Successor 'อุปสรรคสร้างคน' l หนังเล่าโลก
คนที่ติดตามคอลัมน์หนังเล่าโลกมาโดยตลอด จะสังเกตได้ว่า คอลัมน์นี้ไม่เคยเขียนถึงภาพยนตร์จากจีนแผ่นดินใหญ่เลย แม้ปีที่ผ่านมามีโอกาสได้ดูอยู่บ้างแต่ยังไม่มีจังหวะให้เขียน
ครั้นสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพ ครั้งที่ 18” เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน หนังเล่าโลกจึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เปิดงานด้วยภาพยนตร์เรื่อง Successor เนื้อหาชวนซาบซึ้งตรึงใจ
Successor เป็นภาพยนตร์ใหม่ ฉายในเมืองจีนเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ผลงานการกำกับของ Da-Mo Peng และ Fei Yan บอกเล่าเรื่องราวของหม่า จี้เย่ เด็กชายยากจนผู้อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และย่าที่ป่วยหนัก แต่ละวันพ่อของจี้เย่ ต้องขี่ลาออกไปตรากตรำทำงานหนัก ตัวเขาเองก่อนจะไปโรงเรียนต้องดูแลจัดยาให้ย่า อยู่ที่โรงเรียนเมื่อมีเวลาว่างแทนที่จะได้เล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ จี้เย่ต้องเก็บขวดพลาสติกจากถังขยะมาขาย ความยากลำบากของจี้เย่กลายเป็นเรื่องให้เพื่อนล้อเลียนสนุกปาก ที่สมัยนี้เรียกกันว่าถูก “บูลลี่” ในโรงเรียน
แม้จะยากจนอย่างไรแต่ดูเหมือนสิ่งที่เป็นคุณธรรมประจำครอบครัว “หม่า” ก็คือความกตัญญู พ่อปลูกฝังจี้เย่เสมอมาว่า ด้วยความไม่มีอะไรทำให้พ่อไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ ดังนั้นความหวังของพ่อจึงฝากไว้ที่จี้เย่ เขาจะต้องสอบเข้าคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชิงหวาปักกิ่งให้ได้ เพื่อเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ จี้เย่จึงตั้งอกตั้งใจเรียน ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีอย่างที่พ่อสอน ทุกช่วงเวลาของชีวิตเด็กชายผู้นี้ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังเลยสักครั้ง ด้วยเขายึดถือความกตัญญูเป็นที่หนึ่ง
จนกระทั่งถึงวันชี้ชะตา หนุ่มน้อยจี้เย่ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยมีพ่อแม่ตามไปให้กำลังใจถึงหน้าประตูสนามสอบ เช่นเดียวกับผู้ปกครองคนอื่นๆ จี้เย่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวาปักกิ่งได้หรือไม่ สิ่งที่ชวนคิดต่อไปคือในทางกลับกัน ถ้าจี้เย่ไม่ใช่ลูกคนจน แต่เป็นลูกอภิมหาเศรษฐีที่พ่อกำลังปั้นให้เป็น Successor ผู้สืบทอดกิจการ แล้วแกล้งปลอมตัวเป็นคนจน ใช้ชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมยากลำบากเพื่อเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ แบบที่พ่อเคยเผชิญมาก่อนจนเติบโตมาได้ดี สุดท้ายแล้วชะตาชีวิตของจี้เย่จะเป็นไปอย่างที่พ่อวางเอาไว้หรือไม่
Successor เป็นหนังดรามาแนวครอบครัวแฝงไว้ด้วยมุกตลก ดูเรื่องนี้เรื่องเดียวนึกถึงข่าวต่างประเทศที่เคยแปลมาหลายข่าว เห็นภาพมหาเศรษฐีจีนเห่อแบรนด์เนมตะวันตก ภาพการปรนเปรอเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวราวกับฮ่องเต้น้อย ภาพการแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ภาพที่ไม่คาดว่าจะเห็นในภาพยนตร์จีนคือคู่รักเพศเดียวกัน ที่แม้ในเรื่องจะบอกว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบานตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา แต่คนดูก็ดูออกว่านี่คือคู่รักชาย-ชาย นั่นแสดงว่ากองเซ็นเซอร์จีนเปิดกว้างพอสมควร
อีกหนึ่งความประทับใจคือบทสนทนาคมๆ แฝงไว้ด้วยคุณธรรม ได้ยินแล้วแทบอยากเอาสมุดเลคเชอร์มาจด หลายข้อเป็นบทเรียนชีวิตได้ดี ภาพยนตร์จีนสนุกๆ จาก “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพ ครั้งที่ 18” ยังมีให้ชมอีกหลายเรื่อง ระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย. รับชมได้ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) ส่วนที่ SF เซ็นทรัลเวิลด์มีไปจนถึงวันที่ 24 พ.ย. ติดตามโปรแกรมฉายได้ที่เฟซบุคเพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ดูหนังจีนแล้วจะเข้าใจจีน เพราะหนังเป็นเครื่องมือง่ายที่สุดที่เปิดให้คนรู้จักกัน