Venom: The Last Dance เมื่อปรสิตต่างดาวซึมซับความเป็นมนุษย์
“แม้แต่ซิมบิโอตจากต่างดาวก็สามารถเติบโต และเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นได้” พบบทสรุปของแอนตี้ฮีโร่สุดดาร์กจากมาร์เวลใน Venom: The Last Dance ที่เป็นการปิดจ็อบ ‘ทอม ฮาร์ดี้’ กับการรังสรรค์ และเล่นเป็นตัวละครตัวนี้ได้อย่างหมดจดงดงาม
Venom: The Last Dance (เวน่อม : มหาศึกอสูรอหังการ) หรือ Venom 3 ถือเป็นการปิดฉากไตรภาค Venom ที่นำแสดงโดย ‘ทอม ฮาร์ดี้’ ได้อย่างหมดจดงดงาม และเรียกได้ว่า ‘ถึงแก่เวลาอันควรแล้ว’
เพราะหลังจากที่ซิมบิโอต (ปรสิต) จากต่างดาวที่ชื่อ Venom ได้เข้ามาสิงร่างนักข่าว ‘เอ็ดดี้ บร็อค’ แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ กินอาหาร (จนมีช็อกโกแลตเป็นเมนูโปรด) ดูหนังฟังเพลง เต้นรำ ศึกษาผู้คน และเรื่องราวต่าง ๆ บนโลกใบนี้ผ่านร่างของเอ็ดดี้มาเป็นเวลานานหนึ่งปี
Venom ก็ค่อย ๆ ซึมซับความเป็นมนุษย์เข้าไปจนมีพัฒนาการ จากซิมบิโอตสุดดาร์ก ชอบกินหัวคน เกรี้ยวกราด ฆ่าไม่เลือกหน้า กลายมาเป็นปรสิตที่มีความเห็นอกเห็นใจ ตลกติ๊งต๊อง ชอบเต้นรำ อยากใช้ชีวิตสงบ ๆ อันนำมาสู่บทสรุปที่เกิดขึ้นใน Venom: The Last Dance อย่างที่จะได้เห็นกันในโรงภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เขียนชอบใน Venom ภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นความตลก อ่อนโยน? ตลอดจนความผูกพันธ์ระหว่าง 'เอ็ดดี้' กับ 'เวน่อม' สองเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ ที่ปรับตัวจนอยู่ร่วมกันได้ดีขึ้นนั้น อาจเป็นสิ่งที่บางคนอาจไม่ชอบก็เป็นได้
เพราะพวกเขาอาจรู้สึกว่าซิมบิโอตจากต่างดาวที่มีเพียงสัญชาติญาณอันดิบเถื่อน ฆ่าอย่างเดียวโดยไม่สนลูกใคร ไม่ควรจะออกมาหน่อมแน้ม (อย่างที่หลายคนเคยไม่ชอบมาแล้วในภาค 2) และอยากให้มีความโหดเลือดสาดให้สมกับความเป็นแอนตี้ฮีโร่ คล้าย ๆ ตัวละครอย่าง เดดพูล ที่สามารถเกรียนและโหดไปพร้อมกันด้วยได้มากกว่า
แต่นั่นคือสิ่งที่ ทอม ฮาร์ดี้ ซึ่งกุมบังเหียนหนังเรื่องนี้ร่วมกับ เคลลี มาร์เซล ผู้กำกับและเขียนบท ตัดสินใจเลือกมาแล้ว
“เรารู้ว่าเรากำลังจะสรุปไตรภาคเรื่องนี้ก็เลยอยากทำให้มันสะเทือนอารมณ์ เราอยากนำความสัมพันธ์ระหว่างเวน่อมและเอ็ดดี้ไปสู่อีกระดับหนึ่งค่ะ”
คือคำให้สัมภาษณ์ของมาร์เซล
“ตอนที่คุณพบ เอ็ดดี้ บร็อค ครั้งแรกใน Venom เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว เขาทำลายความสัมพันธ์ของตัวเองด้วยการโกหกคู่หมั้นและทำให้อาชีพของเธอจบลง เขาเป็นนักข่าวผู้หลงใหลไปกับหน้าตาและชื่อเสียงของตัวเอง จนกระทั่ง Venom มาทำลายสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นลงอย่างสิ้นเชิง ทำให้เขาเหลือแต่ตัวเปล่าเล่าเปลือย
ใน Venom: The Last Dance เอ็ดดี้อายุมากขึ้นและฉลาดขึ้น เขาได้เรียนรู้เรื่องความอดทนอดกลั้นมากขึ้น และที่สำคัญคือ เขาเรียนรู้ที่จะรักใครซักคนอย่างจริงจังแล้วค่ะ”
มาร์เซลกล่าวโดยสรุปถึงความเป็นตัวตนของเอ็ดดี้ และเวน่อมเอาไว้
อย่างไรก็ตาม มาร์เซลซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับและผู้เขียนบทย้ำว่า เวน่อมก็ยังเป็นเวน่อมตัวเดิม เพียงแค่มีวิวัฒนาการขึ้นเท่านั้น
“เวน่อมไม่ได้มีความยับยั้งชั่งใจใด ๆ ค่ะ เขาก็แค่ทำตามที่ตัวเองต้องการ เอ็ดดี้เป็นคนที่พยายามจะฉุดรั้งตัวบ้าคลั่งที่มีความสุข ที่ไม่ได้รู้สึกกดดันไปกับขนบธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมเอาไว้ แต่สิ่งที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้คือเวน่อมจะต้องเติบโตขึ้นซักหน่อย เขาได้เรียนรู้ความกลัวมาบ้าง และเขาก็มีเรื่องให้ห่วงกังวล ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก ๆ ค่ะ”
Venom กับการเดินทางแบบ road trip
Venom: The Last Dance ดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของภาคที่แล้วซึ่งเอ็ดดี้และเวน่อมหลบหนีไปหลังจากโค่นคลีตัส คาซาดี้ และคาร์เนจซึ่งเป็นซิมบิโอตของเขาลงได้
ทว่า การเผชิญหน้ากันครั้งนั้นได้เปิดเผยตัวตนของเวน่อมให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลบนโลก และศัตรูตัวฉกาจที่เร้นกายอยู่ในห้วงจักรวาลได้รับรู้ ทำให้ในภาค 3 นี้ ทั้งคู่จึงถูกไล่ล่าจากหลายฝ่ายพร้อมกัน และต้องกระเสือกกระสนเอาตัวรอดได้ยากกว่าเดิม
“เอ็ดดี้และเวน่อมถูกเปิดเผยต่อสายตาโลกภายนอกเพราะการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่วิหารเกรซ การหลบหนีของพวกเขาหมายความว่า The Last Dance จะเป็นหนังโร้ดทริป พวกเขาไม่เพียงถูกไล่ล่าจากคนจากโลกของเราเท่านั้น แต่ยังถูกไล่ล่าโดยกองกำลังจากคลินทาร์ซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดของเวน่อมด้วย ยิ่งเอ็ดดี้และเวน่อมอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งเป็นภัยคุกคามต่อโลกทั้งใบมากขึ้นเท่านั้น”
ศัตรูที่แม้แต่ซิมบิโอตก็หวาดผวา
อย่างไรก็ตามจากที่กล่าว ๆ มาอาจทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดว่า Venom: The Last Dance กลายเป็นหนังดรามาไปซะแล้วหรือ คำตอบคือไม่ใช่ แถมเวน่อมกับเอ็ดดี้ยังเจอศัตรูจากต่างดาวที่ร้ายกาจกว่าเดิมชนิดหาทางเอาชนะแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เป็นศัตรูที่ร้ายกาจระดับ “ผู้สร้าง” สามารถบดขยี้ทำลายพวกเขาได้จนซิมบิโอตต้องหนีตายไปยังที่ต่าง ๆ รวมถึงโลกมนุษย์
นอกจากฉากต่อสู้แล้ว สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือ “ซิมบิโอตสัตว์” ที่จากตัวอย่างคงได้เห็นกันไปแล้วกับม้าซิมบิโอต แต่ในเรื่องยังมีอีกหลายชนิดที่ดูแล้วทั้งฮา และน่ารักมากจริงๆ
อีกอย่างหนึ่งที่ใส่เข้ามาในเรื่องแล้วเป็นทั้งสีสัน และสอดรับกับพัฒนาการของตัวละครได้เป็นอย่างดีคือครอบครัวฮิปปี้ที่กำลัง road trip ขับรถพากันไปดูมนุษย์ต่างดาวที่ Area 51 ขณะที่การกลับมา Mrs. Chen ก็เป็นอีกฉากที่สนุกเช่นกัน
Venom: The Last Dance นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี้, ชิเวเทล เอจิโอโฟร์, จูโน เทมเปิล, ริส ไอฟานส์, สตีเฟน เกรแฮม, เพ็กกี้ ลูและอลันนา อูบัค กำกับโดย เคลลี มาร์เซลจากบทภาพยนตร์ที่เธอเขียนขึ้นมาจากเรื่องราวที่เธอและทอม ฮาร์ดี้ช่วยกันคิดขึ้นมา นอกจากนี้ทั้งคู่ยังอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกันอีกด้วย
Venom: The Last Dance ได้รับการจัดเรท PG-13 ซึ่งหมายถึงมีฉากแอ็กชันและการใช้ความรุนแรงค่อนข้างมาก มีภาพการนองเลือดและการใช้ภาษาหยาบคาย สำหรับคอหนังชาวไทยสามารถรับชมได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
หมายเหตุ : หลังหนังจบมี end credit ให้ดูอยู่ 2 ตัว อย่าเพิ่งรีบลุกออกไปก่อน
