เรื่องดราม่าของ ‘ไวน์ชิลี’ ไวน์ยอดนิยมในเมืองไทย ‘อัลมาวีวา’
เมื่อมิจฉาชีพหลอกร้านอาหารว่าจะจองโต๊ะและขอดูรายชื่อไวน์ แล้วออกอุบายเสนอขายไวน์ให้ร้านอาหารโอนเงินค่าไวน์ให้ก่อน โชคดีที่ร้านนั้นไหวตัวทัน ไวน์นั้นคือ ‘ไวน์ชิลี’ โดยเฉพาะ ‘ไวน์อัลมาวีวา’
เหตุการณ์หลอกให้ซื้อไวน์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มูลค่าหลายแสนบาท ที่ผ่านมาเมื่อปีก่อน หลังปรับ ครม.รัฐบาลชุดที่แล้ว ไวน์อัลมาวีวา ถูกกวาดไปแทบหมดตลาดเมืองไทย มีเท่าไรไม่พอขาย ราคาไม่เกี่ยง ตามไวน์ช็อปบางแห่งมีคนกำเงินสด ๆ มาซื้อ
อัลมาวีวา (Almaviva) เป็นไวน์ชิลี ไม่ใช่ไวน์ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นไวน์ยอดนิยมในเมืองไทย แต่วันนี้ไม่ธรรมดา โดยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไวน์ชิลีคุณภาพที่เรียกว่า ซูเปอร์ ชิเลียน (Super Chilean) เรียงหน้าออกมาให้คอไวน์ได้ลิ้มลองหลายแบรนด์
ชิลีเป็นผู้ผลิตไวน์โลกใหม่ที่เก่าแก่ที่สุด ในจำนวนชาติที่ผลิตไวน์โลกใหม่ด้วยกัน ผลิตไวน์มากว่า 500 ปี แต่สิ่งที่ชิลีเหนือกว่าทั้งชาติโลกใหม่ด้วยกัน รวมทั้งชาติโลกเก่าแทบทุกชาติก็คือ พันธุ์องุ่นของชิลีเป็นองุ่นจริง ๆ ไม่ใช่องุ่นตัดต่อติดตาเหมือนในยุโรป เนื่องจากการระบาดของแมลงฟีลล็อกซีรา(Phylloxera) ในศตวรรษที่ 18 แต่แมลงร้ายชนิดนี้ไม่สามารถข้ามทะเลและภูเขาไปกินต้นองุ่นของชิลีได้ ขณะเดียวกันชิลีก็สามารถปลูกองุ่นดัง ๆ ของโลกได้อย่างครบครัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปัจจุบันชิลีจึงเป็นดินแดนหนึ่งที่ผู้ผลิตไวน์จากทั่วโลก เบนเข็มไปลงทุน โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสมีหลายราย หนึ่งในจำนวนนั้นคือ บารอน ฟิลิปป์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Philippe de Rothschild :1902-1988) เจ้าของ ชาโต มูตง ร็อธส์ชิลด์ 1 ใน 5 เสือเมด็อก
ไร่องุ่นของอัลมาวีวา
ปี 1997 บารอนเนส ฟิลิปปิน เดอ รอธไชด์ (Baronne Philippine de Rothschild : 1933-2014) ลูกสาวของบารอน ฟิลิปป์ ซึ่งดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ ได้ตกลงทำสัญญาลงนามร่วมกันกับ Mr.Eduardo Guilisasti Tagle ประธานกรรมการของ คอนชา อี โตโร ในขณะนั้นเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ไวน์ขึ้นในชิลี โดยใช้เทคนิคและภูมิปัญญาของฝรั่งเศส โดยถือหุ้นร่วมกัน 50 : 50 และเผยโฉมในวันที่ 8 กันยายน 1998
ก่อนหน้านั้น Baron Philippe de Rothschild ก็สร้างความฮือฮา ด้วยไปร่วมกับโรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) เจ้าพ่อไวน์นาปา แวลลีย์ ผลิตไวน์ โอปุส วัน (Opus One) จนโด่งดังมาแล้ว ก่อนจะขยับขยายมาร่วมกับ คอนชา อี โตโร 1 ใน 10 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตไวน์ของชิลี ซึ่งเป็นบริษัทไวน์รายแรกที่เข้าตลาดหุ้นที่นิวยอร์ก มีไวน์รุ่นดัง ๆ เช่นรุ่น ปราสาทผีสิง (Casillero del Diablo) และรุ่นดอน เมลชอร์ (Don Melchor) เป็นต้น
การ์แบเนต์ โซวีญยง
อัลมาวิวา เป็นชื่อของทั้งชื่อไวน์ และชื่อไร่องุ่นที่ Puente Alto ในไมโป แวลลีย์ (Maipo Valley) ผลิตวินเทจแรก 1996 เกิดจากการผสมผสานระหว่าง กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) และการ์เมแนร์หรือการ์เมเนเร (Carménère) เป็นหลัก บางวินเทจอาจจะมีกาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) และแมร์โลต์ (Merlot) ผสมด้วย
สำหรับ Carménère เป็นองุ่นที่สูญพันธุ์ไปจากบอร์กโดซ์ ลงไปอยู่ในท้องแมลงร้ายฟิล็อกซีรา (Phylloxera) เพราะแมลงชนิดนี้ชอบองุ่นพันธุ์นี้มาก ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 แต่ไปปรากฏตัวโด่งดังในชิลี คนชิลีเรียกว่า Grande Vidure และโปรโมทให้เป็นองุ่นแดงประจำชาติชิลี ปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดสามารถผลิตไวน์จากองุ่น Carménère ได้ดีเท่ากับชิลี
ไวน์เมกเกอร์ที่ทำอัลมาวีวาคือ ท็อด วิคเตอร์ มอสเตโร (Tod Víctor Mostero) ฝีมือไม่ธรรมดา เขาจบปริญญาโทวิชาการปรุงไวน์จากมหาวิทยาลัยบอร์กโดซ์สอบได้ที่ 1 ขณะที่ปริญญาตรีจบวิชาปรุงไวน์และการจัดการจากที่เดียวกันเป็นที่ 1 จากนักเรียนทั้งหมด 700 คน เคยทำงานอยู่กับชาโตดัง ๆ ของฝรั่งเศส เช่น Château Dillon, Château Haut-Brion, Château Pétrus, Château de la Dauphine, Domaine de Lambert, Domaine de la Romanée-Conti และ Opus One เป็นต้น
ในชิลียังไม่มีการแบ่งเกรดไวน์อย่างเป็นทางการ แต่ อัลมาวิวา จัดอยู่ในระดับชั้น พรีเมอร์ ออร์เดน (Primer Orden) เป็นภาษาสเปน มีความหมายเทียบเท่ากับ เปรอะมิเยร์ กรองด์ ครู คลาสเซ (Premier Grand Cru Classe) ของฝรั่งเศส หรือ เฟิร์ส โกรว์ธ (First Growth) ในภาษาอังกฤษ
เป็นไวน์ที่ควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกองุ่น และองุ่นต้องมาจากไร่เดียว (Single Bodega) และเทคนิคการผลิตไวน์ที่ต้องเป็นของตัวเอง ผลผลิตปีละประมาณ 40,000 ขวด
นับตั้งแต่ผลิตวินเทจแรกในปี 1996 อัลมาวิวา เป็นไวน์ที่คะแนนในระดับสูงเกิน 90 ทั้งสิ้น เมื่อก่อนตลาดใหญ่อยู่ที่ยุโรปและอเมริกา ปัจจุบันครอบคลุมไปทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยซึ่งราคามีแสตมป์ขวดละ 20,000 – 30,000 บาท
ผมได้ชิมอัลมาวีวา วินเทจเก่า ๆ อยู่ 2 วินเทจ คือ 2001 และ 2008 เป็นการพิสูจน์ว่าไวน์ชั้นดีนั้นแม้จะผ่านไปหลายปีแต่คุณภาพของน้ำเนื้อยังคงอยู่
อัลมาวีวา ปูเอนเต อัลโต 2001
อัลมาวีวา, ปูเอนเต อัลโต,ไมโป แวลลีย์, ชิลี 2001 (Almaviva, Puente Alto, Maipo Valley, Chile 2001) : เป็นวินเทจที่ 6 นับตั้งแต่ผลิตมา และเป็นวินเทจที่ยอดเยี่ยมมาก นิตยสาร Wine Spectator ให้ 95 คะแนน สูงกว่าทุกวินเทจก่อนหน้านั้น และเมื่อนิตยสารดังกล่าวจัดอันดับไวน์ยอดเยี่ยม 100 ตัว อัลมาวีวาได้อันดับที่ 16 ขณะที่นิตยสาร Wine Advocate ให้ 93 คะแนน
อัลมาวีวา ปูเอน อัลโต 2008
สีแดงเข้มขอบบราวน์ หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพลัม กลิ่นอายของดินและหินภูเขาไฟกรุ่น ๆ สไปซี ควันไฟ กล่องซิการ์ กาแฟคั่ว ช็อกโกแลต แอสิดยังพอมี แทนนินเบาบาง จบด้วยผลไม้สุกหอมหวานและเฮิร์บชุ่มคอ ไวน์ผ่านการพีคมาแล้ว....17 / 20 คะแนน
อัลมาวีวา, ปูเอนเต อัลโต,ไมโป แวลลีย์, ชิลี 2008 (Almaviva, Puente Alto, Maipo Valley, Chile 2008) : ทำจาก กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 66% การ์เมเนเร 26% และกาแบร์กเนต์ ฟรอง 8% บ่มโอ๊คฝรั่งเศส 18 เดือน ผลิต 12,000 ลัง
สีแดงค่อนข้างเข้ม ขอบส้มแกมบราวน์นิด ๆ หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี และราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล วานิลลา เอสเพรสโซ่ ช็อกโกแลต ชะเอมเทศ โอ๊คหอมกรุ่น ควันไฟบาง ๆ สไปซีเฮิร์บ โป๊ยกั๊ก ชะเอมเทศ แอสิดปานกลาง แทนนินเนียนนุ่มสุกหอมหวาน จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล สไปซี ไวน์อยู่ในช่วงกลาง ๆ ของขาลง ....18.5/ 20 คะแนน
ณ เวลานี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไวน์ชิลี อัลมาวีวา เป็นไวน์ระดับ กรองด์ ครู ยอดนิยมในเมืองไทย
