เจนนี่ กับเส้นทางใหม่ของอัลบั้มเดี่ยว และการใช้ชีวิตตามที่ฝัน

เจนนี่ กับเส้นทางใหม่ของอัลบั้มเดี่ยว และการใช้ชีวิตตามที่ฝัน

“Ruby” อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ “เจนนี่” ที่ไม่ใช่แค่ประสบความสำเร็จบนชาร์ตเพลง แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราวและความฝันของเธอได้อย่างตรงไปตรงมา

เจนนี่ คิม หรือที่หลายคนรู้จักเธอในนาม เจนนี่ แบล็กพิงก์ (Jennie BLACKPINK) ได้พิสูจน์ให้ใครหลายคนเห็นแล้วว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานอกจากเธอจะมีผลงานในฐานะ “ไอดอล” จากวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังระดับโลกแล้ว เธอก็มีผลงานอื่นๆ ให้เห็นมาตลอดไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงเดี่ยวเมื่อปี 2018 ในชื่อ SOLO หรือการร่วมแสดงซีรีส์ The Idol ของ HBO ที่แม้ตัวซีรีส์จะไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่เพลงที่เธอร้องประกอบซีรีส์ One of The Girls ก็มียอดฟังแบบรายเดือนใน Spotify สูงถึงประมาณ 5 ครั้ง โดยนับตั้งแต่ 1 ม.ค. 2023 -13 มี.ค. 2025 นอกจากนี้เธอยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พรีเซนเตอร์ และขึ้นแคมเปญให้กับแบรนด์ระดับโลกมากมาย เช่น Chanel, Adidas หรือ Maison Kitsuné

ล่าสุด “เจนนี่” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการทำสตูดิโออัลบั้มครั้งแรกของเธอในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว” ในชื่อ “Ruby” กับนิตยสาร complex ว่า เป็นอัลบั้มที่รวมแนวเพลงเอาไว้หลากหลาย ตั้งแต่ฮิปฮอปยุค 90 ไปจนถึงอิเล็กโทรนิกป๊อปและยังได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังระดับโลกอีกมากมาย

ตอนนี้ฉันเหมือนเด็กที่ตื่นเต้นมาก อัลบั้มของฉันมีชีวิตขึ้นมาในโลกที่ผู้คนสามารถสัมผัสได้ถึงดนตรีของฉัน มันเหนือจริงมากๆ” เจนนี่เล่าถึงผลงานเดี่ยวของเธอที่เป็นโปรเจ็กต์แรกหลังจากเธอหมดสัญญากับค่ายต้นสังกัดในเกาหลี (แต่ยังต่อสัญญาเพื่อทำกิจกรรมในฐานะแบล็กพิงก์)

เจนนี่เล่าต่อว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปในทุกๆ วัน และในแต่ละเดือนก็มีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเรื่องการทำสตูดิโออัลบั้มครั้งแรกของเธอที่มีถึง 15 เพลง โดยมีเพลงที่เธอแต่งเอง 11 เพลง และการเตรียมตัวทัวร์ The Ruby Experience ที่ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก และโซล ไปจนถึงการขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก “Coachella”

สำหรับการทำเพลงครั้งนี้เจนนี่เปรียบเทียบว่ามันเหมือนกับแนวคิดด้านแฟชั่นของเธอเพราะเธออยากให้ทุกเพลงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเธอเองก็ชอบลองสไตล์ใหม่ๆ “ฉันอยากลองทุกแนวเพื่อหาว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง” เจนนี่กล่าว

แต่การจะเลือกเส้นทางศิลปินเดี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะระหว่างการทำอัลบั้มที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนอยู่ในสตูดิโอ ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เจอเพลงที่ตัวเองพอใจจนได้ทำเพลง “Zen” ที่ช่วยให้ทุกอย่างลงตัว จะเห็นได้ว่าในมิวสิกวิดีโอ เธอสวมชุดเกราะสีทอง มีกองทัพอยู่รายล้อม ก่อนจะแปลงร่างเป็นนกฮูกสีเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญาและการเกิดใหม่ จนกลายมาเป็นบทสรุปสำหรับตัวเธอว่าอยากให้ตัวตนจริงๆ ของเธอใกล้เคียงกับตัวตนที่เธอนำเสนอออกมามากที่สุด เพราะเธอมองว่ายิ่งเป็นตัวเองมากแค่ไหนก็จะยิ่งรู้สึกมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น

ที่สำคัญอัลบั้มของเธอไม่ได้เล่าถึงเรื่องของความรักเท่าไรนัก แต่จะเป็นการเล่าเรื่องราวของตัวเจนนี่เอง โดยเฉพาะในเพลง Mantra ที่ร้องว่า เธอคนนั้นก็คือฉัน หรือเพลง ExtraL ที่เธอใช้ยืนยันว่าเธอคือผู้กำหนดกฎของตัวเอง

ฉันอยากใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่า เพื่อค้นหาสิ่งที่มีความหมายสำหรับตัวเอง ฉันไม่เคยทุ่มเทให้กับตัวเองมากขนาดนี้มาก่อน ฉันคุ้นเคยกับการออกไปข้างนอก ไม่ใช่อยู่ข้างในและพูดคุยกับตัวเอง แต่ฉันจำเป็นต้องค้นหาตัวเอง แล้วตัดสินใจว่าอยากบอกอะไรกับโลก” เจนนี่พูดถึงช่วงที่เธออยู่ระหว่างการทำอัลบั้ม และแม้ว่าการจะเป็นศิลปินเดี่ยวได้นั้นก็จำเป็นจะต้องดูแลควบคุมงานของตัวเองอย่างละเอียดแต่เจนนี่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันเพราะนี่คือสิ่งที่เธอฝันมานานและพยายามทำตามหัวใจของตัวเอง

งานของฉันมีความพิเศษสำหรับฉัน เพราะเป็นฉันที่ควบคุมมัน และฉันเท่านั้นที่ทำได้” เจนนี่อธิบายถึงความภูมิใจที่ได้ออกสตูดิโออัลบั้มเป็นของตัวเองและยังเล่าเพิ่มด้วยว่าความฝันของเธอคือการเป็นศิลปินที่ทำเพลงให้ตัวเองภูมิใจได้ และสามารถอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของผลงานได้เต็มร้อย

สำหรับ Ruby Experience Tour เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เจนนี่ประทับใจมาก เธอเล่าว่ารู้สึกมีชีวิตชีวาเมื่อได้ขึ้นแสดง และได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้ผู้ชมได้รับรู้ “นั่นคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันเริ่มต้นในวงการดนตรี ฉันรู้สึกโชคดีที่มีแฟนๆ ที่อยากชมและฟังฉัน

แม้ว่าเจนนี่กำลังไปได้ดีในฐานะศิลปินเดี่ยวและสมาชิกแบล็กพิงก์ทั้งสี่คนไม่มีใครต่อสัญญากับ YG Entertainment และแต่ละคนก็มีเส้นทางเป็นของตัวเองแต่พวกเธอก็กำลังจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งสำหรับ BLACKPINK 2025 World Tour ที่จะดำเนินไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเจนนี่พูดถึงเพื่อนๆ ของเธอว่า “ฉันเป็นส่วนหนึ่งของวง พอมีความเชื่อมโยงกันเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว พวกเราดูแลกันและกันและทำให้แน่ใจว่าพวกเราสบายดี

สุดท้ายนี้ไม่ว่า “Ruby” สตูอัลบั้มชุดแรกของเจนนี่จะได้รับกระแสตอบรับไปในทิศทางไหน แต่เธอก็เชื่อว่านี่คือการบอกเล่าเรื่องราวของเธอและได้ทำให้คนได้มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอที่เต็มไปด้วยความหลากหลายมากขึ้น และแน่นอนว่าเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวของเธอก็ยังจะคงดำเนินต่อไป

อ้างอิงข้อมูล : complex