ชำแหละคดี ‘ดิดดี โคมบ์ส’ ข่มขืน ค้าประเวณี ความเน่าเฟะวงการบันเทิงอเมริกัน

ชำแหละคดี ‘ดิดดี โคมบ์ส’ ข่มขืน ค้าประเวณี ความเน่าเฟะวงการบันเทิงอเมริกัน

ทำไมแรปเปอร์ตัวพ่อ ‘ดิดดี โคมบ์ส’ เจ้าของเพลงฮิต I'll Be Missing You ถูกจับดำเนินคดีข้อหา “ค้ามนุษย์-ค้าประเวณี” ตรวจสอบไทม์ไลน์โดยละเอียดได้ที่นี่

กำลังเป็นข่าวดังสั่นสะเทือนไปทั่วโลกกับกรณีที่ ‘ฌอน ดิดดี โคมบ์ส’ (Sean “Diddy” Combs) ถูกตำรวจนิวยอร์กจับกุมตัวพร้อมตั้งข้อหาร้ายแรงอย่าง จัดหาผู้หญิงมาค้าประเวณี ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย มอมยา ทั้งยังถูกปฏิเสธการขอประกันตัวเนื่องจากมองว่าเป็นกรณีร้ายแรง

วันนี้เราจะมาย้อนรอยความเป็นมาอย่างละเอียดจนนำไปสู่การจับกุมตัวเขาในที่สุด

ผู้ทรงอิทธิพล ปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ

ฌอน ‘ดิดดี’ โคมบ์ส เป็นศิลปินฮิปฮอปตัวพ่อยุค 90 มีเพลงฮิตติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 ถึง 5 เพลง เช่น I'll Be Missing You, Shake Ya Tailfeather นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของค่ายเพลง Bad Boy ที่ปลุกปั้นศิลปินเข้าสู่วงการมากมาย เช่น อัชเชอร์, จัสติน บีเบอร์

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้ดิดดี้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สนิทสนมกับคนดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติอย่าง บารัก โอบามา, ฮิลลารี คลินตัน, โดนัลด์ ทรัมป์, กมลา แฮร์ริส ตลอดจนศิลปินดังๆ อย่าง เจโล, เจย์ซี, ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ฯลฯ ท่ามกลางเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่างานปาร์ตี้ที่เขาจัดขึ้นนั้นมีความ “สุดเหวี่ยง” ชนิดที่คุณจินตนาการไปไม่ถึงเลยทีเดียว

 

ชำแหละคดี ‘ดิดดี โคมบ์ส’ ข่มขืน ค้าประเวณี ความเน่าเฟะวงการบันเทิงอเมริกัน Credit : ANGELA WEISS / AFP

ไทม์ไลน์จับกุมตัว ‘ดิดดี’

ทุบตี ข่มขืนแฟนเก่า

แคสซี (Cassie) นักร้องเจ้าของเพลง Me & U ที่คบกับ ดิดดี โคมบ์ส มาตั้งแต่ปี 2007 และเลิกรากันไปในปี 2018 ได้ยื่นฟ้องเขาต่อศาลแมนฮัตตันในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 ข้อหามีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า ทำร้ายร่างกาย ตลอดจนล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงข่มขืนเธอตลอดช่วงเวลาที่คบกันนานกว่าสิบปี

 

ทนายของแคสซีระบุว่าสิ่งที่เธอพบเจอมีตั้งแต่การถูกทุบตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดจนบีบบังคับให้เธอมีเซ็กซ์กับคนขายบริการทางเพศที่จ้างมา โดยหลังจากที่เธอพยายามแยกทางกับเขาในปี 2018 ดิดดีได้ใช้กำลังข่มขืนเธอที่พยายามต่อต้านครั้งแล้วครั้งเล่า

 

แคสซียังอ้างด้วยว่า ดิดดีถึงกับลอบเข้าไปในบ้านของ Kid Cudi (ในคำฟ้องไม่ได้มีการเอ่ยชื่อเขาออกมา แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่งบอกว่าเป็นนักร้องรายนี้) แล้ววางเพลิงรถของเขาในปี 2012 เพราะไม่พอใจที่แรปเปอร์รุ่นน้องคนนี้เคยเดทกับเธอช่วงที่เลิกรากับเขาไปพักหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ดิดดีได้ส่งทนายไปเจรจาขอยอมความจนสำเร็จด้วยการจ่ายเงินและมอบผลประโยชน์ให้กับแคสซีไปในจำนวนที่ไม่เปิดเผย ซึ่งฝ่ายหญิงได้ออกมาบอกว่าตัดสินใจยอมความเพราะรู้ดีว่าตัวเองควบคุมเรื่องนี้ได้อย่างจำกัด

มอมยา ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2023 ดิดดีถูกฟ้องในคดีทำร้ายทางเพศอีก 2 คดี โจทก์คนแรกไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวอ้างว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศและทุบตีเธอ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงชื่อ Joi Dickerson-Neal กล่าวหาว่าเขามอมยา ก่อนจะล่วงละเมิดทางเพศตอนที่เธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในปี 1991 สิ่งที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือเขาได้ถ่ายคลิปเก็บไว้แล้วแจกจ่ายให้คนดูทั่ววงการดนตรี

ถูกฟ้องข้อหาข่มขืน ค้าประเวณีคดีที่ 4

6 ธันวาคม 2023 ดิดดีถูกผู้หญิงอีกคนฟ้องร้องว่าเธอถูกพาตัวไปค้าประเวณี (sex trafficked) และถูกรุมข่มขืนโดยคนสามคน ได้แก่ ดิดดี, Harve Pierre อดีตประธานค่ายเพลง Bad Boy Records และบุคคลอีกคนหนึ่งในปี 2003 ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียง 17 ปี

 

หลังจากถูกฟ้องครั้งนี้ ดิดดีออกแถลงการณ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่า

“พอกันที ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผมนั่งเงียบ ๆ มองดูคนที่พยายามบ่อนทำลายตัวผม ทำลายชื่อเสียงและสิ่งที่ผมสร้างมา ข้อกล่าวหาอันน่าสะอิดสะเอียนที่เหล่าคนซึ่งต้องการหาเงินอย่างรวดเร็วกระทำต่อผม ผมขอเคลียร์อย่างชัดเจนว่า : ผมไม่ได้กระทำเรื่องเลวร้ายใด ๆ ตามที่กล่าวหาเลย ผมจะต่อสู้เพื่อชื่อเสียง ครอบครัวของตัวเอง และเพื่อความจริง”

 

ถูกโปรดิวเซอร์เพลงฟ้อง กระทำชำเรา

26 กุมภาพันธ์ 2024 รอดนีย์ ‘ลิล รอด’ โจนส์ จูเนียร์ โปรดิวเซอร์ที่ร่วมทำอัลบั้ม The Love Album: Off the Grid 2023 ด้วยกันได้ฟ้องดิดดีว่าลูบคลำ และจับก้นเขา ทั้งยังพยายามกล่อมให้มีเพศสัมพันธ์กับตัวดิดดี และคนอื่นในทีมของเขา

 

โจนส์ จูเนียร์อ้างว่าเขาตื่นขึ้นมาบนเตียงในบ้านพักที่ไมอามีของดิดดี ในสภาพเปลือยกาย เวียนหัว และสับสน โดยบนเตียงมีแรปเปอร์ตัวพ่อ และคนขายบริการทางเพศสองคนนอนอยู่ด้วยกัน โปรดิวเซอร์คนนี้เชื่อว่าตัวเองถูกวางยา และได้ฟ้องดิดดี, ค่าย UMG, Motown, Love Records และ Chalice Recording Studio ในข้อหาบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอในคืนนั้น

ขณะที่ทนายฝ่ายดิดดี้ปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าเป็นการแบล็กเมล์เพื่อหวังเงิน และจะนำหลักฐานไปพิสูจน์ในชั้นศาล

 

ชำแหละคดี ‘ดิดดี โคมบ์ส’ ข่มขืน ค้าประเวณี ความเน่าเฟะวงการบันเทิงอเมริกัน Credit : GIORGIO VIERA / AFP

 

เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านพัก 2 หลัง

25 มีนาคม 2024 เจ้าหน้าที่กระทรวงมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ออกหมายค้นบ้านพักของดิดดีทั้งที่แอลเอ และไมอามี โดยซีเอ็นเอ็นรายงานว่าการบุกค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการสืบสวนคดีค้าประเวณีที่อัยการนิวยอร์กกำลังดำเนินการอยู่

 

ทนายความของดิดดีออกมากล่าวหาว่าเป็นการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุทั้งที่ดิดดีไม่ได้ถูกจับกุมตัว ตั้งข้อหา หรือถูกห้ามเดินทางแต่อย่างใด พร้อมประกาศว่าจะหยุดยั้ง “การล่าแม่มด” ที่มีต่อลูกความของตัวเองให้จงได้

 

ระหว่างนั้น ดิดดีมีความเคลื่อนไหวออกมาหลายอย่าง เช่น ขอให้ศาลยกฟ้องคดีที่ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวหาว่าเขาข่มขืนเธอตอนอายุ 17 ปี ตลอดจนโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมว่า Time tells truth. (แล้วความจริงจะปรากฏ)

คลิปหลุดทำร้ายร่างกายแฟนเก่า

17 พฤษภาคม 2024 คดีกลับมาร้อนระอุอีกครั้งเมื่อซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าดิดดีซ้อมแฟนเก่า แคสซี เวนทูรา อย่างทารุณที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

ในคลิป แคสซีถือกระเป๋าเดินออกมากดลิฟต์ แต่แล้วดิดดีที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวได้วิ่งตามมาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระชากเธอลงไปนอนบนพื้น เตะเธออย่างรุนแรงหลายครั้ง ก่อนจะพยายามลากตัวเธอไปตามทางเดิน หลังจากนั้นภาพตัดมาที่แคสซี่กำลังใช้โทรศัพท์ของทางโรงแรม ส่วนดิดดีนั้นหิ้วกระเป๋ากลับไปที่ห้อง ก่อนจะเดินกลับมาจับเธอเหวี่ยงลงไปบนพื้นอีกครั้ง พร้อมปาของที่วางอยู่บนโต๊ะใส่เธอ

 

คำเตือน : คลิปนี้มีภาพการทำร้ายร่างกาย มีการกำหนดอายุผู้ชม และสามารถรับชมได้ทางยูทูบเท่านั้น

 

 

 

หลังจากคลิปปล่อยออกมา ทนายความของแคสซีแถลงว่านี่คือ หลักฐานยืนยันข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พร้อมบอกว่าลูกความของเขากล้าหาญเกินจะบรรยายที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนได้รู้

อย่างไรก็ตาม อัยการออกมาชี้แจงว่าไม่สามารถเล่นงานดิดดีได้เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งพ้นระยะดำเนินคดีอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกายไปแล้ว ขณะที่เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์คลิปขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่ขอแก้ตัว และจะทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้น

อดีตนางแบบฟ้องล่วงละเมิดทางเพศ

21 พฤษภาคม 2024 นางแบบชื่อ คริสตัล แมคคินนีย์ กล่าวหาดิดดีว่าบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กซ์ให้เขาที่ห้องน้ำในสตูดิโออัดเสียงแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เมื่อปี 2003 นอกจากนี้เขายังให้เธอดื่มเหล้า และกัญชาที่เธอเชื่อว่าน่าจะมีสารเสพติดอย่างอื่นเจือปนอยู่ด้วย

ถูกจับกุมตัว ตั้งข้อหาค้ามนุษย์

16 กันยายน 2024 ฌอน ‘ดิดดี’ โคมบ์ส ถูกจับกุมตัวที่แมนฮัตตัน ในวันรุ่งขึ้น อัยการกลางสหรัฐได้ตั้งข้อหาร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี บีบบังคับใช้แรงงาน ติดสินบน ฯลฯ

“ตลอดเวลาหลายทศวรรษ ฌอน โคมบ์ส ได้ล่วงละเมิด ข่มขู่คุกคาม และบีบบังคับผู้หญิงตลอดจนคนรอบตัวเขา เพื่อเติมเต็มความปรารถนาทางเพศของตัวเอง เพื่อปกป้องชื่อเสียง และปกปิดการกระทำของเขา เพื่อกระทำการดังกล่าว โคมบ์สได้พึ่งพาพนักงาน ทรัพยากร และอิทธิพลจากอาณาจักรธุรกิจของตัวเองที่ทำให้เขาสามารถชี้นำ และควบคุมทุกอย่างได้” คือ ส่วนหนึ่งของคำฟ้องที่อัยการยื่นต่อศาล

พบอาวุธปืน เบบี้ออยล์นับพันขวด

ในเอกสารคำฟ้องที่อัยการยื่นต่อศาลระบุว่าการตรวจค้นบ้าน 2 หลังของดิดดี พบอาวุธปืน และกระสุน เช่น ปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ AR-15 จำนวน 3 กระบอกที่ซีเรียลนัมเบอร์ถูกลบออก พร้อมแมกกาซีนแบบ drum โดยอัยการระบุว่าดิดดีใช้ปืนขู่เหยื่อ ตลอดจนผู้พบเห็นการกระทำของเขามากกว่าหนึ่งครั้ง

นอกจากนี้ยังมีการยึดสิ่งของที่ใช้ในพิธีกรรมทางเพศสุดวิปริตของเขาที่เรียกว่า Freak Offs หลายอย่าง เช่น สารเสพติด ขวดบรรจุเบบี้ออยล์ และสารหล่อลื่นกว่า 1,000 ขวด โดยในคำฟ้องระบุว่าทีมงานของดิดดีจะนำของเหล่านี้ รวมถึงผ้าปูเตียงสำรอง ไฟ สายน้ำเกลือ ฯลฯ ไปเก็บไว้ที่ห้องพักในโรงแรมล่วงหน้า

ส่วน Freak Offs คือ การกระทำกิจกรรมทางเพศที่ตัว ดิดดี เป็นคนกำกับออกแบบเอง ส่วนใหญ่เป็นการบังคับให้เหยื่อร่วมเพศกับ sex worker ที่จ้างมา โดยระหว่างนั้นเขาจะช่วยตัวเอง และอัดคลิปสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ด้วย โดยการกระทำสุดวิปริตนี้อาจกินเวลาหลายชั่วโมง หรือหลายวัน ระหว่างนั้นจะมีการให้ของเหลว (อาจเป็นยาหรือวิตามิน) กับเหยื่อ รวมถึงตัว ดิดดี เองทางสายน้ำเกลือ เพื่อให้กลับมามีแรง สามารถกระทำการร่วมเพศได้ต่อ

ศาลปฏิเสธการประกันตัว 2 ครั้ง

ถึงแม้ว่าทนายความฝ่ายจำเลยจะยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นมูลค่าถึง 50 ล้านดอลลาร์ แต่อัยการไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าดิดดีอาจจะหลบหนี และข่มขู่พยาน นั่นเท่ากับว่าเขาจะต้องติดคุกอยู่ตลอดเวลาที่มีการดำเนินคดี

ชาวเน็ตขุดคุ้ยเหยื่อ คนที่มีส่วนรู้เห็น

หลังจากที่มีคลิปหลุด และเกิดการจับกุมขึ้น ชาวเน็ตต่างพากันขุดคุ้ยว่าใครบ้างที่มีความสนิทสนม และอาจมีส่วนพัวพันกับ ดิดดี บ้าง ซึ่งชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในขณะนี้คือ อัชเชอร์ (Usher), จัสติน บีเบอร์, เจโล (J. Lo) หรือเจนนิเฟอร์ โลเปซ, แรปเปอร์ มีก มิล (Meek Mill), เจย์ซี แรปเปอร์ผู้ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่ง

รวมถึงเหล่าดาราเซเลบที่เคยเข้าร่วมปาร์ตี้สุดอื้อฉาวของเขาอย่าง ลีโอนาร์โด ดีคาปริโอ, ปารีส ฮิลตัน, มารายห์ แครีย์, คิม คาร์เดเชียน, โคลอี้ คาร์เดเชียน, ซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์, คิม พอร์เตอร์, แอชตัน คุชเชอร์

นอกจากนี้ยังมีการผุดทฤษฏีสมคบคิด (conspiracy theory) ที่เชื่อมโยงไปถึงการเสียชีวิตของหลายคนในวงการอย่าง นอร์ทอเรียส บีไอจี, แอรอน คาร์เตอร์, อดีตแฟนเก่าของเขาที่ชื่อ เอ็มเจ

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเชื่อมโยงจากภาพ คลิป ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ในอดีตของบุคคลที่กล่าวถึง ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยของชาวเน็ตเท่านั้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์