วิมล ‘คาเฟ่’ ขนมไทย ‘ฉะเชิงเทรา’ ฟื้นขนมอร่อยฝีมือชุมชน

ออกนอกเมืองกรุงมุ่งแสวงหาคาเฟ่ขนมไทยใกล้บ้าน ค้นเจอ ‘วิมลคาเฟ่’ บนถนนสุวินทวงศ์มุ่งหน้าไปฉะเชิงเทรา ไม่นานก็พบซอยนครเนื่องเขต 17 เลี้ยวเข้าไปตามทางไปวัดหนามแดง ผ่านทุ่งนากันไปพอเพลินจนถึงวัดให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถต่อไปอีกสักครู่

จุดหมายของเราจะอยู่ทางขวามือ ท่ามกลางบรรยากาศที่เราเองยังสงสัยว่าทำไมมาอยู่ไกลจากถนนใหญ่ได้ขนาดนี้  แต่ทุกอย่างล้วนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง

ห้องรับแขกของวิมลคาเฟ่
 

‘วิมลคาเฟ่’ ต้อนรับเราด้วยห้องแอร์เย็นๆ ภายในบ้านชั้นเดียวที่เปิดประตูเข้าไปจะพบห้องรับแขกเล็กๆ มีเคาน์เตอร์วางขนมไทยจัดวางอย่างสวยงามให้เราเลือกชิมราวสิบชนิด

ได้แก่ ทองเอก เสน่ห์จันทร์ ดาราทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ขนมชั้น ตะโก้เผือก หินฝนทอง ผกากรอง ข้าวเหนียวสังขยา กล้วยบวชชี เป็นต้น

ส่วนเครื่องดื่มมีให้เลือกทั้ง ชา กาแฟแบบปกติและที่พิเศษ ได้แก่ กาแฟดำน้ำผึ้ง กาแฟดำมะนาวโซดา กาแฟดำน้ำมะพร้าว ใครไม่ดื่มชา กาแฟ มีโกโก้น้ำผึ้ง น้ำใบเตยน้ำผึ้งมะนาว นมสดลาเวนเดอร์ และนมชมพู ให้เลือกตามชอบ

ขนมไทยเข้ากันได้ดีกับชาจีนร้อนๆ วิมลคาเฟ่จึงมีชาจีนร้อนเสิร์ฟให้ไม่คิดมูลค่า

 

ถามคุณ อดิศักดิ์ ยันตะสี เจ้าของร้าน ว่าเครื่องดื่มชนิดไหนที่เข้ากันได้ดีกับขนมไทย ได้คำตอบว่าเป็นเครื่องดื่มประเภทลาเต้ กับชาจีนร้อนๆ ซึ่งไม่ว่าลูกค้าจะสั่งเครื่องดื่มชนิดไหนทางร้านจะเสิร์ฟชาจีนร้อนให้หนึ่งกาโดยไม่คิดมูลค่าเสมอ

สั่งขนมและเครื่องดื่มแล้ว คุณอดิศักดิ์เชิญให้เปิดประตูชั้นที่สองเข้าไปนั่งรอด้านใน เข้าไปก็ตื่นตาทีเดียว เพราะมีทั้งโต๊ะแบบฝรั่ง มีทั้งตั่งแบบไทยให้เลือกนั่ง แต่ละมุมจัดแสงให้ถ่ายรูปได้สวย โดยเฉพาะในห้องด้านในสุดจัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมราวกับเป็นสตูดิโอถ่ายภาพ รอเพียงเราเข้าไปนั่งก็กดชัตเตอร์ได้เลย

มุมถ่ายภาพด้านในของวิมลคาเฟ่

จะเลือกนั่งตรงไหนดี
ขนมในถาดทองเหลือง

 

เสน่ห์จันทร์ ดาราทอง ผกากรอง ตะโก้เผือก และ หินฝนทอง (ขนมที่ทำมาจากข้าวคั่ว มาเคี่ยวกับกะทิ น้ำตาล รูปร่างเป็นก้อนสีดำคล้ายหินที่ใช้ทดสอบทองคำว่าเป็นทองแท้หรือไม่แท้ จึงเรียกว่า ขนมหินฝนทอง) เสิร์ฟมาในจานลายครามวางในถาดทองเหลือง ช้อน ส้อม เครื่องประกอบบนโต๊ะดูสวยงามละเมียดละไม จนอดไม่ได้ที่จะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพ

คาเฟ่ขนมไทยนี้เกิดขึ้นได้แต่ใดมา สอบถามได้ความว่าเกิดมาจากความตั้งใจของคุณอดิศักดิ์ ที่อยากจะสลัดชีวิตมนุษย์เงินเดือนออกมาสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยนำ ขนมไทย มาเป็นจุดขาย 

“ผมเคยเป็นพนักงานออฟฟิศแล้วเบื่อเลยลาออกไปเป็นพนักงานร้านกาแฟที่โคราช 2 ปี ทำให้ได้เห็นวัฏจักรของธุรกิจร้านกาแฟที่เปิดง่ายแล้วก็เจ๊งง่าย แม้แต่ร้านที่ผมทำงานซึ่งเป็นโรงคั่วเมล็ดกาแฟส่งให้ตามร้านต่างๆ ในที่สุดก็ไปไม่รอดเหมือนกัน เพราะว่าการแข่งขันสูงมาก

ผมเลยคิดว่าถ้าเรากลับมาเปิดร้านกาแฟที่บ้านเราเอง จะมีรูปแบบไหนที่แตกต่างจากคนอื่นและอยู่รอดได้ด้วย มาสรุปว่าต้องเป็นคาเฟ่ขนมไทยเพราะว่าฉะเชิงเทรายังไม่มี สถานที่ตั้งใช้หน้าบ้านเราเองดีกว่า ไม่ต้องมีภาระจ่ายค่าเช่า เงินลงทุนที่ใช้ทำได้เต็มที่ไม่เสียดายอย่างน้อยก็เป็นบ้านของเราเอง”

บริเวณที่เคยเป็นเล้าไก่ วันนี้เปลี่ยนไปเป็นคาเฟ่ขนมไทย

 

ว่าแล้วก็นำเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้ค่อยๆ สะสมประตู หน้าต่างไม้เก่า รวมถึงฝาปะกนเรือนโบราณ  เครื่องถ้วยชามกระเบื้องเก่าบ้างใหม่บ้าง เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ ในวันที่ทุกอย่างพร้อมพื้นที่หน้าบ้านที่เคยเป็นเล้าไก่ก็ได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นคาเฟ่ขนมไทยที่แม้จะไม่หรูหราแต่ก็มีกลิ่นอายของความเป็นไทยที่น่าสนใจ

ขนมผกากรอง ตะโก้เผือก หินฝนทอง และดอกบัวในบึง

 

“ในส่วนของขนมไทยเราไม่ห่วง เรารู้อยู่แล้วว่าคนในหมู่บ้านเราทำขนมอร่อย บ้านไหนทำขนมอะไรอร่อยเราก็ไปขอให้เขาทำให้ ส่วนขนมตระกูลทองก็เป็นของพี่คนหนึ่งเดิมเขาโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก พอได้มาเจอกันเลยมาร่วมกันพัฒนาขนมโบราณอย่าง ขนมหินฝนทอง ซึ่งผมอยากทำออกมาขายมาก เนื่องจากมีเรื่องเล่าที่ค่อนข้างดีเป็นของว่างของนักรบ เรียกได้ว่าเป็นขนมสร้างชาติก็ว่าได้ เป็นขนมที่หาทานยากมีรสอร่อย ตอนนี้เราก็ทำออกมาขายได้สำเร็จ” 

คุณอดิศักดิ์เล่าด้วยความปลื้มใจที่นอกจะได้ฟื้นคืนขนมโบราณแล้ว ยังได้ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอีกด้วย

ชุดถ้วยชา เชี่ยนหมาก ที่ค่อยๆ สะสมไว้ นำมาจัดวางตกแต่งภายในคาเฟ่ ส่วนหนังสือวางไว้เชิญอ่าน

 

‘วิมลคาเฟ่’ เริ่มต้นด้วยมงคลนาม โดยการนำชื่อของพ่อวินัยกับแม่นฤมลมารวมกัน เปิดกิจการครั้งแรกในปลายปี 2562 จากขนมไทยที่วางขาย 2-3 ชนิด ค่อยๆ เพิ่มเป็น 5-7 ชนิด จนมาลงตัววันละ 10-12 ชนิด ร้านเปิดสัปดาห์ละ 3 วัน คือ ศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์

“ร้านนี้มีพนักงาน 3 คน คือ ผม น้องชาย และคุณแม่ ช่วงแรกที่เปิดร้านเรายังไม่กล้าบอกว่าเราเป็นคาเฟ่ขนมไทย จนเข้าปีที่ 2 เรามั่นใจในขนมของเราที่มีความหลากหลายจึงกล้าโพสต์ในสื่อโซเชียลว่าเราเป็นคาเฟ่ขนมไทยในฉะเชิงเทรา

ลูกค้าของเราเรียกได้ว่าเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มจริงๆ เพราะการที่เขามาหาเราต้องตั้งใจมา ผมจึงพยายามตกแต่งร้านให้ใกล้เคียงกับสตูดิโอมากที่สุด มีการจัดแสงเพื่อถ่ายรูปออกมาแล้วต้องสวย

ทุกครั้งที่ผมนำสำรับขนมเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ แล้วลูกค้าถ่ายรูปแชร์ในสื่อต่างๆ ผมมีความสุข

ทั้งหมดของวิมลคาเฟ่ได้ใช้ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีปทุมที่เรียนมาครบทุกด้านเลยครับ”

มุมที่จัดไว้ให้ถ่ายภาพ

สำหรับสาเหตุที่เปิดให้บริการเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน เจ้าตัวบอกว่า 

“ก่อนหน้านี้เคยเปิดทุกวัน พักวันเดียว ผมไม่มีความสุขในการทำ รู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกขังอยู่ในคาเฟ่ เราอุตส่าห์ออกจากชีวิตพนักงานประจำมาเป็นเจ้าของกิจการแล้ว  ผมคิดว่า 3 วันเพียงพอกับชีวิตในครอบครัวของเรา

ทุกวันนี้ พ่อที่เคยมองอย่างเป็นห่วงก็สบายใจ แม่ก็มีความสุขในการไปเก็บดอกบัวในสวนมาแต่งร้าน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสินค้าขายดีที่ต้องสั่งล่วงหน้า น้องชายมีงานทำ ผมเองก็มีความสุขในการดูแลลูกค้า ตอนนี้เรามีแผนที่จะปรุงเรือนไทยขึ้นอีกหลังหนึ่งครับ”

เปลี่ยนเล้าไก่ให้กลายเป็นคาเฟ่ขนมไทยได้อย่างน่าทึ่งแล้ว มารอดูกันต่อว่าเมื่อ วิมลคาเฟ่ ขึ้นไปอยู่บนเรือนไทย บรรยากาศจะสวยงามเพียงใด 

เตรียมนุ่งผ้าไทยไปกินขนมไทยที่ ‘วิมลคาเฟ่’ ฉะเชิงเทรา ก็เข้าทีนะคะ

วิมลคาเฟ่ 

• เปิดให้บริการ เฉพาะวันศุกร์ ถึง อาทิตย์ เวลา 08.30 - 17.00 น. โทร.08 2562 9619
• การเดินทาง ถนนสุวินทวงศ์ เข้าซอยนครเนื่องเขต 17 ขับตามเส้นทางไปวัดหนามแดง เลี้ยวขวาไปตามกำแพงวัดแล้วตรงไปพอเพลิน วิมลคาเฟ่จะอยู่ทางขวามือ
• เฟซบุ๊ก www.facebook.com/Wimolcafe