‘Sonic the Hedgehog 3’ เม่นสายฟ้า ‘คีอานู รีฟส์’ และ ‘จิม แครีย์’ สองคน
‘คีอานู รีฟส์’ รับบทอะไรในหนังเม่นสายฟ้าภาคใหม่ แล้วทำไมถึงมี ‘จิม แครีย์’ สองคน รับชมได้ใน ‘Sonic the Hedgehog 3’ การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้ โซนิค และผองเพื่อนเติบโตขึ้น
เม่นสายฟ้า โซนิค (Sonic) ตัวการ์ตูนที่นำเค้าโครงมาจากวิดีโอเกมยอดฮิตของเซก้า หวนคืนจอใหญ่อีกครั้งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับภาพยนตร์ Sonic the Hedgehog 3 ที่จะพาคุณไปพบกับการผจญภัยที่ลุ้นระทึกที่สุดของเขา
โซนิค, นัคเคิลส์ และเทลส์กลับมาร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับ ชาโดว์ วายรายปริศนาที่มีพลังในแบบที่พวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อน เมื่อไม่สามารถสู้ได้ในทุกรูปแบบ ทีมโซนิคจึงต้องจับมือกับพันธมิตรที่คาดไม่ถึง ด้วยความหวังที่จะหยุดยั้งชาโดว์และปกป้องโลกใบนี้เอาไว้ให้จงได้
Sonic 3 ดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว หลังจากที่โซนิค (เบน ชวาร์ตซ์) และผองเพื่อนของเขา เทลส์ (คอลลีน โอ’ เชาเนซีย์) และนัคเคิลส์ (อิดริส เอลบ้า) มีชัยชนะเด็ดขาดเหนือ ดร.โรบ็อทนิค ผู้ชั่วร้าย (จิม แคร์รี่ย์) พวกเขาได้ลงหลักปักฐานในกรีน ฮิลส์ และกำลังปรับตัวเข้ากับความสุขแบบเรียบง่ายในชนบทของครอบครัวทอมและแม็ดดี้ วาโชว์สกี้ (เจมส์ มาร์สเด็น - ทีก้า ซัมป์เตอร์)
แต่แล้วกลับมีคำขอเร่งด่วนจาก จี.ยู.เอ็น. ทำให้โซนิค เทลส์ และนัคเคิลส์ต้องเดินทางไปหลายเมืองในโลก รวมถึงเดินทางออกสู่อวกาศเพื่อหยุดยั้งหายนะที่อาจทำลายล้างโลกให้กลายเป็นจุล
ภารกิจครั้งนี้นอกจากจะเป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขาแล้ว มันยังเป็นบททดสอบ “ความเป็นทีม” และ “มิตรภาพ” ของโซนิค เทลส์ และนัคเคิลส์ว่าจะแน่นแฟ้นแค่ไหน
ผู้กำกับ เจฟฟ์ ฟาวเลอร์ กลับมากุมบังเหียนแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Sonic อีกครั้ง พร้อมด้วยทีมนักแสดงหน้าเดิมอย่างเบน ชวาร์ตซ์, จิม แคร์รี่ย์, อิดริส เอลบ้า, เจมส์ มาร์สเด็น, ทีก้า ซัมป์เตอร์ และคอลลีน โอ’ เชานาซีย์
ร่วมด้วยการแสดงครั้งแรกในแฟรนไชส์นี้ของซูเปอร์สตาร์นักบู๊ คีอานู รีฟส์ ในบทเม่นชาโดว์ ขวัญใจแฟน ๆ
‘ชาโดว์’ วายร้ายผู้ลึกลับแต่มีเสน่ห์
Sonic the Hedgehog 3 มาพร้อมกับภัยคุกคามใหญ่หลวงครั้งใหม่ นั่นคือ เม่นชาโดว์ ศัตรูร้ายกาจที่สุดเท่าที่โซนิคเคยเผชิญมา ผู้มีปูมหลังอันเป็นปริศนาว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นวายร้ายที่มีความเก่งกาจระดับทำลายล้างโลกได้
ผู้สร้างภาพยนตร์รู้ดีว่าหนังที่ดำเนินมาถึงภาค 3 ต้องการตัวร้ายที่พิเศษมากเพื่อให้โซนิคได้เผชิญกับบททดสอบอันยากลำบากที่จะทำให้เขาก้าวข้ามขีดความสามารถของตัวเอง
“เราอยากท้าทายฮีโรของเราอยู่เสมอเพื่อให้เขากลายเป็นเวอร์ชันที่ดีกว่าของตัวเอง เมื่อพิจารณาจากคลังตัวละครมากมาย ทุกคนในทีมของเรารู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่จะเพิ่มชาโดว์เข้ามา” ผู้กำกับฟาวเลอร์กล่าว
ชาโดว์ ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Sonic Adventure 2 และกลายเป็นตัวละครที่แฟน ๆ ชื่นชอบตั้งแต่เปิดตัว ด้วยความที่เป็นคนลึกลับ เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เพราะมีเบื้องหลังที่ต้องไปรับชมกันเอาเองในโรงภาพยนตร์
“เขาได้รับความนิยมพอ ๆ กับโซนิคอย่างรวดเร็ว เขาแข็งแกร่งกว่านัคเคิลส์ เร็วกว่าโซนิค เขาเป็นตัวละครที่น่าดึงดูดมาก เขามีความลึกซึ้ง ตอนที่เราบอกใบ้เป็นนัย ๆ เกี่ยวกับตัวละครของเขาในช่วงท้ายของ Sonic 2 แฟน ๆ ถึงกับเสียสติกันไปเลยครับ"
ผู้กำกับฟาวเลอร์กล่าว
‘คีอานู รีฟส์’ ครั้งแรกในแฟรนไชส์ Sonic
หลังจากที่แฟน ๆ ได้เบาะแสกันไปแล้วว่าใน Sonic 3 ‘ชาโดว์’ จะมาปรากฏตัวด้วยอย่างแน่นอนก็ได้เกิดการถกเถียงกันทางสื่อออนไลน์ว่า ใครสมควรจะมาให้เสียงตัวละครที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันลึกลับตัวนี้ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาล้นหลามว่าเขาผู้นั้นคือ คีอานู รีฟส์
"เป็นการจับคู่ที่เหมาะสมอย่างสมบูรณ์แบบ ชาโดว์ คือ จอห์น วิคในรูปแบบเม่น ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโซนิค"
ผู้กำกับฟาวเลอร์กล่าว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ซูเปอร์สตาร์นักบู๊ระดับโลกคนนี้จะยอมมารับบทนี้ไหม?
โชคดีที่คีอานู รีฟส์ชอบแนวคิดนี้
"การได้เล่นชาโดว์ใน Sonic the Hedgehog 3 ถือเป็นอะไรที่พิเศษมากสำหรับผม ผมได้อ่านบทแล้วรู้สึกเหมือนเขากำลังต่อสู้กับตัวเอง และผมก็รู้สึกสงสารเขา เขาสูญเสียคน ๆ หนึ่งที่เขารักไป และถูกแช่แข็งเป็นเวลา 50 ปี เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธคนที่พรากมาเรียไปจากเขา เขาโทษ จี.ยู.เอ็น. เขาต้องการแก้แค้นและรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วหัวใจของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม ผมพยายามค้นหาจิตวิญญาณอันงดงามที่ชาโดว์เป็นอยู่น่ะครับ”
คีอานู รีฟส์ กล่าวอย่างเข้าถึงตัวตนและความเป็น ชาโดว์
“ชาโดว์เป็นเม่นที่แข็งแกร่งมาก ในตอนแรกโซนิคสู้เขาไม่ได้เลย แต่เขาก็เรียนรู้ได้เร็ว ในด้านภาพวิชวลแล้วมันน่าตื่นเต้นมาก มีจิตวิญญาณแห่งความสนุกสนานและความประหลาดใจที่เชื่อมโยงกับความสมจริงทางอารมณ์ของตัวละครด้วย นั่นทำให้คุณเห็นอกเห็นใจพวกเขาได้ครับ”
ผสาน animation กับ live action
Sonic the Hedgehog 3 เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างแอนิเมชั่นกับไลฟ์แอ็กชั่น ทำให้มีข้อได้เปรียบสำคัญอย่างหนึ่งเหนือภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นธรรมดาตามที่ แพท เคซีย์ คนเขียนบท ได้บอกเอาไว้ นั่นคือ “ทำให้สามารถเล่นใหญ่ได้”
“ในไลฟ์แอ็กชั่น ถ้าคุณอยากให้เฮลิคอปเตอร์ชนกัน ผู้อำนวยการสร้างอาจจะบอกว่าเราทำไม่ได้ แต่ในหนังเรื่องนี้เราทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงการระเบิดดวงจันทร์ด้วย เจฟฟ์เป็นอัจฉริยะด้านภาพวิชวล เราก็เลยแน่ใจได้ว่า ไม่ว่าเราจะเขียนอะไรลงไป เขาก็จะทำให้มันดูเจ๋ง เราจึงตัดสินใจที่จะไม่เพียงแต่ส่งโซนิคไปทั่วโลกเท่านั้น แต่เรายังจะส่งเขาไปอวกาศด้วย สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงจะเป็นไปไม่ได้ในหนังไลฟ์แอ็กชั่น แต่เจฟฟ์ อัจฉริยะด้านวิชวลเอฟเฟ็กต์ และทีมสตันท์มากพรสวรรค์ทำให้มันออกมาดูยอดเยี่ยมครับ”
แม้แต่นักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการอย่าง คีอานู รีฟส์ ยังมองว่าการมาร่วมแฟรนไชส์ Sonic 3 ถือเป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนเช่นกัน
“การผสมผสานระหว่างไลฟ์แอ็กชั่นและแอนิเมชั่นเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผม ตัวละครแอนิเมชั่นเหล่านี้ให้ความรู้สึกที่จับต้องได้และมีอยู่จริง ความสนิทสนมของพวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนจริงเหลือเกิน และทีมผู้สร้างก็ได้สร้างซีเควนซ์แอ็กชั่นขนาดใหญ่ได้สำเร็จ ด้วยการซ้อนทับวิชวลเอฟเฟ็กต์ด้วยแอนิเมชั่น
การได้ร่วมงานกับนักพากย์เสียง และนักแสดงที่ยอดเยี่ยมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และผมต้องบอกว่าจิม แคร์รี่ย์เป็นอัจฉริยะ การแสดงของเขาในหนังเรื่อง Sonic เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ทั้งพลังงาน ความฉลาด และความแข็งแกร่งของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้ผมได้ และหนวดของเขา…หรือตอนนี้ ต้องพูดว่าหนวดของพวกเขาแล้วสิครับ!”
‘จิม แครีย์’ รับบทนักแสดงสองตัว
ตัวละครสำคัญใน Sonic คือวายร้ายตัวฉกาจ ดร.อีโว โรบ็อทนิค ที่ในภาค 3 นี้เขาไม่ได้กลับมาเพียงคนเดียว แต่ยังมาพร้อม เจอรัลด์ คุณปู่วัย 110 ปีที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทีมผู้สร้างตัดสินใจให้นักแสดงฝีมือฉกาจอย่าง ‘จิม แครีย์’ รับบทตัวละครสองตัวนี้ไปเลย
“เราตัดสินใจขอให้จิมเล่นเป็นตัวละครทั้งสองตัว ในเกม เจอรัลด์ดูเกือบจะเหมือน ดร.อีโว ทุกประการ ทั้งหนวดดกหนา หัวโล้น แค่แก่กว่านิดหน่อย” ผู้กำกับกล่าว
ด้านผู้อำนวยการสร้าง นีล เอช. มอริทซ์ เสริมว่า “มันเป็นส่วนที่พิเศษที่สุดส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ตอนที่ผมได้ดูเขาสองคนในฉากเดียวกัน ผมก็รู้สึกเหมือนกำลังดูคนสองคนอยู่จริง ๆ”
ในการเนรมิตชีวิตให้กับเจอรัลด์ ทีมงานได้นำ มาร์ค โคเลียร์ ช่างแต่งหน้าผู้เคยคว้ารางวัลออสการ์ถึงสามครั้งและเพิ่งได้รับรางวัลออสการ์จากเรื่อง Poor Things มาช่วย การแปลงโฉมแต่ละครั้งทำให้แคร์รีย่ต้องใช้เวลาแต่งหน้าและใส่ชิ้นส่วนเทียมนานถึงสามชั่วโมง
Sonic The Hedgehot 3 มีความยาว 109 นาที ได้รับการจัดเรท PG จึงเป็นหนังที่เหมาะสมสำหรับครอบครัว สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์