“อาหารไทย” และ “นวดไทย” ราชสำนัก ที่ “เดอะ ระวีกัลยา”
อาหารไทย ตำรับไทยแท้ สมัยรัชกาลที่ 2 และ รัชกาลที่ 5 ณ โรงแรม "เดอะ ระวีกัลยา แบงคอก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท" "อร่อย" และดีต่อสุขภาพ และ "นวดไทย" ราชสำนัก (Royal Thai Massage) เป็นซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาด
“อาหารไทย” ที่ห้องอาหาร “เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง” โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงคอก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท (The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort )
มีทั้ง ม้าฮ่อ, ขนมจีนซาวน้ำ ฯลฯ โดยเชฟจะคัดสรรวัตถุดิบดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรี เกลือสมุทร
และวัตถุดิบออแกนิคตามฤดูกาลมาปรุงสำรับไทยแสน อร่อย
ภายใต้บรรยากาศบ้านสไตล์โคโลเนียล ที่สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ 2300 เป็นบ้านเก่าของ แม่นมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 6 เป็นส่วนหนึ่งของเขตบริเวณวังเทเวศร์ ถูกอนุรักษ์เอาไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมดื่มด่ำในวัฒนธรรมความเป็นอยู่ในอดีต
เมื่อครั้งเจ้าของบ้านยังอยู่ ก็คือ พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ ก่อนจะมาเป็นโรงแรม
ใช้เวลาในการปรับปรุงสถานที่ถึง 5 ปี เพื่อคงไว้ซึ่งความดั้งเดิมมากที่สุด รวมทั้งเก็บต้นไม้โบราณทุกต้นที่อยู่เคียงคู่กับบ้านหลังนี้เอาไว้
อาหารไทย ที่นำมาเสิร์ฟในวันนี้ จะเป็นสำรับพิเศษ Wellness Retreat Cuisine Package หลังจากนวดผ่อนคลาย ที่สปา
แล้วมารับประทานอาหารเพื่อสุขภาพแบบไทยๆ อาทิ ปรุงแต่งน้อยๆ กะทิคั้นเอง ลูกชิ้นปลาทำเองไม่ใส่สารกันบูด
เสิร์ฟแกงเครื่องจิ้ม ตำรับรัชกาลที่ 2 วันนี้หมูหวานชวนชิม ได้ลิ้มรสเมนู แกงเลียงนพเก้า และ แกงรัญจวน เสิร์ฟมาเป็นเชต พร้อมข้าวไรซ์เบอรี่ เครื่องดื่มง่ายๆ อาทิ แตงโมปั่น หวานธรรมชาติ
พูดถึงชื่อ โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงคอก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท (The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort )
เป็นชื่อที่ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแด่ พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้เป็นเจ้าของบ้าน คำว่า “ระวี” หมายถึง แสงอาทิตย์ที่สว่าง สดใส
ส่วนคำว่า “กัลยา” หมายถึง สตรีที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ และกริยาสมบัติ รวมแล้ว เดอะ ระวีกัลยา หมายถึง สตรีผู้สูงศักดิ์ นั่นเอง
ภาพโดย : กอบภัค พรหมเรขา
พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นแม่ของเจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) และเจ้าพระยาอนิรุธเทวา เรือนหลังนี้
สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การเปิดโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา หรือ
โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงคอก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท (The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort )
โดยมีวัตถุประสงค์คือ ต้องการอนุรักษ์ บ้านเก่ารวมทั้งวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร การอยู่อาศัย และการ นวดไทย ใน พระราชสำนัก
ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ก่อนเริ่มโปรแกรมในสปา จะมีการแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพรต้มอุ่นๆ ประกอบด้วยไพร ขมิ้น ตะไคร้ ใบมะขาม
มะกรูด การบูร แช่เท้าประมาณ 5 นาที เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อเท้าผ่อนคลาย ฆ่าเชื้อโรคตามผิวหนัง จากนั้นเทอราปิส จะนำเกลือสะเดา
ผสมการบูร มาขัดผิวเท้า ช่วยฆ่าเชื้อโรคตามซอกเล็บต่างๆ แถมยังรู้สึกสบายผ่อนคลาย แล้วเลือกโปรแกรมนวดตามชอบ จากนั้นค่อยไปรับประทานอาหาร Wellness Retreat Cuisine Package
โดย Package Concept: จะเป็นการผสมผสานโดยใช้ศาสตร์ อาหารไทย คือยาป้องกันโรค และ การบำบัด จากภายในสู่ภายนอก
ให้มีความผ่อนคลายเสริมภมูิต้านทานต่อร่างกาย นอนหลับได้อย่างมีความสุข ส่วน BODY ELIXIRS (Starters) มีให้เลือกอาทิ
Relaxing Foot Massage (นวดเท้า) จะเป็นการกดจุดที่เท้าเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาททั้งหมด และทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Back Bliss Massage (นวดหลัง) เป็นการนวดบำบัดที่เน้นไปยังกล้ามเนื้อหลัง และไหล่ที่ตึงเครียด จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ สำหรับคนที่นั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรม
Royal Thai Massage (นวดไทยราชสำนัก) นวดไทย เป็นการยืดกล้ามเนื้อ ใช้แรงกดเบา ๆ ตามแนวเส้นพลังงานของร่างกาย
เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยบรรเทากล้ามเนื้อตึง และการติดขัดของข้อต่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พร้อมปรับความสมดุลของร่างกาย
ให้มีการหมุนเวียนของโลหิตดีขึ้น ใช้นิ้วกดตามจุดเท่านั้นไม่มีการใช้ศอก หรือประชิดตัวมากเกินไป เหมือนการนวดแบบ "เชลยศักดิ์"
แตงโมปั่น หวานธรรมชาติ หอม สดชื่น
CUISINE (Mains) ที่ หมูหวานชวนชิม ได้ลิ้มรส ก็มี แกงเลียงนพเก้า จะใส่ผัก 9 อย่างเพื่อเป็นมงคล ช่วยบำรุงสุขภาพ
เป็นศาสตร์อาหารโบราณที่ใช้ผักพื้นบ้านขึ้นตามฤดูกาลต่างๆ มาปรุงเพื่อให้รับประทานและป้องกันโรค เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย
แกงรัญจวนเป็นอาหารชาววังที่มีมาแต่โบราณ เจ้าของสูตรต้นตำรับคือ หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ มีบันทึกไว้ในสมัย รัชกาลที่ ๕
ท่านได้ทำ “แกงรัญจวน” ขึ้นมาในวัง ซึ่งก็มีเครื่องปรุงที่สำคัญ อันได้แก่ น้ำพริกกะปิ ในสมัยโบราณ เจ้านายพระองค์ต่าง ๆ
มักจะเสวยอาหารอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น แม่ครัวในวังจึงนำอาหารที่เหลือมาประกอบเป็นเมนูใหม่
มัสมั่นไก่ “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง” บทขึ้นต้นของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 2
ซึ่งต้นตำรับเดิมมาจากจากอินเดีย มาอยู่ในทำเนียบอาหารไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 2 ปัจจุบันใช้เนื้อสัตว์ชนิดใดก็ได้ มัสมั่นของไทยจะออกรสหวาน
ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารไทย ที่ได้รับการโหวตจากนักชิมทุกหนแห่งให้เป็นเมนูอาหารอร่อยที่สุดอันดับ 1 ของโลก
จาก 50 อันดับเมนูอาหาร โดยการจัดอันดับของเว็บไซต์ cnngo.com เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2554
มัสมั่นเป็นอาหารรสชาติเผ็ดร้อน หอมมัน หวาน อร่อยกลมกล่อม และเป็นอาหารที่หาทานได้ยากขึ้นทุกวัน เพราะแกงชนิดนี้
ต้องใช้ความพิถีพิถัน ใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดีมาทำเป็นพริกแกง รวมถึงขั้นตอนการปรุงอีกด้วย
ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมในยุคปัจจุบัน หัวใจหลัก คือ เครื่องแกง ที่สำคัญกะทิต้องคั้นเอง ตามด้วย มันฝรั่ง หรือมันเทศก็ได้
แล้วมี หอมใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว ลูกกระวาน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ทำให้เจริญอาหาร ช่วยขับเสมหะ
แก้อาการคลื่นไส้อาเจียนและสารเพิ่มความหอมรสร้อนแรงนั่นก็คือ ผงยี่หร่าบด ลองไปมีประสบการณ์ที่นี่กันได้
"โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงคอก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท" (The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort ) อยู่ที่ซอยเทเวศร์ 2 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหทม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 02-628 5999
"แกงเลียงนพเก้า" เสิร์ฟกับผัดผักรวม