‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

ไม่ใช่แค่หนังกำลังภายในฟอร์มยักษ์ ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ คือมหากาพย์ภาพยนตร์ระดับโลกที่เป็นการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’ จอมยุทธ์วงการหนังฮ่องกง

การเก็บสถิติในโลกภาพยนตร์ส่วนใหญ่มักจะโน้มเอียงไปทางฝั่งตะวันตก ส่งผลให้หนังเอเชียหลายต่อหลายเรื่องถูกมองข้าม เพราะสื่อระดับโลกที่มักจะคอยรายงานสถิติ และจัดอันดับต่าง ๆ ไม่ได้เขียนถึง

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือภาพยนตร์ ‘Legends Of The Condor Heroes: The Gallants มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ หรือ ‘มังกรหยก 2025’ ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในบ้านเรา ซึ่งหากพิจารณาจากความเป็นจริงสามารถจัดอยู่ในทำเนียบ the biggest movie in the world ได้อย่างไม่มีข้อกังขา

ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของทุนสร้างมหาศาลถึง 2,000 ล้านบาท ความยิ่งใหญ่อลังการของงานสร้างที่ไม่แพ้หนังมหากาพย์อย่าง The Lord of the Rings ของทางฝั่งตะวันตก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดจองตั๋วล่วงหน้าซึ่ง ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ สามารถทุบสถิติ “ภาพยนตร์ที่ทำรายได้จากยอดจองล่วงหน้าช่วงตรุษจีนสูงสุดอันดับ 1” ทำรายได้ 355 ล้านหยวน แล้วยังรั้งอันดับ 5 ภาพยนตร์จีนที่มียอดพรีเซลจองล่วงหน้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน

 

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

 

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คอหนังจีน “ไฮบ์” หรือตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากกับภาพยนตร์ ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ ก็เพราะว่ามันคือการกลับสู่วงการในรอบหลายสิบปีของ ‘ฉีเคอะ’ (Tsui Hark) ผู้กำกับหนังฮ่องกงที่ทรงอิทธิพลโดดเด่นเคียงคู่มากับ จอห์น วู (John Woo) ในยุค 80-90 ที่หนังแอคชั่น หนังกำลังภายในของฮ่องกงรุ่งเรืองถึงขีดสุด

โดยฉีเคอะนั้นมีผลงานโดดเด่นเป็นอย่างมากในภาพยนตร์แนวแฟนตาซี-กำลังภายใน เช่น โปเย โปโลเย,หวยเฟยหง, เดชคัมภีร์เทวดา จนได้รับการขนานนามว่า ‘พ่อมดแห่งหนังฮ่องกง’ หรือ ‘สตีเว่น สปีลเบิร์ก แห่งเอเชีย’

แต่ในยุคหลัง ๆ ฉีเคอะหันมาทำหนังสงครามที่มีความยิ่งใหญ่อลังการในการรบทัพจับศึก ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งใน 'มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่'

 

ฉีเคอะ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1950 ที่กรุงไซ่ง่อน เวียดนามใต้ เมื่ออายุได้ 13 ปี ครอบครัวได้เดินทางมาตั้งรกรากที่ฮ่องกง เขามีความสนใจในศาสตร์ด้านภาพยนตร์ตั้งแต่เด็ก โดยร่วมกันสร้างภาพยนตร์ขนาด 8 มิลลิเมตร กับเพื่อน ๆ และต่อมาได้เข้าศึกษาด้านศิลปะภาพยนตร์ระดับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา

ฉีเคอะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทกซัส ออสติน ในปี ค.ศ. 1975 เมื่อจบการศึกษาแล้วจึงเริ่มงานในวงการภาพยนตร์ฮ่องกงอย่างแท้จริง จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "ผู้กำกับรุ่นที่ 4" แห่งเกาะฮ่องกง

เขาประสบความสำเร็จถึงขีดสุดเป็นครั้งแรกในฐานะผู้อำนวยการสร้าง จากภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow (1986) หรือชื่อไทย “โหด เลว ดี” จากการกำกับของ จอห์น วู (ภาพยนตร์มีด้วยกันสามภาค ฉีเคอะเป็นผู้อำนวยการสร้างสองภาคแรก และมากำกับเองในภาคที่ 3) 

ผลงานการกำกับภาพยนตร์กังฟูชุด Once Upon a Time in China (1991) หรือ หวงเฟยหง นำแสดงโดย หลี่เหลียนเจี๋ย ที่มีถึง 6 ภาค และผลงานการอำนวยการสร้าง A Chinese Ghost Story (1987) ชื่อไทย ‘โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า’ จากการกำกับของ เฉิง เสี่ยวตง นำแสดงโดย เลสลี่จาง, หวังจู่เสียน

 

ฉีเคอะมีผลงานการกำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Double Team (1997) ชื่อไทย คู่โหดมหาประลัย นำแสดงโดย ฌ็อง-โกลด ว็อง ดาม , เดนนิส ร็อดแมน และมิกกีย์ รูร์ก และเรื่อง Knock Off (1998) ชื่อไทย ทุบกะโหลกนรก นำแสดงโดย ฌ็อง-โกลด ว็อง ดาม, ร็อบ สไนเดอร์ และไมเคิล หว่อง

ในยุคแห่งความรุ่งโรจน์ ฉีเคอะคือสัญลักษณ์ของหนังฮ่องกง ชื่อ ชั้น การันตี ถึงความมาตรฐานระดับผู้ทรงอิทธิพลของอุตสาหรรมภาพยนตร์ 

 

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

 

ภาพยนตร์ ‘มังกรหยก’ เวอร์ชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

มังกรหยก เป็นผลงานการประพันธ์ของปรมาจารย์ ‘กิมย้ง’ ผู้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในการหยิบจับเอาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มาหลอมรวมเข้ากับเรื่องราวในยุทธภพได้อย่างงดงาม ก่อกำเนิดจอมยุทธที่ไม่เพียงเก่งกาจเท่านั้น แต่ยังมีอุดมการณ์รักชาติอย่างแน่วแน่

มังกรหยกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 โดยเริ่มจากการลงเป็นตอน ๆ ในหนังสือพิมพ์ Min Bao ของฮ่องกง กิมย้งขายนิยายมังกรหยกทุกภาครวมกันได้ร่วม 300 ล้านเล่มทั่วโลก ไม่นับรวมรายได้จากการถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครทีวีอีกนับสิบเวอร์ชั่น ทั้งในจีน ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึงหนังของชอว์บราเดอร์ส (Shaw Brothers) ในยุค 70

แม้แต่ผู้กำกับรุ่นใหม่ขึ้นมาอีกนิด และเป็นสายอินดี้อย่าง หว่องกาไว ยังเคยทำหนัง prequel side story เกี่ยวกับมังกรหยกออกมาในเรื่อง Ashes of Time

สำหรับภาพยนตร์ มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ (Legends of the Condor Heroes: The Gallants) ถือเป็นการดัดแปลงมังกรหยกเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเวอร์ชั่นของฉีเคอะนี้ทำถึงทั้งในแง่มุมทางประวัติศาสตร์ และรักสามเศร้าที่เป็น subplot ในนิยายเรื่องนี้

 

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’ ‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

 

การผนึกกำลังของคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่

‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ เป็นภาพยนตร์มหากาพย์แอ็คชั่น-แฟนตาซีที่ ‘ฉีเคอะ’ กล่าวว่ามันคือความฝันที่เป็นจริงสำหรับการเป็นผู้กำกับที่ Special Effect ต่าง ๆ ในโลกสมัยใหม่ เอื้ออำนวยให้เค้าทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาได้สมบูรณ์ตามความตั้งใจที่สุด

‘ฉีเคอะ’ มอบบทบาท ‘ก๊วยเจ๋ง’ และ ‘อึ้งย้ง’ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญที่สุดในนิยายและภาพยนตร์กำลังภายใน ให้กับ ‘เซียวจ้าน’ และ ‘จวงต๋าเฟย’ ส่งผลให้ ‘มังกรหยก 2025’ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการนำคนรุ่นเก่าระดับปรมาจารย์ในวงการภาพยนตร์อย่าง ‘ฉีเคอะ’ มาร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหม่มากฝีมือที่กำลังเป็นดาวเด่น มีฐานแฟนคลับหนาแน่นทั่วโลกอย่าง ‘เซียวจ้าน’

นั่นทำให้ ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ สามารถดึงดูดผู้คนหลากหลายเจเนอเรชั่นมารวมกันอยู่ในหนังเรื่องเดียว แถมยังขยายขอบเขตความสนใจออกไปนอกประเทศ เพราะเซียวจ้านมีฐานแฟนคลับในต่างประเทศหนาแน่นด้วยเช่นกัน

 

‘The Legend of the Condor Heroes : The Gallants มังกรหยก จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่’ ระเบิดพลังยุทธกอบกู้แผ่นดิน 20 กุมภาพันธ์นี้ ต้องไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

 

 

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’ ‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’

‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’