น้องฉี่รดสเตริโอ พี่เอาไม้คริกเก็ตฟาดหัว : ย้อนรอยสาเหตุ Oasis วงแตก
ตำนานของวงการอย่าง Oasis ทำไมถึงแยกวงนาน 15 ปี ก่อนจะกลับมารวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตในปี 2025 ย้อนรอยความรุ่งโรจน์ และความบาดหมางของ โนล-เลียม สองพี่น้องกัลลาเกอร์ผู้เป็นหัวใจของวง
โอเอซิส (Oasis) วงบริทป็อปจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน?
ทำไมการประกาศรียูเนียนหรือกลับมารวมวงกันใหม่ในรอบ 15 ปีของพวกเขาถึงสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก
แล้วเหตุใดวงที่ได้ชื่อว่าเป็น “ตำนาน” ของวงการดนตรีแบบนี้ถึงเงียบหายไปนานขนาดนั้น
เราจะมาย้อนรอยเส้นทางความรุ่งโรจน์ และความบาดหมางของสองพี่น้อง โนล และ เลียม กัลลาเกอร์กันอีกครั้ง
วงที่เป็นนิยามของ Britpop
วงโอเอซิส (Oasis) ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ มีสมาชิกรุ่นก่อตั้ง ได้แก่ โนล กัลลาเกอร์ (กีตาร์ลีด, ร้องประสาน), เลียม กัลลาเกอร์ (ร้องนำ), พอล อาร์เธอร์ส (กีตาร์), พอล แมคกีแกน (กีตาร์เบส), โทนี แมคแคร์รอล (กลอง)
โอเอซิสประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วตั้งแต่อัลบั้มเปิดตัว Definitely Maybe (1994) ที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต UK อย่าง Supersonic, Shakermaker, Live Forever ก่อนจะดังเป็นพลุแตกในอัลบั้ม (What's the Story) Morning Glory? (1995) ที่มีเพลงฮิตระดับปรากฏการณ์ไปทั่วโลกอย่าง Wonderwall, Don't Look Back in Anger
จนทำให้ Oasis ถูกเรียกว่าเป็น voice of a generation หรือบทเพลงที่เป็นตัวแทนแห่งยุคสมัย อีกทั้งยังเป็นนิยามของแนวเพลงที่เรียกว่า Britpop
ถัดมาอีกสองปี โอเอซิสก็ปล่อยอัลบั้ม Be Here Now ที่มีเพลงฮิตอย่าง Stand by Me ออกมาให้ฟังกัน
แต่น่าเสียดายที่ความไม่ลงรอยกันของสองพี่น้องกัลลาเกอร์อย่าง ‘โนล’ และ ‘เลียม’ ที่เป็นแกนหลักของวง ส่งผลให้อายุุขัยของวงระดับตำนานอย่าง Oasis ไม่ยืนยาวนัก
หลังจากออกสตูดิโออัลบั้มมาทั้งหมด 7 อัลบั้ม ชุดสุดท้ายคือ Dig Out Your Soul ในปี 2008 โอเอซิสก็ disbanded กระทันหันในปี 2009 เมื่อโนล กัลลาเกอร์ ออกจากวงแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้สมาชิกที่เหลือต้องไปฟอร์มวง Beady Eye ขึ้นมาแทนจนกระทั่งแยกจากกันในปี 2014
แต่อิทธิพลทางดนตรีที่โอเอซิสได้สร้างเอาไว้ทำให้พวกเขาไม่เคยเลือนหายไปกับกาลเวลา แม้จะมีศิลปินผุดขึ้นมามากมาย แต่นักฟังเพลงรุ่นใหม่ยังคงรู้จักวงดนตรีที่เป็นตำนานของวงการ ขณะที่เสียงเรียกร้องให้พวกเขากลับมารวมวงกันใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ก่อนที่จะกลายเป็นจริงเมื่อ Oasis ประกาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 ว่าพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตในสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ในช่วงหน้าร้อนปี 2025 โดยใช้ชื่อว่า Live '25 Tour
พี่ผู้เงียบขรึม vs น้องชายแบดบอย
แล้วอะไรคือชนวนเหตุที่ทำให้ Oasis ต้องแยกวงไปนานถึง 15 ปี?
คำตอบคือ ความบาดหมางระหว่างสองพี่น้อง ‘โนล’ และ ‘เลียม’ ที่คนหนึ่งเป็นนักร้องนำ อีกคนเป็นนักแต่งเพลงและมือกีตาร์ที่มีบทบาทต่อวงเป็นอย่างมากนั่นเอง
จริง ๆ แล้ววงดนตรีแทบจะทุกวงต่างมีสมาชิกที่มีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่ในกรณีของ Oasis นั้นไม่ธรรมดาตรงที่พี่น้องคู่นี้ไม่คิดจะเก็บอาการ หรือรักษาภาพพจน์ของตัวเองในฐานะของศิลปินกันเลย แต่พร้อมจะตีกันออกสื่อด้วยซ้ำ
ส่วนสาเหตุความบาดหมางนั้นไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่เท่าที่ประมวลผลจากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่า โนล ซึ่งอายุแก่กว่าน้องชาย 5 ปี อาจจะเหลืออดกับการทำตัวเกะมะเหรกเกเรของเลียมแล้วนั่นเอง
โดยเหตุการณ์ทะเลาะกันของโนลกับเลียม (เท่าที่คนนอกได้รับรู้) ก็มีอย่างเช่น ระหว่างเล่นคอนเสิร์ตที่แอลเอในปี 1994 เลียมเปลี่ยนเนื้อเพลง Live Forever เพื่อจิกกัดพี่ชาย แถมยังเอาแทมบูรีนฟาดหัวโนลแล้วเดินลงจากเวทีไปซะอย่างงั้น จนทำให้โนลโมโหจัดถึงกับออกจากวงไปช่วงสั้น ๆ
หรือเรื่องที่เลียมเคยพูดไว้ในสารคดีว่า มีอยู่คืนหนึ่งเขาปวดปัสสาวะ แต่หาสวิทช์ไฟไม่เจอ ก็เลยฉี่รดสเตริโอตัวใหม่ของพี่ชายไปแบบนั้น
เทปอัดเสียงทะเลาะกันถูกนำไปทำเป็นซิงเกิล
เท่านั้นไม่พอ สองพี่น้องกัลลาเกอร์ยังไปเถียงกันรุนแรงต่อหน้าคอลัมนิสต์นิตยสารเพลงชื่อดังอย่าง NME ที่กำลังสัมภาษณ์พวกเขา โดยหัวข้อความขัดแย้งคือเรื่องที่เลียมเมาแล้วไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทบนเรือเฟอร์รีระหว่างเดินทางไปเนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้ทั้งวง (ยกเว้นโนลเพียงคนเดียว) ถูกจับและส่งตัวกลับประเทศ
หลังจากนั้นในปี 1995 มีคนนำเทปอัดเสียงสองพี่น้องทะเลาะกันในเหตุการณ์นี้ไปทำเป็น bootleg tape ความยาว 14 นาทีที่ชื่อ Wibbling Rivalry ออกมา โดยหน้า A ของเทปนี้ที่เรียกว่า Noel Side มีคำบรรยายเอาไว้ว่า A Lot Of Swearing And Cussing (เต็มไปด้วยคำสบถด่าหยาบคาย) ส่วนหน้า B ที่เรียกว่า Liam Side มีคำนิยามว่า Even More Swearing And Cussing (มีคำสบถด่าหยาบคายหนักกว่าเดิม)
เทปสัมภาษณ์ชุดนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่แตกต่างกันในเรื่องต่าง ๆ ระหว่างสองพี่น้อง ซึ่งอาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ถูกกัน เช่น การถกกันถึงประเด็นที่ว่า “พฤติกรรมแบดบอย” มีส่วนช่วยวงไหม ซึ่งแน่นอนว่า เลียม ที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วเชื่อว่าภาพลักษณ์ดังกล่าวมีประโยชน์กับวงโอเอซิส แต่โนล พี่ชายผู้เงียบขรึมคิดว่าวงดนตรีควรจะยึดมั่นกับการทำเพลงมากกว่าเรื่องอื่น
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ในปี 1995 ที่โนลเอาไม้คริกเก็ตฟาดหัวน้องชายซึ่งพาคนนอกที่เพิ่งรู้จักกันในผับ มาที่สตูดิโอระหว่างที่เขากำลังอัดเสียงอัลบั้ม (What’s the Story) Morning Glory? จนทำให้ทั้งสตูลิโอเละไปหมด
สำหรับการกลับมารียูเนียนเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกันในครั้งนี้ ผู้ที่รู้จักสองพี่น้องกัลลาเกอร์ดีต่างเห็นตรงกันว่ามันไม่ได้หมายความว่า โนล กับ เลียม นั้นกลับมารักใคร่คืนดีกันแล้ว แต่สาเหตุมาจากผลประโยชน์มหาศาลร่วมกันที่พวกเขาจะได้จากการทัวร์ในนามวง Oasis นั่นเอง