‘อาหารที่มีคอลลาเจน’ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เด้งดึ๋ง จริงหรือ
‘คอลลาเจน’ คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ผิวหนังในร่างกาย ทำหน้าที่เหมือนกาวยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ให้แน่นและเต่งตึง แต่จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น จึงมีงานวิจัยระบุว่า ‘อาหารที่มีคอลลาเจน’ ช่วยได้
วงการความงามมีครีมบำรุงผิวผสมคอลลาเจน อาหารเสริมคอลลาเจนในรูปแบบแคปซูลและผงชงดื่ม จนถึงเครื่องดื่มคอลลาเจน แต่ถ้าอยากให้ผิวยืดหยุ่นอย่างเป็นธรรมชาติในราคาไม่แพง อาจต้องใช้ตัวช่วยด้วย อาหารที่มีคอลลาเจน
ในอเมริกาประเมินว่า ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวและอาหารเสริมคอลลาเจนที่มีราคาสูงอยู่แล้ว พอถึงปี 2030 จะมีมูลค่าแตะ 19.9 พันล้านดอลลาร์
คอลลาเจนในสกินแคร์และอาหารเสริม ไม่เพียงตอบปัญหาเรื่องความงาม หากช่วยดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ผู้มีปัญหาเรื่องข้อต่อ ข้อเสื่อม จากผลของคอลลาเจนที่ลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยคอลลาเจนจะเริ่มลดลงเมื่อช่วงปลายอายุ 20 ปี และหลังอายุ 40 ปี คอลลาเจนจะลดลงราว 1% ทุกปี
ประโยชน์ของคอลลาเจน ในแง่ความงามช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื่น ดูหนุ่มสาวอ่อนเยาว์ ช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง
ยังมีบทบาทสำคัญอื่น ๆ เช่น หน้าที่ในการพยุงโครงสร้างของผิวหนัง และมีส่วนในกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังเวลาเกิดบาดแผลหรือมีอาการบาดเจ็บ ลดการเปราะแตกของเล็บ ช่วยชะลอการสลายของมวลกระดูก รักษาสุขภาพของข้อต่อในผู้สูงอายุ ช่วยลดอาการปวดข้อต่อ ป้องกันโรคกระดูกเสื่อม ฯลฯ
ขาดคอลลาเจนแล้วเป็นอย่างไร : กว่า 80% ของเซลล์ผิวหนังในร่างกายมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ เมื่อคอลลาเจนลดลงก็เหมือนความอ่อนวัยขาดหายไป เริ่มเข้าสู่วัยชรา ผิวหนังหย่อนยาน ผิวขาดความยืดหยุ่น
ด้านความงามช่วยได้ด้วยการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนบนผิวหนัง เช่น ฉีดคอลลาเจนสังเคราะห์ หรือสารเติมเต็ม (Filler) กลุ่มไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
แต่หลายคนบอกว่า อยากเพิ่มคอลลาเจนตามธรรมชาติ จึงเกิดเทรนด์กิน อาหารที่มีคอลลาเจน รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมกับการดูแลตัวเองด้วยศาสตร์แอนไท-เอจจิ้ง นอกจากช่วยเรื่องผิวพรรณแล้วยังดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยชะลอวัยชรา
อาหารที่มีคอลลาเจน : บางคนบอกว่าเป็นอาหารต้านวัย หรือแอนไท-เอจจิ้งด้วย ปัจจุบันงานวิจัยที่ระบุว่าคอลลาเจนที่รับเข้าสู่ร่างกายส่งผลโดยตรงต่อผิวและสุขภาพนั้นมีไม่มากนัก ทว่ามีรายงานบางชิ้นระบุว่า เมื่อรับคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเกิดการแตกตัวเป็นกรดอะมิโนแล้วกระจายไปยังส่วนของร่างกายที่เป็นโปรตีน
แต่เนื่องจากร่างกายไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนจากอาหารได้โดยตรง แต่จะแตกตัวได้เมื่อผ่านกระบวนการย่อยอาหาร จากนั้นจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นการกินอาหารที่มีคอลลาเจนจึงต้องกินควบคู่กับสารอาหารบางอย่าง เพื่อใช้สังเคราะห์เป็นกรดอะมิโนและช่วยในการดูดซึม เช่น วิตามินซี ผักใบเขียวเข้ม ผักผลไม้สีแดง สีส้ม
6 อาหารที่มีคอลลาเจน
1 ซุปกระดูกสัตว์ จากหมู วัว คนญี่ปุ่นชอบราเมงทงคตสึ หรือซุปกระดูกหมู เมื่อต้มเคี่ยวนาน ๆ แล้วน้ำซุปจะมีสีขาวข้น ส่วนซุปกระดูกวัวได้ชื่อว่ามีคอลลาเจนไทป์ I (Type I) มากที่สุด
2 หนังไก่, กระดูกไก่, หนังหมู มีรายงานระบุว่า ในอเมริกา ผู้หญิงวัยกลางคน (39-59 ปี) กินอาหารเสริมคอลลาเจนที่สกัดจากกระดูกอ่อนไก่ ซึ่งมีคอลลาเจนไทป์ II ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว แต่ถ้าไม่อยากจ่ายเงินซื้ออาหารเสริมราคาแพง ทำไก่สับผสมเนื้อหนังและกระดูก ปรุงอาหารอย่างที่ชอบได้
3 เครื่องในสัตว์ ได้แก่ ตับ หัวใจ ไต สมอง เอ็น ซึ่งมีคอลลาเจนไทป์ I ใครกินไม่เป็นตัวเลือกอื่นคือ หนังสัตว์ กระดูก และเอ็น บดผสมกันหรือหาวิธีปรุงกินให้อร่อยได้
4 ผลไม้ประเภทเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ มีวิตามินซีสูง ช่วยสังเคราะห์และดูดซึมคอลลาเจน ช่วยให้ผิวสดใสขึ้น
5 บร็อกโคลี ผักที่มีเส้นใยและวิตามินซีช่วยสังเคราะห์และนำคอลลาเจนไปใช้
6 น้ำว่านหางจระเข้ เมือกที่เป็นวุ้น ๆ ในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานแผล ทำให้เย็น คนโบราณใช้ทาแผลที่เกิดจากไหม้ ผิวแพ้แดด ว่านหางจระเข้หรือ Aloe vera จึงกลายมาเป็นสารสกัดในอาหารเสริมที่มีคอลลาเจน
อาหารที่มีคอลลาเจน รองลงไปที่กินได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน เช่น ไข่ขาว สาหร่ายทะเล เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาซาร์ดีน แซลมอน หอยเป๋าฮื้อ หอยนางรม ผักใบเขียวเข้ม ผักผลไม้สีส้มสีแดง อโวคาโด ถั่วฝัก มะเขือเทศ อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ
อ้างอิง : eatingwell.com
