‘โจ๊กจักรพรรดิ’ ใส่เป๋าฮื้อ-ปลาตกอันดามันโดย ‘ลุงอ้วน กินกะเที่ยว’
เจ้าของเพจดัง ‘ลุงอ้วน กินกะเที่ยว’ เมื่อเปิดร้านอาหารของตัวเองจึงต้องเรื่อง (เครื่อง) เยอะ ร้าน ‘โจ๊กจักรพรรดิ’ เมืองทอง จึงจัดใหญ่สูตร 'โจ๊กฮ่องกง'
ลุงอ้วน กินกะเที่ยว คือเพจเที่ยวไปกินไปของลุงอ้วน - อดิสร ตันเจริญ นักรีวิวอาหาร ที่เรียกว่าเป็น อินฟลู ยุคแรก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะลุงอ้วน เขียนลงใน Pantip มาก่อนเฟซบุ๊ค, ไอจี หลายปี
ทุกวันนี้นักกิน นักรีวิว ยังคงตระเวนกินแล้วเขียนลงเพจลุงอ้วน กินกะเที่ยว พอโควิดมาลุงอ้วนบอกว่างดเดินทางชั่วคราว นั่งอยู่บ้านนาน ๆ ชักเบื่อ จึงตัดสินเปิดร้าน โจ๊กจักรรพรรดิ เมืองทอง
เป๋าฮื้อเต็มคำ
“เริ่มมาจากแฟน (คุณป้า-สายสมร) ชอบทำอาหารอยู่แล้ว ทำโจ๊ก กระเพาะปลา สำหรับงานบุญ เลี้ยงพระ ทำทีเป็นหม้อใหญ่ ๆ พอคนได้ชิมก็ถามว่าขายที่ไหน ๆ
ผมเลยคิดว่าอยู่เฉย ๆ ทำไม ทำขายเลย ตอนแรกคิดว่าจะทำเป็นคีออสเล็ก ๆ ไม่ต้องมีที่นั่ง ให้ซื้อกลับบ้าน ขายสัก 2 ชม.ก็พอ”
แต่คีออสของลุงอ้วนไม่ทันเกิด กลายเป็นร้าน โจ๊กจักรพรรดิ เมืองทอง ใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านออกแบบเป็นร้านอาหาร มีที่นั่งในร้าน มีที่จอดรถ บรรยากาศสไตล์จีนเหมือนนั่งกินโจ๊กในฮ่องกง
ลุงอ้วน กินกะเที่ยว (Cr.FB: โจ๊กจักรพรรดิ เมืองทอง)
“อีกอย่างคือเราชอบกินโจ๊กฮ่องกง เมื่อก่อนบินไปกินบ่อยแทบจะสัปดาห์ละ 2 ครั้ง พอเราจะขายโจ๊กก็คิดว่าต้องเป็น โจ๊กสูตรฮ่องกง เอาพื้นฐานการปรุงมาเลย เช่น ใช้วัตถุดิบฮ่องกง เครื่องปรุงที่ครบรส
บรรยากาศเหมือนอยู่ฮ่องกง
ซึ่งต่างจากร้านอื่นคือ เราใช้แฮมยูนนานเป็นเบสน้ำซุป จากที่ไปฮ่องกงบ่อย ๆ ก็ซื้อมาเป็นขา ๆ ขาละหลายหมื่น ตอนแรกคิดสูตรมีส่วนผสมมากกว่านี้อีกนะ แต่จะขายราคานี้ไม่ได้ เราเลยใช้บางตัวที่เป็นซอส ให้เป็นฮ่องกงมากที่สุด”
ลุงอ้วน กินกะเที่ยว เสริมว่า แม้กระทั่ง ข้าวหอมมะลิ ก็เลือกใช้แบรนด์ที่ผลิตเพื่อส่งขายฮ่องกง ไม่มีขายในเมืองไทย
“มีคนรู้จักเขาแนะนำมา ราคาข้าวตัวนี้จะแพงกว่าราคาปกติในบ้านเรา 30-40% ก็ใช้ข้าวหอมมะลิต้มทำโจ๊ก
ข้าวเราหุงต่างหาก ซุปต่างหาก การ “คน” สำคัญมาก ถ้าคนข้าวไปในทางเดียวกันจะไม่เหลว แต่ถ้าคนไม่เป็น บางทีคนซ้ายทีขวาทีเหลวเลย
คุณป้าสายสมร
แม้กระทั่งซีอิ๊วที่วางบนโต๊ะเราก็เลือกยี่ห้อ ตราแมลงปอ หายากเพราะไม่ได้วางขายทั่วไป เราไปซื้อถึงโรงงานเลย ยังมีซอสอีกยี่ห้อหนึ่งผมก็เลือกมาใช้”
วัตถุดิบดีแล้ว เครื่องต่าง ๆ ในโจ๊ก ลุงอ้วนก็จัดเต็ม
“หมูสับ ไม่ได้ตีเป็นชิ้น เราตีสไตล์หมูนุ่มแต่ไม่ใช่หมูเด้ง เนื้อจะแน่น ฉ่ำ มีรสชาติ ที่อยากให้ชิมอีกอย่างคือ ไข่เยี่ยวม้า มีเจ้าประจำเรียกว่า ไข่เยี่ยวม้าสีทอง
กระเพาะปลา
เป๋าฮื้อแท้ไม่ผสม เรียกว่า เป๋าฮื้อก้อนทอง ขนาดพอดีคำ ส่วนใหญ่ที่เขาใช้เป๋าฮื้อกระป๋องก้อนใหญ่ บางคนไม่เข้าใจว่าเป๋าฮื้ออย่างเดียวกัน สีเดียวกัน ทำไมเจ้านี้ถูกเจ้านี้แพง เราเลือกของฮ่องกงทำไซส์ขาดนี้ กระป๋องละ 57 – 200 เหรียญฮ่องกง
ที่คนสงสัยว่าทำไมถูกหรือแพงราคาไม่เท่ากัน ที่ฮ่องกงเขาจะดูที่หน้าเชฟตรงหน้าฉลากกระป๋อง จะระบุเชฟดัง ๆ ที่ปรุงน้ำแดง ซึ่งจะหอม เอาไปผัดก็อร่อย ส่วนก้อนขนาดใหญ่เราตัดแล้วใช้ซอสเป๋าฮื้อปรุงด้วย”
โจ๊กเป๋าฮื้อใส่ไข่เยี่ยวม้า (Cr.FB: โจ๊กจักรพรรดิ เมืองทอง)
นี่คือที่มาของชื่อ โจ๊กจักรพรรดิ เพราะใส่เป๋าฮื้อ
“เป๋าฮื้อไซส์เล็ก 4 ชิ้น ชามละ 400 บาท เป๋าฮื้อไซส์ใหญ่ 600 บาท จะใส่เครื่องในหรืออื่น ๆ ก็ได้ ใส่ไข่ลวกหรือไข่เยี่ยวม้าก็ได้”
โจ๊กจักรพรรดิ ราคาเริ่มต้น 50 บาท คือโจ๊กหมูสับ / โจ๊กไก่ / โจ๊กเห็ดหอม ถ้าใส่ไข่ 60-80 บาท (ใส่เครื่องใน) โจ๊กเป๋าฮื้อ 400 – 600 บาท
ราดหน้าหมู
ราดหน้าหมู 70 บาท กระเพาะปลา 60 บาท
“ราดหน้าสไตล์ผม ใส่เต้าเจี้ยวหมักแล้วผัด เวลาผัดเส้นให้โดนกระทะ ตอนผัดไม่ใส่ซีอิ๊ว ผัดหรือจี่ให้โดนกระทะจะมีความหอม เส้นก็ต้องหาคุณภาพดี ๆ เพราะบางเส้นผัดแล้วเป็นก้อนกลมเลย เราผัดใส่น้ำมันไฟแรง ๆ”
หมูราดหน้านุ่มมาก แผ่เป็นชิ้นใหญ่ ๆ ลุงอ้วน บอกว่า หมูนุ่มหมักผงธรรมชาติ เบคกิ้งโซดา ไม่มีสารที่เป็นอันตราย ราดหน้า 1 จาน หมูนุ่ม 3 ชิ้นใหญ่
โจ๊กหมูใส่เครื่องใน
“ความที่เราเป็นนักกิน อะไรเล็ก ๆ ไม่เอา กระทั่งถ้วยแก้วในร้านต้องร้อน สะอาด แก้วเลือกใช้เซรามิก พร้อมน้ำชาจากใบชาตราสามม้า ชงเข้มไม่เจือจาง กินให้ชื่นใจ ใครชอบร้อนมีน้ำร้อนเติม น้ำชาฟรีไม่คิดสตางค์”
ยังมีเมนูเด่นคือ โจ๊กปลา
โจ๊กหมูสับไข่ลวก
“ตอนแรกเราไม่คิดจะขายโจ๊กปลา เผอิญมีญาติไปตกปลาเอามาให้บ่อย ๆ แต่ก่อนได้มาก็แจก ตอนนี้เลยคิดว่าเอามาแล่ใส่โจ๊ก และเรารู้แหล่งที่มาด้วย เป็นปลาตกคือตกเบ็ดธรรมชาติ มาจากภูเก็ต ระนองก็มี ปลาเลือกฝั่งอันดามันเนื้อจะแน่นกว่าฝั่งตะวันออก โจ๊กปลาเก๋าอันดามัน เป็นปลาตกขายที่ละ 100 บาท”
โจ๊กไก่
กรณีไม่มีปลาดี ๆ ร้านโจ๊กจักรพรรดิ อาจไม่มีเมนูนี้ อยากรู้ติดตามเพจของร้าน จะเห็นลุงอ้วน โพสต์รูปปลาเก๋า ปลากะพง ตัวเป้ง ๆ หมายถึงแฟนคลับจะได้ชิมโจ๊กปลา และต้องมีวิธีทำให้อร่อยคือ โจ๊กเดือดแล้วค่อยใส่เนื้อปลา และคนไปในทางเดียวกัน เนื้อปลาไม่เละ โจ๊กไม่เหลว จะข้นเนื้อเนียนกำลังดี
“คนถามกันเยอะว่า ทำร้านนี้คุ้มมั้ย...ผมว่าไม่นะ ไม่ได้หวังรายได้มากมาย ทำเพื่อพบปะผู้คน ถ้าหวังรวยคงไม่ขายราคานี้เพราะเราใช้ของดี
ร้านเปิดแต่เช้า 6.00 – 14.00 น. ขายไปเรื่อย ๆ จนกว่าของจะหมด
ร้านเราบอกตรง ๆ ตอนเช้าจะมีซูเปอร์คาร์ ขับรถมาจอดนั่งกิน เราคิดว่าเด็กพวกนี้ปกติไม่นั่งกินร้านแนวนี้ บางคนมากินโจ๊ก 1 ชาม ซื้อกลับบ้าน 4-5 ห่อ”
โจ๊กจักรพรรดิ เมืองทอง ซอย C12 ถนนบอนด์สตรีท โทร.092 248 0111, FB: โจ๊กจักรพรรดิ เมืองทอง