‘อาหารทะเล’ สดๆเป็นๆ ที่ ‘ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย’ ซอย ‘แบริ่ง 35/1’
‘อาหารทะเล’ คอนเซ็ปต์ ‘ไม่สดไม่ดีไม่มีไม่ขาย’ ที่ ‘ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย อยู่ใน’ ซอย ‘แบริ่ง 35/1’ เป็นร้านอาหารบ้านๆ ที่รสชาติไม่ธรรมดา ราคาจับต้องได้ อาทิ ‘ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว’ 850 บาท ปลาเก๋า กิโลละ 830 บาท ‘หอยมะระ’ สดหวาน ทำได้ทั้งซาชิมิ และคั่วพริกเกลือ
อาหารทะเล ภายใต้สโลแกน ไม่สดไม่ดีไม่มีไม่ขาย รับประกันความ อร่อย โดย หมูหวานชวนชิม ที่ ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย แห่งนี้ เจ้าของร้านฉายา เบิร์ด เทพา หรือชื่อจริงมีนามว่า พิพัฒน์สิฐ รุ่งถาวร อดีตเด็กช่างกล บุรณพนธ์ รุ่น 27 เล่าให้ฟังว่า
เนื่องจากตั้งวงดื่มกินกับเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นประจำ จนกลายมาเป็นเจ้าของ ร้านอาหาร เขาและแม่ รักในการทำอาหาร ชูวัตถุดิบที่สดใหม่ โดยเฉพาะ อาหารทะเลสดๆเป็นๆ เท่านั้นจึงจะ อร่อย ได้ชิม ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ต้องยกนิ้วให้ ฝีมือระดับภัตตาคารจริงๆ เมนูนี้ถ้าไปกินที่ร้านอาหารจีน ราคาไม่ต่ำกว่า 1,700 บาท แต่ที่นี้ 850 บาท ถือว่าราคาดีมากๆ
อาหารทะเล ที่ ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย มองไปครั้งแรกไม่นึกว่าเป็นร้านอาหาร เนื่องจากประตูทางเข้าร้านเล็กๆ เดิมเป็นบ้านที่อยู่อาศัย ภายหลังกลายเป็นร้านอาหาร มีบ่อเลี้ยงปลาทะเล และปลาน้ำจืดอย่างปลาทับทิม และปลากะพง บ่อหอยและปู ฯลฯ ต้องเดินผ่านบ่อต่างๆ เข้าไปข้างใน ก็จะเห็นว่าเป็นร้านอาหาร
หมูหวานชวนชิม ได้หม่ำ ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ก็รู้แล้วว่าฝีมือไม่ธรรมดา เนื้อปลาสดเด้งหวาน ปรุงมาได้รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นซีอิ๊ว อีกเมนูที่ชอบมากก็คือ หางหมูกรอบทอดน้ำปลา ทอดมาใหม่ๆสดๆ จิ้มกับซีอิ๊วหวาน เขาเสิร์ฟน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดมาด้วย โอ้โหเอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม แถมยังติดใจ กบทอดกระเทียม ราคา 150 บาท ฟูเต็มจาน กรอบ หอมกระเทียม เคี้ยวเพลิน
เบิร์ด-เทพา หรือ พิพัฒน์สิฐ รุ่งถาวร เจ้าของร้านวัย 39 ปี เล่าว่า เคยทำร้านอาหารกับเพื่อน ทำงานบริษัทรปภ. ชีวิตระหกระเหินเหลือเงินกลับบ้านมาแค่ 600 บาท รุ่นน้องมาหาที่บ้านบอกว่าอยากกินโครงไก่ย่าง ช่วยทำให้หน่อย ก็เลยทำให้ ในบ้านมีเครื่องปรุงอะไรก็เอามาหมัก
พอกินแล้วรุ่นน้องคนนั้นสั่งว่าพรุ่งนี้ขอ 100 ไม้ จะเอาไปขายที่ตลาดคลองเตย ทำให้มีเงินเพิ่มเป็น 1,000 บาท สะสมเงินแล้วลงทุนต่อเรื่อยมาจนกลายเป็นกิจการ ร้านอาหาร ที่มั่นคง เพราะความซื่อสัตย์และจริงใจในการให้บริการ
“รุ่นน้องเขาเป็นอิสลาม เห็นว่าเราแย่ ก็เลยเอาโครงไก่มาให้ 3 กระสอบ เราก็ลงทุนซื้อของ ทำโครงไก่ย่างหน้าเซเว่น วันแรกทำ 200 ไม้ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงขายหมด จากเตาหนึ่งเพิ่มเป็น 2 เตา พอเก็บเงินได้ ผมก็ลงทุนขาย หอยนางรม แพคขายวันละ 20 ถุง วันหนึ่งกำไร 500 บาท ส่วนร้านนี้ก็เริ่มจากเพื่อนมานั่งกินเหล้าที่บ้าน
ซื้อกับข้าวมากิน ไม่อร่อย ก็เลยให้แม่ทำ เพื่อนบอกว่าทีหลังไม่ต้องซื้อ จ้างแม่ทำดีกว่า เริ่มทำทีละเล็กทีละน้อย เดิมมีแค่ 2 โต๊ะ ขยายเป็น 5 โต๊ะ มีแต่พรรคพวกกันนี่แหละครับ กินแล้วบอกปากต่อปาก ขายไปค่อยๆทำร้านไป เปิดได้ 2 เดือนโควิดก็มา ปิดไป 3 ปี ร้านก็พังต้องซ่อมพื้นใหม่หมดเพราะเป็นไม้อัด”
อาหารทะเลสดๆเป็นๆ เลี้ยงปลาไว้ในระบบน้ำทะเล ดัดแปลงเองจากที่ได้ความรู้มาจากธนาคารปู จังหวัดตราด และเพชรบุรี โดยค่อยๆเรียนรู้ทีละอย่าง อาหารทะเล คัดวัตถุดิบเองจากทะเลตะวันออก และรักษาคอนเซ็ปต์ ไม่สดไม่ดีไม่มีไม่ขาย
“เราขายแต่ของเป็น อย่างปลาช่อนวันนี้ก็ไม่มี เพราะผมใช้ปลาช่อนนา ถ้าไม่ใช่ปลาช่อนนา ผมก็ไม่ขาย เราต้องดูเป็น ปลาช่อนนาจะตัวป้อมๆสั้นๆ ถ้าตัวยาวๆเป็นปลาช่อนเลี้ยง เกล็ดก็จะไม่เหมือนกัน เด็ดๆที่นี่คือ ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว เราขายไม่แพง คนกลางๆ กินได้
มีปลากุสลาด หอยมะระ เอามาทำซาชิมิ ปลาตัวหนึ่งบางทีทำได้ 3 เมนู อย่างปลาคังจากเมืองกาญจบุรี ตัวละ 1,100 –1,200 บาท หนัก 3 โล ผมจะทำ 3 เมนู ต้มยำ ลวกจิ้ม ผัดฉ่า บางคนบอกว่าทำแบบผมเปลืองไฟคุ้มเหรอ แต่ผมเคยเป็นคนกินคนเที่ยว ผมว่าปลาสด ปลาเป็น ทำอะไรก็อร่อย ปลาสดจริง ฟรีชน้ำแข็ง ไม่อร่อย ไม่มี สู้เราไม่ขายจะดีกว่า”
ปลาฉลามตัวหนึ่งหนักประมาณ 2 กิโลครึ่งราคา 1,000 บาท ทำได้ 3 เมนูเช่นกัน ทางร้านจะนำกระดูกปลาไปทำต้มยำ เนื้อปลานำไปผัดฉ่า ผัดพริก นานๆ จะมีปลากระเบนมาครั้งหนึ่ง 3-4 กิโล ชุบแป้งทอด ผัดฉ่า ก็ อร่อย ใครที่ชอบเมนู ‘หอย’ ที่นี่หอยทุกชนิดล้วนยังมีชีวิตอยู่ อาทิ หอยหวาน หอยชักตีน หอยมะระ หอยจอบ หอยเม่น (ไข่หอยเม่น) ขายตัวละ 80 บาท หากตัวใหญ่ 150 บาท
วันนี้ หมูหวานชวนชิม ได้หม่ำ หอยนางรม จากบางพระ จังหวัดชลบุรี เนื้อหนานุ่ม หวาน หอม เพราะว่าสดมาก กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด โรยหอมเจียว แกล้มใบกระถิน ฟินไม่รู้จบ เบิร์ด เทพา เล่าว่า หอยนางรม มีหลายสายพันธุ์ อาทิ หอยบ้าน หอยปีกไม้ หอยใต้ หอยหิน หอยแขวน หอยเลี้ยง
ทว่าทางร้านเลือกเฉพาะ ‘หอยหิน’ เป็นหอยที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกเมนูประทับใจก็คือ ต้มยำปลาเก๋า เป็นปลาเก๋าดอกแดง เนื้อขาวฟู เป็นต้มยำน้ำใส หอมกลิ่นผักชีฝรั่งลอยมาเตะจมู ซดน้ำซุปชื่นใจ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม ไล่ตามกันมาอย่างมีจังหวะที่ดี
เมนูที่ประทับใจสุดๆอีกจานก็คือ หางหมูกรอบ คุณเบิร์ดเล่าว่า กว่าจะได้สูตรนี้ ทำหม้อที่บ้านไหม้ไปหลายใบจนแม่ด่า (ฮา) เนื่องจากเขาชอบกินหางหมูย่าง แต่ไม่กรอบ จึงคิดว่า 3 ชั้นทอดกรอบได้ หางก็น่าจะทำได้ ก็เลยคิดค้นวิธีทำจนลงตัว กรอบตลอดหางแทะมันมาก จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือ ซีอิ๊วหวาน ก็ อร่อย ‘ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว’ ไม่ต้องพูดถึง อร่อย อยู่แล้ว
ยำกบ นี่สิเป็นเมนูแปลกสำหรับ หมูหวานชวนชิม ตั้งแต่เกิดมาเคยกินเขียดทอดกรอบทั้งตัว กับกบย่างสมุนไพร ในตลาดเช้าแถวๆภาคอีสาน เมนูนี้ยังไม่เคยได้ลิ้มรส “ยำกบเป็นแบบโบราณ ก็จะใส่กะทิ ใส่หัวปลี เป็นสูตรที่ย่าเคยทำ เราเป็นคนท้องนา ก็เลยทำรสชาติป่าๆ บ้านๆ เหมือนทำกินเองไม่ได้ทำขาย เครื่องเราไม่หวง จัดเต็มไปเลย
แม่ผมเป็นคนสุพรรณ ย่าผมเป็นคนท้องนาบางเสาธง(สมุทรปราการ)ก็คล้ายๆกันทำอาหารรสชาติจัด สมัยนี้เขายำกบใส่มะม่วง ไม่มีใครใส่หัวปลีหรอก เป็นสินค้าขายดีของทางร้าน เน้นความสดจะไม่มีกลิ่นคาวเลย ปลาก็เหมือนกัน ผมใช้ปลาเบ็ด เวลาเขาตกมาก็จะเอามาให้เราเลย
ส่วนมากก็จะมีของตามฤดูกาล อย่าง ช่อนทะเล ปลาสร้อยนกเขา ปลาทูน่าก็มีแต่เราเอามาบ่มก่อน 3 วัน ข้าวต้มปลาเราก็อร่อยไม่คาว เราลองจากปลากะพงก่อน ใส่ข่าแห้ง มีกลิ่นหอมๆ ข้าวต้มปลาผมขาย 80 บาท”
ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย เป็นร้านอาหารไทยแบบบ้านๆ รสชาติอร่อยเข้มข้นถูกใจ มีทั้ง อาหารทะเล และ อาหารป่า อาหารไทย อีสาน อาหารตามสั่งอย่างผัดกะเพรา ข้าวผัด ฯลฯ ก็มีนะจ๊ะ
เป็นอีกแหล่งโอเอซีส ที่ 'หมูหวานชวนชิม' คงต้องแวะไปฝากท้อง บ่อยๆถ้ามีโอกาส เวลาช่วงค่ำคืนของ'วันเสาร์' เริ่มต้นที่เวลา19.30 น. มีดนตรีบรรเลงร้องเพลงสดด้วยนะจ๊ะ
‘ร้านจุดนัดพบ ณ. บ้านสหาย’ ซอยแบริ่ง 35/1 สำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดบริการ อังคาร-วันอาทิตย์ 11.00-22.00 น. โทร. 091 806 7412 (เครื่องดื่มซื้อมาได้เลยไม่คิดค่าเปิด ร้านนี้เน้นขายอาหาร)
หมายเหตุ: ความเก๋อีกอย่างก็คือ ร้านอาหาร แห่งนี้ ตัวบ้านและบางโต๊ะอาหารอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร โต๊ะที่เหลืออยู่ในเขตสมุทรปราการ
ส้มตำปูปลาร้าใส่หมูยอแซ่บมาก
