ปักหมุดร้านอร่อย ‘ทรงวาด’ พลาดไม่ได้แล้ว
ลัดเลาะไปหาของกินอร่อยบนถนนทรงวาด เริ่มต้นกันที่ตึกแขกบริเวณตัดกับถนนราชวงศ์ เดินตรงมาจนเกือบสุดถนน แล้วมุดตรอกสะพานญวนไปกินไอศกรีมหัวโนมที่ร้านพิเศษตบท้าย
มัดรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ‘ทรงวาด’ ไว้เป็นเรื่องเดียวกัน ปากท้องสำคัญอย่าให้เป็นปัญหา ทริปเดินกินวันนี้เริ่มต้นกันที่ ขนมจีบอาเหลียง (โทร. 089 133 0640) ร้านรถเข็นสุดคลาสสิกที่มีหม้อนึ่งขนมจีบเป็นทองเหลือง ร้านอยู่ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อตรงข้ามกับตึกแขก หรือ ห้าง เอ. ที. อี. มัสกาตี (A.T.E Maskati) นำเข้าผ้าจากอินเดียมาขายในสมัยรัชกาลที่ 5 แม้วันนี้จะปิดทำการแต่อาคารยังคงสวยงามเหนือกาลเวลา เป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเลยสำหรับสายถ่ายรูป
ตึกแขกมุม ถ.ทรงวาดตัดกับ ถ.ราชวงศ์ ป้ายสีแดงตรงมุมภาพเป็นที่ตั้งร้านขนมจีบอาเหลียง
ส่วนสายกินกลับมาที่ ขนมจีบอาเหลียง กันต่อ มีให้เลือกไส้กุ้งกับไส้หมูสับเป็นขนมจีบตำรับแต้จิ๋ว ทีเด็ดอยู่ที่กระเทียมเจียวราดให้พูนๆ กับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วมีพริกผสมเพิ่มความเผ็ดเปรี้ยว รวมกลิ่นหอมของกระเทียมเจียวเข้าไปอีก จะยืนกินหน้าร้านหรือซื้อใส่กระทงรองใบตองเดินกินก็ไม่มีใครว่า
เดินไปกินไป ตึกก็สวยรูปก็อยากจะถ่าย มือก็มีของกินใจเย็นๆ ค่ะ เดินมาอีกหน่อยมานักพักจิบน้ำที่ เอ้กแพลนท์ สมู้ตตี และบาร์น้ำผลไม้ (Eggplant Smoothie & Juice Bar โทร.08 1298 7098) ที่อยู่ฝั่งเดียวกับร้านขนมจีบอาเหลียงเพียงไม่ถึงห้าสิบก้าว
ร้านนี้ขายน้ำผลไม้ปั่นแบบแยกกาก มีความน่าสนใจ คือ เปลี่ยนผักผลไม้ที่กินยากให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่กินได้ง่ายๆและให้ผลดีต่อสุขภาพในราคาที่จับต้องได้ เมนูเด่น ได้แก่ น้ำมะเขือม่วงผสมผักผลไม้ คนรักพืชผักผลไม้เรียนเชิญร้านนี้
น้ำแคขาว น้ำลางสาด ชาไมยราบ เครื่องดื่มน่าสนใจของร้านเอฟวี
ถ้าสนใจเครื่องดื่มที่แปลกไปกว่านี้กรุณาข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้าม เราจะชวนไปชิมชาไมยราบที่ร้าน เอฟวี (F.V Fruit & Vegetable โทร. 08 1866 0533) ใครเลยจะคิดว่าวัชพืชริมทางจะนำมาทำเป็นชาที่กินแล้วเข้าคู่กันดีกับขนมสัมปันนีได้อย่างเข้าที ซึ่งมีให้เลือกจิบแบบชาร้อนและเย็น
แนวคิดน่าทึ่งของร้านเอฟวี คือ การนำสิ่งที่ไม่เป็นที่ต้องการมานำเสนอให้เห็นถึงคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นการเรือนไทยภาคอีสานที่ไม่มีใครเหลียวแล มาประกอบร่างใหม่ภายในตึกแถว กลายเป็นสไตล์การตกแต่งของร้านที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าไต่บันไดขึ้นไปจิบเครื่องดื่มกินขนมได้บนชานบ้านอีกด้วย
เรือนไทยภาคอีสานที่ซ้อนอยู่ในตึกแถว การนำสิ่งที่คนไม่เหลียวแลมาทำให้คนเหลียวมองในสไตล์ของเอฟวี
นอกจากวัชพืชแล้ว เอฟวียังคัดเลือกผักผลไม้จากเกษตรกรรายย่อยที่ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำของว่างและเครื่องดื่ม
เมนูเด่นของเอฟวี เราแนะนำเป็นไอติมเกล็ดน้ำแข็ง มีให้เลือกตั้งแต่ ไอติมเกล็ดน้ำแข็งมะขามแดงเสิร์ฟพร้อมข้าวแต๋น ไอติมเกล็ดน้ำแข็งฝรั่งพริกกับเหลือ ไอติมเกล็ดน้ำแข็งส้มโชกุน ช่วงนี้มังคุดออกเยอะ มีไอติมเกล็ดน้ำแข็งมังคุดให้กินคลายร้อนได้ดีเลย
ร้านอีกา นำเสนออาหารไทยที่ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพทั่วไทย
เดินต่อจากร้านเอฟวีไม่ไกลจะพบกับร้าน อี-กา (EGA โทร.081 565 2028) ร้านเก๋อีกร้านของ ศิริวรรณ ธรณนิธิกุล ดีไซเนอร์เจ้าของร้าน It’s Happened to be A Closet ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี
หากร้านนี้มีคอนเซปต์เป็นร้านอาหารไทยแบบบ้านๆ ที่ปรุงวัตถุดิบชั้นดีมาจากทั่วประเทศไทย เช่น แกงไตปลา แกงป่า แกงมัสมั่น หมี่กรอบ รวมไปถึงกุ้งเผาอยุธยา
ร้านกว้างขวางนั่งสบาย มีหลายมุม จะมานั่งกินมื้อกลางวันสบายๆ หรือ กินมื้อค่ำก็น่าสนใจเพราะบรรยากาศจะสวยเก๋ไปอีกแบบ
ตึกผลไม้ ถนนทรงวาด ที่มีปูนปั้นประดับอาคารเป็นรูปผลไม้นานาชนิด
แต่ถ้าใครอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อสักชามสองชาม เดินตามกลิ่นหอมๆ ของเนื้อตุ๋นในหม้อร้อนๆที่ร้าน โรงกลั่นเนื้อ (โทร.063 830 6335) ที่อยู่ไม่ไกลได้เลย ถ้ามาเที่ยงคิวจะยาว ลองมาก่อนเที่ยงหลังเที่ยงไปแล้วน่าจะสบายๆ
น้ำซุปเป็นการผสมผสานระหว่างไขกระดูกวัวกับเครื่องยาจีน จะกินแบบชามเดี่ยวๆ หรือจะกินแบบหม้อไฟร้อนๆ ให้ถึงใจเลือกได้ เนื้อตุ๋น เนื้อน่องลาย ลูกชิ้น เอ็นแก้ว มีให้เคี้ยวครบ
ชอบใจตรงที่มีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ ธรรมดา 95 บาท คุ้มค่า 150 บาท ร่ำรวย 250 บาท ชวนเพื่อนที่ไม่กินเนื้อเข้าร้านได้ มีเมนูข้าวหน้าไก่และก๋วยเตี๋ยวไก่ให้บริการ อย่าลืมสั่งปาท่องโก๋มากินคู่กันด้วยนะ ฟังดูเหมือนไม่ชินแต่กินแล้วเข้ากันได้อย่างน่าแปลกใจ
แสงสวยงามยามบ่ายภายในอาร์ทีเซีย ทาร์ตบาร์
แวะพักดื่มชากับขนมไทยในรูปแบบทาร์ตสุดน่ารักกันที่ อาร์ทีเซีย ทาร์ตบาร์ (Arteasia Tart Bar โทร.09 4659 6653) กันค่ะ ร้านนี้จะว่าลับก็เหมือนจะลับ เพราะตั้งอยู่บนชั้นสองของตึกผลไม้ ต้องผลักประตูจากชั้นล่างเดินตามทางแคบๆ ขึ้นบันไดไปชั้นบน ลำบากนิดหน่อย แต่คุ้มค่า เพราะร้านสวยเก๋เหลือเกิน มองเพลินยามบ่ายที่แสงแดดทะละกระจกสีสาดลงไปตามผนังและพื้นห้อง ที่นี่ติดแอร์เย็นฉ่ำห้องน้ำก็สะอาดดีต่อใจ
เทสติ้ง เทสต์ เมนู จากอาร์ทีเซีย ทาร์ต บาร์
เมนูอาหารมีชาร้อนเย็นกลิ่นหอมๆให้จิบคู่กับทาร์ตขนมไทยสุดน่ารัก ถ้าไปหลายคน แนะนำให้สั่ง เทสติ้งเซ็ต ประกอบไปด้วยทาร์ตขนาดเล็กกว่าขนาดปกติ จำนวน 5 ชิ้น ได้แก่
- Golden Drops ทาร์ตที่ซ่อนสาคูแห้วเอาไว้ข้างใน คลุมด้วยมูสกะทิ ตกแต่งด้วยทองหยอดจิ๋ว
- Going Banana ทาร์ตกล้วยบวชชี โมจิ รสหวานมันตัดเลี่ยนด้วยไข่เค็มชิ้นเล็ก
- White Wine Champignon ทาร์ตเห็ดชอมปิญองไวน์ขาว และมอซซาเรลล่าชีส ทาร์ตคาวชิ้นเดียวในชุด
- Golden Bean Mochi โมจิเสาวรส ถั่วทอง โรยมะพร้าวงาดำ
- Lemon Lavender ครีมมะนาว มูสลาเวนเดอร์ ตกแต่งด้วยอัลมอนด์
ถ้ามาคนเดียวเลือกได้ตามอัธยาศัย เราตอบไม่ได้เพราะชอบไปทั้งหมด
แวะถ่ายรูปกับซาลาเปายักษ์และพักชิมกู่หลงเปาเจ้าอร่อยได้ที่หน้าร้าน
เดินต่อไปจนทางเข้ามัสยิดหลวงโกชาอิศหาก มัสยิดสไตล์ยุโรปหนึ่งเดียวบนถนนทรงวาด จะพบภาพวาดบนกำแพงรูปซาลาเปาสีสดใสถ่ายรูปออกมาได้แสงเงาที่สวยเลย หันมาดูหน้าร้านกันสักหน่อย ใครชอบกินซาลาเปาไม่ควรผ่านเลยร้าน กู่หลงเปา นอกจากจะเป็นซาลาเปาโบราณที่ขายกันมานาน 5 รุ่น เป็นตำนานของทรงวาดแล้ว ยังเป็นซาลาเปาแฮนด์เมดทุกขั้นตอนเลย
กู่หลงเปา เป็นซาลาเปาสูตรแต้จิ๋วมีไส้หมูสับไข่เค็ม ไส้ถั่วหวานงา ไส้เผือกกวน หมั่นโถว แป้งซาลาเปาสีจะออกเหลืองนวล เนื่องจากมีส่วนผสมของมันเทศ สายแป้งอย่างเรายกนิ้วให้เลย ไส้ก็ถูกใจนะคะ
ลูกชิ้นปลาในตำนานของร้านลิ้มเหล่าซา
ใครชอบกินลูกชิ้นปลาเนื้อเด้งๆ ยกมือขึ้น เดินตรงไปอีกหน่อยก่อนถึงลานจอดรถที่มีภาพวาดรูปช้างตัวโตๆ จะมีซอกตึกเล็กๆ เป็นที่ตั้งของร้าน ลิ้มเหล่าซา (โทร.08 1339 1299) ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าของฉายาลูกชิ้นเต้นได้ เนื่องจากใช้เนื้อปลาร้อยเปอร์เซ็นต์มาตีและนวดจนเมื่อโยนลงบนโต๊ะลูกชิ้นเด้งกระดอนขึ้นมาเหมือนเต้นระบำ
เปิดขายมา 80 ปี เย็นๆ จะเห็นลูกค้ายืนรุม บ้างจอดรถสั่งก๋วยเตี๋ยวเข้าไปนั่งกินในรถ แต่ในร้านก็มีที่ให้นั่งกิน ลูกชิ้นซื้อกลับบ้าน หรือจะนำไปต่างประเทศก็ได้ คุณพี่เจ้าของร้านแนะนำวิธีแพ็คและขั้นตอนการนำออกมากินได้อย่างคล่องแคล่ว ว่าแล้วก็ซื้อกลับบ้านด้วยค่ะ
นั่งกินก๋วยเตี๋ยวลิ้มเหล่าซาในซอกตึกก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ตบท้ายกันด้วยไอศกรีมกันนะคะ ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามร้านลิ้มเหล่าซา หันหน้าไปทางร้านกู่หลงเปา จะมีตรอกเล็กๆ ก่อนถึงกู่หลงเปา ชื่อตรอกสะพานญวน เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะไม่ต้องลังเล ในตรอกจะมีร้านไอศกรีม 2 ร้านอยู่ติดกันเลย สามารถกินได้ทั้ง 2 ร้านเพราะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน
ร้านแรกมีชื่อว่า PIECES (พีส-เซท หรือ พิ-เศษ โทร. 09 1052 9562) ทางร้านอธิบายว่าตั้งใจให้พ้องเสียงกับคําว่า "พิเศษ" ในภาษาไทย ที่ที่มาจากโครงสร้าง สิ่งของ วัสดุ รวมถึงวัตถุดิบ ที่เราตั้งใจทำในแต่ละขั้นตอน สิ่งไม่เข้ากันกลับเข้ากัน ชิ้นส่วนทุกชิ้นสำคัญและพิเศษมาก
แบ่งพื้นที่ออกเป็น Pieces Café ชั้น 1 Pieces Tattoo ชั้น 2 และ Pieces Bed ชั้น 3 ในส่วนคาเฟ่ค่อนข้างกะทัดรัดเลย มีกาแฟให้บริการด้วย แต่เราชวนชิม ไอศกรีมหัวโนม ค่ะ ไอศกรีมมะพร้าวโฮมเมดในขนมปังอบรูปหัวนม
เดิมทีเจ้าของร้านอยากทำขนมปังรูปหัวโน แต่ใครเห็นต่างเรียกเป็น "หัวนม" มากกว่า จากหัวโนจึงกลายเป็น “หัวโนม” (ตามชื่อเมนูของร้าน) ด้วยประการฉะนี้
ไอศกรีมหัวโนม ชื่อชวนเขินแต่อร่อยดีที่ร้าน PIECES (พีส-เซท หรือ พิ-เศษ) ในตรอกสะพานญวน
ก่อนเสิร์ฟจะต้องนำขนมปังหัวโนมไปทาเนยแล้วเข้าเตาปิ้งอุ่นให้ร้อนๆหอมกลิ่นเนยก่อน แล้วค่อยมาวางไอศกรีมมะพร้าวโฮมเมดวางตรงกลาง ขนาดเล็กพอคำโตๆ หม่ำชื่นใจได้ในคำเดียว (คำโตหน่อย)
หนูรี่เกาลัดหิมะและไอศกรีม (โทร. 081 647 8826) ตั้งอยู่ประตูถัดไปบรรยากาศของร้านเป็นบ้านกึ่งที่ทำงานในชีวิตจริง สามารถนั่งกินไอศกรีมกันตรงชุดรับแขกภายในร้าน หรือ เก้าอี้หน้าร้านที่เป็นส่วนหนึ่งของตรอกที่ผู้คนสัญจรไปมาก็ได้บรรยากาศดี
มาถึงร้านแล้วขั้นตอนแรกต้องเลือกรสชาติของไอศกรีมก่อน มีให้เลือก 3 รสได้แก่ กะทิ กาแฟ และ ช็อกโกแลต จากนั้นเลือกท็อปปิ้งเกาลัดเกล็ดหิมะ (เกาลัดนำไปแช่เย็นจนเป็นเกล็ดหิมะ) มีให้เลือก 3 รส ได้แก่ รสดั้งเดิม หอมคลาสสิก หวานทะเล (รสหวานจัดเจือเค็ม) และวอดก้า
ถ้านั่งกินที่ร้าน ไอศกรีมจัดเสิร์ฟมาในถาดไม้ พร้อมถ้วยเล็กๆ ใส่ขนมปังกรอบมาให้กินคู่กัน เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรารู้สึกถึงความเอาใจใส่และเพิ่มความกรุบกรอบให้เข้ากันกับไอศกรีมเย็นๆ และเกาลัดที่เย็นกว่า
ปิดท้ายรายการด้วยรสชาติหวานๆ เย็นๆ บนถนน "ทรงวาด" ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดเลยสักร้านเดียว