“จิน” เครื่องดื่มทรงโปรด “ควีนเอลิซาเบธที่ 2”
เป็นที่รู้กันว่า “ควีนเอลิซาเบธที่ 2” ทรงสุนทรียภาพและอัจฉริยภาพหลากหลายประการ หนึ่งในจำนวนนั้นมี “เครื่องดื่ม” ชนิดหนึ่งที่สื่ออังกฤษมักกระเซ้าว่า เจ้าสิ่งนี้เองที่ทำให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยืนนานนั่นคือ “จิน”
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา พระชนมายุ 96 พรรษา หลังจากครองราชบัลลังก์มานานกว่า 70 ปี เป็นความเศร้าต่อพลเมืองอังกฤษและทั่วโลก !
สำหรับคนที่เคยใกล้ชิดกับพระองค์ จะรู้ว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงโปรด เครื่องดื่ม จิน (Gin) ซึ่งรวมถึงควีนมัมด้วย พระองค์ต้องพกติดกระเป๋าไว้เสมอ มีหลักฐานยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นกระดาษที่พระองค์ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ สั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมค็อกเทลทรงโปรดไว้ให้
Buckingham Palace Gin (Cr: delish.com)
ต่อมากระดาษใบนั้นได้ถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 600,000 กว่าบาท สูตรที่พระองค์ทรงโปรดดังกล่าว ประกอบด้วย จิน ตามด้วยน้ำแข็ง 2 ก้อน และเลมอนฝานบาง ๆ
เมื่อกลางเดือนกรกฏาคม 2020 มีการเปิดตัว บักกิงแฮม พาเลซ จิน (Buckingham Palace Gin) เป็นยูนิกจิน จากพระราชวังบักกิงแฮม แห่งอังกฤษ ผลิตจากวัตถุดิบ 12 ชนิดที่เก็บด้วยมือจากสวนพฤกษ์ศาสตร์แห่งพระราชวัง
Hawthorn berries
เช่น Lemon, Verbena, Hawthorn berries และ Mulberry leaves มีกลิ่นหอมหลัก ๆ คือ ซีทรัส และเฮิร์บ แอลกอฮอล์ 42%
ดอก Verbena
Buckingham Palace Gin ขายครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2020 โดยขายเฉพาะสถานที่บางแห่งเช่น Windsor Castle, The Palace of Holyroodhouse, The Royal Mews at Buckingham Palace และ The Queen’s Galleries ใน London และ Edinburgh นอกจากนั้นต้องสั่งออนไลน์ และส่งเฉพาะในพื้นที่สหราชอาณาจักรเท่านั้น
สวนแห่งพระราชวังบักกิงแฮม
สวนพฤกษ์ศาสตร์แห่งพระราชวังบักกิงแฮม มีพื้นที่ 16 เฮกตาร์ เป็นที่อยู่ของนกกว่า 30 ชนิด และดอกไม้ป่ากว่า 250 ชนิด พวกนี้เป็นวัตถุดิบอย่างดีในการนำมาทำจิน
บักกิงแฮม พาเลซ จิน เป็น ลอนดอน ดราย จิน (London Dry Gin) ขนาดบรรจุ 70 ml. แอลกอฮอล์ 42% ขายในราคาขวดละ 40 ปอนด์ หรือประมาณ 1,600 บาท
รายได้จากการจำหน่าย Buckingham Palace Gin นำไปสมทบเข้ากองทุนการกุศล Royal Collection Trust ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ดูแลและอนุรักษ์ Royal Collection เพื่อช่วยทำนุบำรุงพระราชวัง และบริเวณจัดนิทรรศการด้านใน
ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวอังกฤษและพระราชวังบักกิงแฮม รวมทั้งสถานที่สำคัญ ๆ ถูกพิษของ COVID-19 ทำให้ราชวงศ์อังกฤษต้องหารายได้มาทดแทน จากการที่ต้องปิดพระราชวังและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง ซึ่งนับเป็นรายได้หลักของราชวงศ์
หน้าพระราชวังบักกิงแฮม
คาดกันว่าทางพระราชวังสูญเสียรายได้ไปกว่า 1,200 ล้านบาท ต่อมาพระราชวังบักกิงแฮมได้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 23 กรกฎาคม 2020
สำหรับ ลอนดอน ดราย จิน (London Dry Gin) เป็นจินสไตล์อังกฤษโดยเฉพาะ มีต้นกำเนิดในกรุงลอนดอน ผลิตด้วยการเติมพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในขณะที่กลั่นครั้งที่ 2-3 นิยมมากในอังกฤษและชาติที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ รวมทั้งสหรัฐและสเปน
บักกิงแฮม พาเลซ จิน
ลอนดอน ดราย จิน เป็นประเภทหนึ่งของจิน และไม่ได้มาจากเมืองลอนดอนเท่านั้น เพราะที่อื่น ๆ ก็สามารถทำได้ ขอให้ผลิตตามแบบหรือสไตล์ London Dry Gin เท่านั้น
London Dry Gin ลักษณะเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของรสหวานและหอมกรุ่น มีข้อกำหนดในการผลิตหลายอย่าง เช่น ในกระบวนการสุดท้ายห้ามเติมความหวานเกิน 0.1 กรัมต่อลิตร, ห้ามเติมหรือตกแต่งด้วยสีใด ๆ และห้ามเติมส่วนผสมใด ๆ นอกจากน้ำ เป็นต้น
พืชพันธุ์ในสวนวังบักกิงแฮม ที่นำมาผลิตจิน
ขณะที่ข้อกำหนดของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) กำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ของลอนดอน ดราย จิน อยู่ที่ 37.5%
คนอังกฤษ สังคมอังกฤษ และวัฒนธรรมอังกฤษ เกี่ยวข้องกับจินมาตั้งแต่ครั้งโบราณ...
ในช่วงทศวรรษ 1720 ทั้งการผลิตและการขาย จิน ในอังกฤษเจริญรุ่งเรืองมาก บ้านเรือนกว่าครึ่งในลอนดอน ต่างผลิตและขายจิน ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมที่รัฐบาลอังกฤษวิตกมาก
จิน เครื่องดื่มทรงโปรดของควีนเอลิซาเบธที่ 2
วิลเลียม โฮการ์ธ (William Hogarth) นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ทนเห็นไม่ได้ จึงกับวาดภาพล้อเลียน ชื่อ Gin Lane เป็นถนนสายหนึ่งซึ่งมีทั้งคนขาย Gin และคนดื่มที่เมามายในลักษณะต่าง ๆ กัน พร้อมบทกวีหลายบท
รัฐบาลอังกฤษมองเห็นปัญหาที่จะตามมาจึงเริ่มเข้ามาควบคุม ด้วยการออกกฎหมาย Gin Act 1736 เพื่อเก็บภาษีจินให้แพงขึ้น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงออกกฎหมาย Gin Act 1751 ตามมาบังคับให้ผู้ผลิตขายจิน ให้กับผู้ค้ารายย่อยที่มีใบอนุญาตเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ จินเถื่อนและกิจกรรมที่ต่อเนื่องกันลดลงเลย คนลอนดอนยังดื่มจินกันอย่างบ้าคลั่ง
ค็อกเทลที่ใช้บักกิงแฮม พาเลซ จิน
ช่วงศตวรรษที่ 18 การผลิตจินในอังกฤษเริ่มใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการกลั่นด้วยหม้อทองแดง (Pot stills) เหมือนการกลั่นวิสกี้ และบรั่นดี เป็นครั้งแรก ก่อนจะค้นพบการกลั่นแบบต่อเนื่อง (Column Still หรือ Continuous till,Patent still และ Coffey still) ในปี 1832 เป็นการจุดประกายให้การผลิต Gin ในสไตล์ London Dry Gin ที่พัฒนาขึ้นมาในปลายศตวรรษที่ 19 จนเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน
อังกฤษมีการตั้งสมาคมจินและวอดก้า (Gin and Vodka Association of Great Britain หรือ GVA) ขึ้นมาเพื่อโปรโมทจินของอังกฤษ ซึ่งทุกวันนี้ชาวเมืองผู้ดีดื่มจินกันปีละกว่า 20 ล้านลิตร จากที่เคยเป็นเครื่องดื่มราคาถูกของชนชั้นกรรมากรเมื่อ 50 ปีก่อน
จิน ทรงโปรด (Cr. firstclass.com.my)
จากการสอบถามพรรคพวกเพื่อนฝูงในลอนดอน หลังการเสด็จสวรรคตของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทำให้ บักกิงแฮม พาเลซ จิน กลายเป็นของล้ำค่า เป็นที่ต้องการของนักสะสม...