการทำหนังเพราะอยากให้คนดูสนุกแบบที่ผ่านมา