‘เกษราเบเกอรี่’ เจ้าของตำนาน ‘เค้กปลาช่อน’ ของฝากสิงห์บุรี
ย้อนตำนาน 'เกษราเบเกอรี่' ร้านเบเกอรี่รถเข็น ผู้ให้กำเนิด ‘เค้กปลาช่อน’ ของฝากจากสิงห์บุรีที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 37 ปี
‘เค้กปลาช่อน’ เมนูขนมที่นำของคาวกับของหวานมาผสมกันลงตัวได้อย่างน่าสนใจ เชื่อว่าหลายคนที่ได้ยินชื่อเค้กปลาช่อนอาจตั้งข้อสงสัยถึงรสชาติและกลิ่นของขนมว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จนมีโอกาสได้ชิมเค้กปลาช่อนอย่างเต็มปากเต็มคำ จึงได้รู้รสชาติของเนื้อเค้กเนยที่ฉ่ำด้วยแยมสับปะรดกับแอปริคอต ไม่มีกลิ่นคาวปลาเลยสักนิด มีแต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเนย ทั้งๆ ที่มีเนื้อปลาผสมอยู่ในเนื้อเค้กด้วย
‘เค้กปลาช่อน’ มีที่มาอย่างไร ทำไมถึงต้องทำเป็นรูปปลาช่อน
คุณ กอล์ฟ – กฤษดา ประสงค์สุขสันต์ ทายาทของคุณเกษราและคุณ สุพจน์ ประสงค์สุขสันต์ ผู้ร่วมกันสร้างตำนาน ‘เค้กปลาช่อน’ เล่าให้ฟังว่า
“เกษราเบเกอรี่เริ่มต้นมาจากร้านเบเกอรี่รถเข็นที่มีชื่อเสียงเรื่องขนมปังและขนมเค้กเนยสดเมื่อ 37 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2529) จุดเปลี่ยนที่ทำให้เกษราเบเกอรี่เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศเกิดขึ้นในปี 2539 สมัยนั้นจังหวัดสิงห์บุรียังไม่มีงานเทศกาลประจำจังหวัด
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด (วิพัฒน์ คงมาลัย)ในขณะนั้น มองว่าสิงห์บุรีเป็นเมืองปลาช่อนแม่ลา จึงคิดว่าน่าจะจัดเทศกาลกินปลาขึ้นมาเป็นงานประจำจังหวัด แต่ถ้าจัดแล้วมีแต่ปลาเผา แกงส้ม ต้มยำ ดูธรรมดาเกินไป ท่านจึงชักชวนให้ร้านอาหารในสิงห์บุรีมาลองนำเสนอเมนูใหม่ๆ มาประกวดประชันกันเพื่อที่จะให้เห็นว่าปลาช่อนในลำน้ำแม่ลา แหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของสิงห์บุรีสามารถนำมาประยุกต์เป็นอะไรได้บ้าง”
เนื่องจากเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก บรรดาร้านอาหารต่างให้ความร่วมมือไปคิดค้นเมนูอาหารจานใหม่จากปลาช่อนกันเพื่อส่งเข้าประกวด ร้านเกษราเบเกอรี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“คุณพ่อเป็นคนต้นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ปลาช่อนกับขนมเค้กมาผสมกันได้ จึงไปปรึกษากับคุณแม่ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่ คุณแม่เล่าให้ฟังว่าเนื้อปลาช่อนที่เผาสุกแล้วจะมีสีขาว มีความฟู ไม่มีรสชาติมากนักแต่จะมีกลิ่นคาวที่คงอยู่ ขั้นแรกเลยต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นคาวปลาออกไปให้ได้
ลองผิดลองถูกจนในที่สุดก็พบวิธีดับกลิ่นคาวของปลาได้สำเร็จ โดยการทำขนมจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การทำขนมเค้กเนยตามปกติ กับขั้นตอนการแปรรูปปลาช่อนผ่านวิธีการหมักดับคาวแล้วทำให้สุก จะได้เนื้อปลาช่อนที่มีลักษณะคล้ายเนื้อมะพร้าว นำส่วนผสมไปรวมกันในขั้นตอนสุดท้ายจนออกมาเป็น เค้กปลาช่อน มีการแต่งรสด้วยแยมสับปะรดกับแอปริคอตเพิ่มเข้าไป”
เค้กปลาช่อน ของร้านเกษราเบเกอรี่เผยโฉมในเทศกาลกินปลาประจำจังหวัดสิงห์บุรี ด้วยเค้กรูปปลาช่อนที่มีความยาวถึง 5 เมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาร่วมงานและกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่องกันยาวนานหลายปี
“เค้กปลาช่อนในขณะนั้น สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นไฮไลท์ของงาน เราไม่ได้คิดว่าจะเป็นโปรดักท์ที่ขายได้ ไม่คิดว่าจะมีคนอยากกินเค้กที่มีส่วนผสมของเนื้อปลาช่อน แต่กลายเป็นว่าเป็นที่สนใจโดยเฉพาะจากสื่อต่างๆ
ทุกคนอย่างรู้ว่า เค้กปลาช่อนคืออะไร กินได้จริงหรือไม่ หลังจากนั้นเกษราเบเกอรี่จึงพัฒนาเค้กปลาช่อนให้กลายเป็นของฝากประจำจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับเชิญไปออกรายการทีวีมากมายเลยครับ”
นอกจากเค้กปลาช่อนแล้ว ทางร้านยังนำปลาช่อนแม่ลามาต่อยอดเป็นสินค้าของฝากจากเกษราเบเกอรี่ ได้แก่ ปลาช่อนทุบ ปลาช่อนแดดเดียว ขนมเปี๊ยะก้างปลาช่อน และไอศกรีมปลาช่อน
จากร้านเบเกอรี่รถเข็นเมื่อ 37 ปีที่แล้ว เกษราเบเกอรี่วันนี้กลายเป็นร้านขายของฝากจากสิงห์บุรีขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยภัตตาคาร ห้องจัดเลี้ยง ห้องสัมมนา และ เกษรา ฟู้ดเซนเตอร์ ให้บริการ ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ผัดไทย
รวมไปถึงเมนูปลาช่อนเผาเกลือ ปลาช่อนแดดเดียว และขนมจีนน้ำยาปลาช่อน อาหารอร่อยตำรับสิงห์บุรีให้รับประทานกันอย่างพร้อมพรั่ง
เรียกได้ว่ามาถึง 'เกษราเบเกอรี่' มีทั้งเมนูปลาช่อนแม่ลาให้อิ่มท้องทั้งคาวและหวาน พร้อมช้อปปิ้งของฝากจากสิงห์บุรีได้ครบในคราวเดียวกัน
ร้านเกษราเบเกอรี่
- ที่ตั้ง : 333 ม.1 ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.81 ขาเข้า
- เปิดให้บริการ : เปิดทุกวัน โซนร้านของฝาก เปิด 07:00-21:00 น. โซนร้านอาหาร เปิด 10:00-21:00 น. ช่วงเทศกาล เปิด 07:00-23:00 น.
- โทร : 095 639 9779 www.facebook.com/kesarabakery
