‘5 ร้านข้าวแช่’ในดวงใจ ‘หมูหวานชวนชิม’ มีทั้ง ตำรับชาววัง และ สูตรมอญ

‘5 ร้านข้าวแช่’ อร่อยในดวงใจ ‘หมูหวานชวนชิม’ มีทั้ง ‘ข้าวแช่’ ตำรับชาววัง และ สูตรมอญ เริ่มจาก ‘ข้าวแช่ดอยคำ’ และ ‘ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย’ แล้วยังมี ‘ข้าวแช่สินธรเคมปินสกี้’ ไปจนถึง ‘ข้าวแช่ยุ้ง 7’ สูตรมอญ จบที่ ‘ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ’ ชาวบ้านเมืองเพชรบุรี
5 ร้านข้าวแช่ ในดวงใจ หมูหวานชวนชิม ในฤดูร้อนปีนี้พ.ศ. 2566 ดูเหมือนว่าจะร้อนกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากโลกเรากำลังเผชิญปัญหา Climate Change อย่างเห็นได้ชัด ข้าวแช่
และ อาหารหน้าร้อน จึงเริ่มได้รับความนิยม จะเห็นได้ว่าทั้งห้องอาหารต่างๆในโรงแรม รวมทั้งร้านอาหาร พากันเสิร์ฟสำรับ ‘ข้าวแช่’ หมูหวานตระเวนชิมมาหลายร้าน วันนี้พอจะจัดอันดับความ อร่อย
ความจริงแล้ว ทั้ง ข้าวแช่ดอยคำ และ ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย แล้วยังมี ข้าวแช่สินธรเคมปินสกี้ ไปจนถึง ข้าวแช่ยุ้ง 7 'สูตรมอญ' จบที่ ‘ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ’ สูตรชาวบ้านเมืองเพชรบุรี ไม่มีใครไม่อร่อย
ทั้งหมดที่ 'หมูหวานชวนชิม' คัดมาล้วนถูกใจ และยังมีอีกหลายร้านที่ ยังต้องนำเสนอเพิ่มเติมอีก เรียกได้ว่า การแข่งขัน(กรายๆ) ในการปรุงข้าวแช่ปีนี้ดุเดือด และต่างพัฒนาฝีมือ ถือเป็นความโชคดีของผู้บริโภคอย่างเรา
5 ร้านข้าวแช่ ในดวงใจ หมูหวานชวนชิม อย่างที่บอก ทั้ง ข้าวแช่ดอยคำ และ ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย แล้วยังมี ข้าวแช่สินธรเคมปินสกี้ ไปจนถึง ข้าวแช่ยุ้ง 7
สูตรมอญ จบที่ ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ ชาวบ้านเมืองเพชรบุรี อร่อย ทุกร้าน ต่างมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ข้าวแช่ สูตรบ้านของ คุณพงศ์-พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด คัดสรรวัตถุดิบ และมีความละเมียดละไม ตาม ตำรับ ข้าวแช่โบราณ
มีกับข้าว 7 อย่าง ลูกกะปิ, พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้งสับ, เนื้อฝอย หรือ หมูฝอย, พริกบางช้างสอดไส้ปลายี่สน ข้าวแช่ ต้องผ่านการขัด และสีอย่างพิถีพิถัน มีกลิ่นหอมจากน้ำลอยดอกไม้หอมชื่นใจ
'ลูกกะปิ' หอมกลิ่นเคยแท้ พิถีพิถันบรรจงปั้น พอดีคำ 'พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้งสับ' นำหมูและกุ้งมาหมักรวมกัน สอดไส้พริกหยวกแล้วนำไปชุปแป้งทอด
'หัวไชโป๊ผัดหวานอย่างเมืองเพชร' เครื่องเคียงแบบหวาน ให้รสชาติหวานหอมจากน้ำตาลโตนด หวานแซมเค็มถูกใจนักแล 'หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง' เพิ่มความหอมฉุนบางๆ จากหอมแดง
ใช้ปลาช่อนเนื้อแน่นจากตำบลแม่ลา อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี นำไปย่างบนเตาถ่านให้หอมก่อนนำไปผัดกับเครื่องต่างๆ แล้วนำมาสอดไส้หอมแดง ก่อนชุบแป้งตำรับโบราณ ทอดจนกรอบให้เหลืองทอง
- ข้าวแช่ดอยคำ สูตรโบราณ
หมูหวานชวนชิม ว่า ข้าวแช่ดอยคำ มีเสน่ห์ตรง พริกบางช้างสอดไส้ปลายี่สน เป็นสูตรโบราณ โดยนำปลายี่สนที่ต้มจนสุกผัดกับน้ำตาลจนได้เนื้อปลาหอม แล้วสอดไส้กับพริกแห้งซึ่งเป็นพริกบางช้าง จากสมุทรสงคราม กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์ เผ็ดละมุน ผิวมันสวย
'พริกบางช้างสอดไส้ปลายี่สน'
‘หมูหวานชวนชิม’ กดไลค์ให้กับ ‘เนื้อฝอย’ เครื่องเคียงเอกของเมนูที่จะขาดไม่ได้ หอมกลิ่นเนื้อ มีรสหวานๆเค็มๆ นุ่มหนึบเป็นเอกลักษณ์ โรยหน้าด้วยหอมเจียวกรอบๆ
หมูสับปลากุเราชุบไข่ทอด อีกหนึ่งเครื่องเคียงที่แตกต่างจากที่อื่น ปลากุเราที่ได้จากชาวประมงพื้นบ้าน นำมาย่างเตาถ่าน แล้วเลือกเฉพาะเนื้อขาวๆ นำมาระคนกับหมูสับชุบไข่ทอด ให้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างแต่ลงตัว
พร้อมด้วย ข้าวขัดและน้ำลอยดอกไม้หอม แช่ในน้ำเย็นที่ลอยดอกมะลิ กุหลาบ กระดังงา เพิ่มความหอมชวนรับประทาน เสิร์ฟคู่เครื่องเคียงคาวหวาน ตัดรสชาติหวาน – เค็ม ได้ดี และปิดท้ายเครื่องแนมสด 'มะม่วง ต้นหอม กระชาย' ที่บรรจงกรีดขนาดสวยงามกำลังพอดีอย่างพิถีพิถัน
'ลูกกะปิ' ขนาดพอดีคำ
'ข้าวแช่ ดอยคำ' ประจำปี 2566 เหลือเวลาจำหน่ายอีก 2 รอบ รับจำนวน 200 ชุดต่อรอบ ผู้สนใจสามารถสั่งจองรับประทานที่ร้านดอยคำ สาขาราชเทวี หรือ สั่งกลับบ้านได้ใน
รอบวันที่ 19 เมษายน 2566 ปิดรับออเดอร์ 18 เมษายน 2566 เวลา 18.00 น. และรอบวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ปิดรับออเดอร์ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00 น.
ราคาชุดละ 500 บาท (ค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง หรือสามารถมารับที่ร้านดอยคำ สาขาราชเทวี) สอบถามได้ที่ โทร. 065 940 2457 หรือ 065 940 2461
ร้านดอยคำ ราชเทวี เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.30 - 20.00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอยคำได้ที่เว็บไซต์ www.doikham.co.th
- ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย ตำรับชาววัง
'ข้าวแช่' เมนู อาหารหน้าร้อน ตำรับ บ้านสุริยาศัย รวบรวมหลากหลายสูตร อร่อย จากหลายแห่งเข้าไว้ด้วยกัน ความโดดเด่นอยู่ที่ ข้าวสีเขียวจากใบเตย ลูกกะปิ หอมมัน ปลายี่สน หวานหอมกลิ่นกะทิ หมูหวานชวนชิม ชอบ ปลาช่อนแดดเดียวทอดเคลือบน้ำตาล อร่อยไม่เหมือนใคร
กับ พริกหยวกสอดไส้ เครื่องเคียงข้าวแช่ทั่วๆไป ประกอบด้วย ‘ลูกกะปิ’ มีส่วนประกอบของปลาช่อนย่าง, ตะไคร้, กระชาย,หัวหอม,กะปิ, หัวกะทิ เคี้ยวแล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดพอดีคำ นำมาชุบไข่ หรือแป้งสาลีทอดจนเป็นสีเหลืองทอง
หอมแดงสอดไส้ จะมีส่วนผสมคล้ายกับลูกกะปิ นำหอมแดงมาคว้านเนื้อในออกแล้วสอดไส้ นำมาชุบไข่หรือแป้งทอดเช่นกัน นอกจากนั้นก็มี พริกหยวกสอดไส้ ,หมูฝอย หรือเนื้อฝอย , ไชโป๊ผัดไข่, และผัดสด เป็นเครื่องแนม
‘ข้าวแช่’ แต่ละบ้านต่างกันเล็กน้อย ‘บ้านสุริยาศัย’ เป็นข้าวแช่สูตรต้นตระกูลบุนนาค ทว่าก็ได้ รวบรวมมาจากสายสกุลต่างๆ เอาไว้
คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือไทยเบฟฯ กล่าวว่า ข้าวแช่บ้านสุริยาศัย ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ข้าวแช่ถือว่าติดอันดับ Top 5 ของประเทศไทย สมัยก่อนเรียกข้าวแช่ว่า ข้าวน้ำมอญ เป็นการนำข้าวมาใส่น้ำเสิร์ฟในฤดูร้อน
หมูหวานชวนชิม เห็นว่าสำรับนี้ต่างจากที่เคยชิมมาเพราะมี ‘ปลาช่อนแดดเดียวทอดเคลือบน้ำตาล’ หรือ ปลาช่อนแก้ว เชฟแล่ปลาจนบางแล้วทอดจนกรอบ แล้วนำไปฉาบ อีกความพิเศษก็คือ บ้านนี้มี ไชโป๊ผัดไข่ ใส่กระเทียมดอง อร่อยมาก และเนื่องจากบ้านนี้เกิดมาปลายรัชกาลที่ 5 จึงมี หมูสับปลาเค็ม ที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรด นำมาประยุกต์ นึ่งเสร็จแล้วชุบไข่ทอด
ใครต้องการชิมข้าวแช่สูตรนี้ เขาเริ่มขายตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จะสิ้นสุดในเดือน เมษายน 2566 หากยังมีวัตถุดิบอาจจะขายถึงกลางเดือนพฤษภาคม ก็เป็นได้ สนน.ราคา สำรับละ 659 บาท หากสั่งกลับบ้านในชุดแก้วคริสตัล สวยงามเหมาะเป็นของฝากผู้ใหญ่ ราคา 2,995 บาท
'บ้านสุริยาศัย' ร้านอาหารไทยต้นตำรับชาววัง เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น.และ 18.00-22.00 น. ส่วน Tea Room เปิด 10.00-18.00 น. ตั้งอยู่เลขที่ 174 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก โทร. 02 237 8889
- ข้าวแช่ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้
‘ข้าวแช่’ ที่ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ปรุงขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้ง ในเดือนเมษายนเช่นกัน เสิร์ฟที่ ห้องอาหารเฟลอริช ชั้นล็อบบี้ หมูหวานชวนชิม ชอบข้าวแช่ที่นี่เช่นกัน
ซึ่ง “ข้าวแช่” นับเป็นหนึ่งในสำรับของว่างไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต และความพิถีพิถันในการปรุง เชฟชัชษร ประทุมมา หัวหน้าเชฟครัวไทย ได้บรรจงรังสรรค์เมนูข้าวแช่ โดยคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงเป็นข้าวแช่พร้อมเครื่องเคียง ตำรับชาววัง ใช้ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี หุงด้วยกรรมวิธีพิเศษจนได้ข้าวที่เรียงเม็ดสวย
จากนั้นนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอมน้ำข้าวแช่ หอมกลิ่นดอกมะลิที่ปลูกแบบธรรมชาติ เก็บช่วงเช้ามืด และเลือกเก็บ ในช่วงเวลาเช้ามืดเท่านั้น กับข้าวที่นี้มีทั้งหมด 6 เมนู เริ่มจาก
‘หอมแดงสอดไส้ปลายี่สนผัดหวาน’ ใช้หอมแดงโทนลูกใหญ่ คว้านเนื้อในออกและสอดไส้ ปลายี่สนผัดหวาน เข้าไปแทนที่ จากนั้นนำหอมแดงสอดไส้ลงชุบแป้งลงทอดจนกรอบเหลือง
เคล็ดลับการปรุงไส้ปลายี่สนผัดหวาน นำปลายี่สนไปต้มจนสุกและนำมาลอกหนัง แกะก้างออก นำเฉพาะส่วนเนื้อปลาผัดกับน้ำตาลโตนด และน้ำมันหอมเจียวจนได้รสหวานหอม
ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 12:00 – 15:00 น. ในราคาชุดละ 990++ บาทต่อ 1 ท่าน หรือสั่งเป็นสำรับกลับบ้าน ในราคาชุดละ 1,290++ บาท
'ข้าวแช่สินธร เคมปินสกี้' เซตนี้สำหรับซื้อกลับบ้าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่โทร. +66 02 095 9999 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ชองโรงแรมได้ที่ www.kempinski.com/en/bangkok/sindhorn-hotel/
- ข้าวแช่ยุ้ง 7 สูตรมอญ ปทุมธานี
ส่วน ข้าวแช่สูตรมอญ นั้น หมูหวานชวนชิม แนะนำ ข้าวแช่ยุ้ง 7 ชอบข้าวที่หุงมานุ่มๆ สูตรนี้ประยุกต์ให้มีสีสันสวยงาม ด้วยการนำข้าวไปหุงกับน้ำดอกอัญชัน ‘ข้าวแช่’ ภาษามอญเรียกว่า เปิงด้าจก์ แปลว่า ‘ข้าวน้ำ’
ดั้งเดิมทำเฉพาะช่วงประเพณีสงกรานต์ เพื่อนำไปถวายเทวดา และพระสงฆ์ ที่ร้าน ‘ยุ้ง 7’ มีกับข้าว 7 อย่าง รวมปลาสลิดทอด และไข่เค็ม ราคา 459 บาท ขายวันที่ 3-15 เมษายน 2566 เฉพาะวันเฉลิมฉลองสงกรานต์ของชาวมอญ
‘คุณจิ๊บ’ จิตราวดี เสนคำสอน เจ้าของร้านยุ้ง 7 เล่าว่า ช่วงสงกรานต์ ลูกๆหลานๆจะมารวมตัวกัน ประมาณวันที่ 9-10 เมษายน ก็จะช่วยกันเตรียมเครื่องทำขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำพริกแจกญาติพี่น้องและนำไปถวายพระ
วันที่ 13-15 เมษายน ก็จะช่วยกันทำข้าวแช่ เหมือนเป็นวันรวมญาติ ทำอาหารรับประทานในโอกาสพิเศษ วันที่ 14 เมษายน ก็จะมีประเพณีมอญ มีขบวนแห่หางหงส์ มีธงตะขาบฯลฯ
‘คุณจิ๊บ’ เล่าว่าคุณยายเป็นชาวจังหวัดปทุมธานี ‘ข้าวแช่’ สูตรมอญจะใช้น้ำอบกับควันเทียนทิ้งไว้ 1 คืน บ้านนี้ไม่ได้ใช้น้ำลอยดอกไม้ ส่วนวิธีการหุงข้าวก็คือ หุงปกติเสร็จแล้วนำไปล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นทิ้งข้าวไว้ให้สะเด็ดน้ำ ส่วน ‘น้ำ’ ก็นำไปอบควันเทียนทิ้งไว้ 1 คืนเช่นกัน
‘ลูกกะปิ’ สูตรมอญแท้ มีส่วนผสมของเนื้อปลาช่อนย่างจนแห้ง แล้วโขลกให้ฟู เครื่องก็จะประกอบด้วยกระชาย ตะไคร้ ข่า กะปิดีรสไม่เค็มจัด พริกป่นเล็กน้อย ทำค้างคืน รุ่งขึ้นจึงนำมาผัดกับกะทิที่คั้นสดๆ ใส่น้ำตาลปี๊บ กวนจนแห้งแล้วค่อยปั้นเป็นลูกกลมๆ ก่อนเสิร์ฟนำไปชุบแป้งทอด กรอบนอกนุ่มใน
‘ไชโป๊ผัดหวาน’ เป็นอีกเมนู ‘ข้าวแช่’ ร้าน ‘ยุ้ง 7’ อร่อย ถูกใจ หมูหวานชวนชิม ทางร้านใช้ ‘ไชโป๊หวาน’ ผัดกับ หอมแดงซอย ผัดให้เข้ากันแล้วใส่กะทิลงไปเล็กน้อย ผัดจนไชโป๊ใส ตัวกะทิเคลือบบนไชโป๊ ใส่ไข่ไก่ลงไปผัดคลุกเคล้าจนแห้ง หอมหวานชื่นใจจริงๆ เมื่อรับประทานคู่กับข้าว และน้ำอบควันเทียนเย็นๆ
‘พริกหยวกสอดไส้’ ผ่าพริกหยวก คว้านไส้ แล้วใส่หมูสับหมัก 3 เกลอ พริกไทย แล้วนึ่งให้สุก ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนแล้วนำ แป้งผสมไข่ ทอดกรองในกระชอนแล้วห่อพริกหยวก กรุบกรอบ
‘ปลาผัด’ จะนำปลาช่อนแดดเดียวไปตากแดดจนแห้งมากๆ แล้วนึ่งให้สุก แล้วแกะ เอาหนังออก บางบ้านตำด้วยครกให้ละเอียดฟู หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ แล้วใช้น้ำมันเจียวหอมซอย จนกรอบ ก็จะนำปลาลงไปผัด เริ่มเปลี่ยนสี ปลากรอบ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายตามใจชอบ รับประทานกับ ‘แตงโม’
- ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ เพชรบุรี
‘ข้าวแช่’ จังหวัดเพชรบุรี ต้อง ‘ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ’ ตำนานข้าวแช่เมืองเพชร เริ่มจากสมัยรัชกาลที่ 4 เสด็จมาสร้างพระนครคีรี ชาวบ้าน แต่ละหมู่บ้านช่วยกันลงแรงช่วยกัน บรรพบุรุษของ ‘สกิดใจ’ เป็นหนึ่งในนั้นที่ไปช่วยงานและช่วยทำ ข้าวแช่ ในสมัยรัชกาลที่ 4 จนกระทั่งเผยแพร่จากรุ่นสู่รุ่น
จนปัจจุบันนี้รุ่นที่ 5 แล้ว ‘ข้าวแช่แม่เล็ก สกิดใจ’ อำเภอท่ายาง ได้รับรางวัล ‘ข้าวแช่’ ยอดเยี่ยม ของ จังหวัดเพชรบุรี ในงาน ประกวดข้าวแช่เมืองเพชร มีโอกาสถวายสำรับแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ‘คุณปลา’ อภิชณัณฐ์ สกิดใจ ลูกสาว แม่เล็ก สกิดใจ รุ่นที่ 4 เล่าให้ 'หมูหวานชวนชิม' ฟังว่า
“พอเราได้รางวัลประกวดข้าวแช่ และได้ถวายสำรับแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้เรามีแรงบันดาลใจผลิตสินค้าโอท็อป สร้างโรงเรือนให้ได้มาตฐาน อย. เป็นเจ้าแรกในเพชรบุรี และเป็นโอท็อป 5 ดาวระดับประเทศ ข้าวแช่ในจังหวัดเพชรบุรีมีเยอะมาก เพราะเป็นอาหารประจำถิ่น
ข้าวแช่ของแม่เล็กไม่เหมือนเจ้าอื่น เพราะเราใช้วัตถุดิบอย่างดี จากท้องถิ่น ปลายี่สนผัดหวาน เราใช้ปลายี่สนจากบ้านแหลม ดอกเกลือทะเลก็มาจากบ้านแหลม ไชโป๊ผัดหวาน เราปลูกทำไชโป๊เค็มเอง แล้วเอามาผัดจนหวาน ลูกกะปิทรงเครื่องเราจะใช้กุ้งสด กับสมุนไพร ไม่ได้ใส่เนื้อกะปิเลยค่ะ จะมีกลิ่นหอมกระชาย เพราะลูกค้าบางคนไม่ทานกะปิ”
‘ลูกกะปิ’ ที่นี่ไม่ใส่กะปิ ทว่าใส่เนื้อกุ้งสดแทน ทายาทรุ่นที่ 5 ร้านข้าวแช่ เล่าว่า ‘ปลายี่สน’ จะคล้ายกับ ‘ปลากระเบน’ แต่จะมีกลิ่นคาวน้อยกว่า และราคาแพงกว่า ‘ปลากระเบน’
“ปลายี่สน กิโลละ 500 บาท เราสั่งเจ้าประจำ และเราใช้น้ำตาลโตนดแท้ ดอกเกลือทะเลแท้ เราใช้วัตถุดิบของท้องถิ่นทั้งหมด เครื่องเคียงของเจ้าอื่นจะมีแค่ 3 อย่าง คือไชโป๊ ปลา ลูกกะปิ ของเราเป็นโอท็อป ก็พัฒนาเป็น 4 อย่าง เพิ่มหมูเส้นปรุงรส สมัยโบราณใช้เนื้อฝอย ทำเป็นแพคเกจที่ซื้อเป็นของฝากได้ สมัยก่อนข้าวแช่มัดเป็นถุงๆ ไปไม่ถึงไหนก็แตกหก พอเราเป็นโอท็อป 5 ดาว ก็ทำแพคเกจให้ดูดี น้ำใส่ในขวด ข้าวก็ใส่กระปุก แยกกัน”
‘ข้าวแช่’ ขั้นตอนการทำ ‘ข้าว’ ก็คือ หุงข้าวให้สุกก่อนแล้วนำมาขัดให้เหลือแต่แกนข้าวแข็งๆ แล้วนำมาล้างน้ำสะอาดให้ละอองข้าวหมดเกลี้ยง แล้วเอาไปนึ่ง แล้ว ผึ่งให้แห้ง ขั้นตอนการทำเฉพาะ ‘ข้าว’ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ไม่รวมเครื่องเคียงแต่ละอย่าง
เช่น ‘ปลายี่สน’ มาถึงก็ต้องต้มปลาก่อน แล้วแกะเนื้อ อีกวันถึงจะนำไปผัด เช่นเดียวกับลูกกะปิ ผัด 1 วัน ปั้น 1 วัน ทอดอีก 1 วัน ‘น้ำข้าวแช่’ อบควันเทียน 10 รอบให้หอมก่อน ส่วนน้ำลอยดอกมะลิ กับดอกชมนาด (เก็บตอนกลางคืน)ก็เป็นดอกไม้ที่ปลูกเอง แบบปลอดสารพิษ พอจะนำมาขายก็นำน้ำอบควันเทียน กับน้ำลอยดอกไม้ ผสมรวมกัน
หมูหวานชวนชิม ชอบข้าวแช่ร้านแม่เล็ก อร่อย ถูกใจ และราคาไม่แพง นั่งรับประทานที่ร้านชุดละ 50 บาท ซื้อกลับชุดเล็ก 60 บาท ถ้าซื้อชุดใหญ่ 120 บาท รับประทานได้ถึง 2 คนด้วยกัน...
ผ่านเพชรบุรีคราวหน้า คงต้องแวะหม่ำข้าวแช่ร้านนี้แน่นอน แต่ต้องเตือนก่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบข้าวแข็งๆ ร้านนี้เขาทำตามแบบโบราณ ที่บรรพบุรุษเรียนรู้มา ขัดข้าวจนเหลือแต่แกนข้าว เป็นเรื่องที่ทำยาก แต่ก็ยังอนุรักษ์ให้เหมือนเดิม ต้องบอกว่า ‘ปลายี่สนผัดหวาน’ อร่อยถูกใจจริงๆ