‘ปอเมอฮรอล’ บอร์กโดซ์ ทำราคาสูงสุดในงาน ‘ประมูลไวน์’ ไวน์แดงแพงที่สุด
งาน ‘ประมูลไวน์’ ครั้งล่าสุดที่อังกฤษ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’ วินเทจ 1982 ชาโต ลาเฟลอร์ แห่ง ‘ปอเมอฮรอล’ ทำราคาสูงสุด 12 ขวด ราคา 56,000 ปอนด์ ยังมีไวน์จากชาโตอื่นที่มีราคาประมูลติดอันดับ นักสะสมไวน์สนใจรอประมูลรอบต่อไป
สถาบันการประมูล Dreweatts แห่งสหราชอาณาจักร จัดงาน ประมูลไวน์ เมื่อกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ไฮไลท์อยู่ที่ ไวน์บอร์กโดซ์ (Bordeaux) วินเทจ 1982 ซึ่งเป็นวินเทจสุดยอดแห่งตำนาน
แม้จะผ่านไปถึง 40 ปี ชาโต ลาเฟลอร์ แห่ง ปอเมอฮรอล (Pormerol) ขึ้นชื่อว่าเป็นไวน์แดงราคาแพงที่สุด และทำราคาสูงสุดในงานประมูลจนได้ฉายาว่า พริกขี้หนูแห่งบอร์กโดซ์
ชาโต ลาเฟลอร์ 1982
ชาโต ลาเฟลอร์ 1982 (Château Lafleur 1982) จากเซลลาร์ส่วนตัวของเจ้าของแห่งอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์ (Oxfordshire) จำนวน 12 ขวด ซึ่งยังอยู่ในลังไม้ดั้งเดิมเหมือนที่ออกมาจากชาโต ประมูลไปในราคา 56,000 ปอนด์
ขณะที่ ชาโต เปตรุส 1982 (Château Petrus 1982) ลูกพี่ใหญ่ของ ปอเมอฮรอล จำนวน 12 ขวดเช่นกัน ทำราคาได้ต่ำกว่าที่คาดคือ 31,000 ปอนด์
ชาโต เปตรุส 1982
ก่อนหน้านั้นในงาน ประมูลไวน์ ที่นิวยอร์ก, สหรัฐ ชาโต เปตรุส 1982 ขวดขนาด 6 ลิตร (Imperial) จำนวน 2 ขวด ประมูลไปขวดละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ชาโต ลาฟิต ร็อธส์ชิลด์ (Château Lafite Rothschild) วินเทจ 1982 จำนวน 12 ขวดในลังไม้เดิม ๆ เช่นกัน ทำราคาได้ 27,280 ปอนด์
ชาโต มูตง ร็อธส์ชิลด์ (Château Mouton Rothschild) วินเทจ 1982 จำนวน 12 ขวดในลังไม้เดิม ๆ เช่นกัน ทำราคาได้พียง 10,000 ปอนด์
นั่นเป็นบทพิสูจน์ที่ตอกย้ำว่า ปอเมอฮรอล (Pomerol) ตำบลเล็ก ๆ แต่ทำไวน์ได้ยอดเยี่ยม เป็นที่โหยหาของคอไวน์ตัวจริงเสียงจริง ที่สำคัญต้องรวยจริง
แผนที่ผลิตไวน์ปอเมอฮรอล
ปอเมอฮรอล เป็นพื้นที่ผลิตไวน์เล็กที่สุดของเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส มีความกว้างเพียง 3 กิโลเมตร ยาว 4 กิโลเมตร ที่สำคัญไม่มีการจัดชั้นหรือครู (Cru) ใด ๆ รับรอง แต่เป็นแผ่นดินเกิดของไวน์แดงราคาแพงอันดับต้น ๆ ของโลกคือ ชาโต เปตรุส (Château Pétrus) รองลงมาคือ ชาโต เลอ แปง (Château Le Pin) และชาโต เลอวองจีล (Château L'Evangile)
องุ่นแมร์โลต์ พระเอกของปอเมอฮรอล
ยังมี ชาโต ลา กองซายลองต์ (Château La Conseillante) ชาโต กลิเนต์ (Château Clinet) วีเออซ์ ชาโต แซร์งแตง (Vieux Château Certan) ชาโต ตรอตานัวย์ (Château Trotanoy) และชาโต ลาเฟลอร์ (Château Lafleur) เป็นต้น
ปอเมอฮรอล เป็นพื้นที่ผลิตไวน์ที่เรียกว่า ฝั่งขวา (Right Bank) จากการที่ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำดอร์ดอญ (Dordogne) มีพื้นที่ทางใต้ติดกับตำบลแซง เตมิลยอง (Saint-Emilion) ทางด้านเหนือเกือบทั้งหมดติดกับลาลองด์ เดอ ปอเมอฮรอล (Lalande de Pomerol) ซึ่งผลิต ไวน์ดาวเทียม (Satellite) สไตล์ไวน์คล้ายกัน ใช้องุ่นแมร์โลต์ (Merlot) นำเหมือนกัน แต่ปอเมอฮรอลคุณภาพสูงส่งกว่า
ไร่องุ่นของชาโต เปตรุส
ปอเมอฮรอล ผลิตไวน์จากการใช้แมร์โลต์ร้อยหรือเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งพันธุ์รองลงมาเป็นกาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) ไม่ใช่กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) ที่ยิ่งใหญ่ในฝั่งซ้าย (Left Bank) แต่มาที่นี่เป็นเพียง “พระรอง” เท่านั้น
ปอเมอฮรอลได้อาร์โอเซ (AOC) หรืออัปเปลลาซิญง ดอรีฌีน กองโตรลเล(Appellation D’Origine Controllee = AOC) มาในปี 1936 มีพื้นที่ปลูกองุ่นเพียง 800 เฮกตาร์ (ประมาณ 2,000 เอเคอร์) มีผู้ผลิตไวน์ประมาณ 150 ชาโต และส่วนใหญ่เป็นชาโตเล็ก ๆ เหมือนโรงรถ หรือกระท่อมปลายสวน ซึ่งหลาย ๆ ชาโตแทบจะไม่หลุดรอดมาถึงเมืองไทย
ปอเมอฮรอล ไวเนอรี (Cr.travelcuriousoften.com)
ลักษณะดินส่วนใหญ่ในปอเมอฮรอล เป็นดินปนกรวดและดินเหนียว ที่มีธาตุเหล็กสูง นอกจากแมร์โลต์แล้วยังมีการปลูกกาแบร์กเนต์ ฟรอง, กาแบร์เนต์ โซวีญยอง และมาลเบค (Malbec) เพื่อใช้เป็นส่วนผสมบ้าง
อย่างที่กล่าวในตอนแรกไวน์ปอเมอฮรอล เป็นชาโตเล็ก ๆ ผลิตจำนวนน้อย การจะหลุดมาถึงบ้านเราไม่ใช่เรื่องง่าย แถมราคายังสูง แต่ถ้าได้ชิมหลายคนตกหลุมรักแมร์โลต์
ชาโต เลอ แปง
ก่อนหน้านั้นปอเมอฮรอลไมได้อยู่ในสายตาของใครเลย ชาวบ้านต่างผลิตไวน์กันตามวิถีชีวิตปกติ กระทั่งราวทศวรรษที่ 1950s ฌอง ปิแอร์ มูอิกซ์ (Jean-Pierre Moueix) นักธุรกิจไวน์ตาแหลม สมองเพชร มองเห็นศักยภาพของปอเมอฮรอล จึงได้พัฒนาการทำไวน์ กระทั่งก่อกำเนิดชาโต เปตรุส (Château Pétrus) เป็นไวน์แพงคุณภาพหลุดโลก ให้ชาวโลกโหยหา
อย่างไรก็ตาม ความพิเศษสุดยอดของปอเมอฮรอลอยู่ที่ ดิน ซึ่งภายนอกมองด้วยตาเปล่าเป็นดินเหนียวปนทรายและหินกรวดธรรมดา แต่ที่อยู่ลึกไปกว่านั้นคือเป็น ดินเหนียวสีน้ำเงิน (Blue Clay) ที่แทรกตัวอยู่ในชั้นดินเหนียว
ดินเหนียวสีน้ำเงิน
จากหลักฐานทางธรณีวิทยาระบุว่า เป็นดินเหนียวที่เกิดจากแร่ธาตุที่ทับถมกันยาวนานกว่า 40 ล้านปี มีโมเลกุลที่แน่นกว่าดินเหนียวทั่วไป และองุ่นแมร์โลต์ที่เติบโตบนดินเหนียวสีน้ำเงิน จะมีกลิ่นอบอวล รสชาติเข้มข้น แทนนินหนักแน่น และหรูหรา
ผืนดินที่มีดินเหนียวสีน้ำเงิน ในปอเมอฮรอล มีประมาณ 20 เอเคอร์ หรือไม่ถึง 130 ไร่ เท่านั้น ที่สำคัญกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในความครอบครองของ ชาโต เปตรุส ประกอบกับชั้นดินของชาโต เปตรุส เป็นดินหลังเต่า (ขณะที่ชั้นดินของเจ้าอื่นเป็นพื้นราบ) เป็นดินเหนียวผสมกรวดทราย เป็นเขตที่เรียกว่า รูกระดุม (Button HolePetrus boutonnière) ชั้นดินยิ่งลึกลงไป ดินจะเปลี่ยนสีมีแร่ธาตุเหล็กอุดมสมบูรณ์ เหมาะที่สุดกับการปลูกองุ่นแมร์โลต์ที่สุด
ไร่องุ่นชาโต เปตรุส
พื้นที่รูกระดุมแบบนี้ไม่มีที่ไหนในโลก เป็นเขตที่พระเจ้าประทานมาให้เฉพาะ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาโตแห่งนี้ถึงได้ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน
ชาโต เปตรุส ผลิตจากองุ่นแมร์โลต์ ก่อนหน้านั้นอาจจะมีพันธุ์อื่นซึ่งก็คือตระกูลกาแบร์เนต์ ขลุกขลิกลงไปบ้างเล็กน้อย แต่หลังจากปี 2010 เป็นต้นมาใช้แมร์โลต์ 100% เป็นแมร์โลต์อายุกว่า 45 ปี บ่ม 12-16 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศสเก่าและใหม่อย่างละครึ่ง ผลผลิตปีละประมาณ 30,000 ขวด
ชาโต เลอ แปง ไวน์โรงรถ
นอกจากชาโต เปตรุสแล้ว บนทำเนียบยอดไวน์แห่งปอเมอฮรอลยังมี ชาโต เลอ แปง (Château Le Pin) เจ้าตำรับ ไวน์โรงรถ (Garage Wine) เนื่องจากตอนที่ทำครั้งแรกเจ้าของใช้โรงรถในไร่องุ่นทำไวน์ มีพื้นที่ 2.2 เฮกตาร์ ผลิตไวน์ปีละ 8,000 ขวด
เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟังในครั้งหน้า วินเทจ 2020 ซึ่งเป็นวินเทจล่าสุดที่กำลังอยู่ในท้องตลาด เปิดราคาครั้งแรกขวดละ 1,700 ยูโร เป็นราคาที่ต้องซื้อที่โบรกเกอร์ และเป็นราคาที่สูงกว่าวินเทจ 2019 อยู่ 21.4%
ขณะที่ร้านค้าไวน์ในกรุงลอนดอน เสนอราคาลังละ 24,000 ปอนด์ (ลังละ 12 ขวด) ณ วันนี้ราคาคงพุ่งไปหลายเท่าตัว
พูดไปน้ำลายสอ..เรามาชิมไวน์ปอเมอฮรอลกันดีกว่า เป็นไวน์ที่ผมได้ชิมครั้งล่าสุดในเดือนตุลาคม
ชาโต เปตรุส ปอเมอฮรอล 2015
ชาโต เปตรุส ปอเมอฮรอล 2015 (Château Pétrus Pomerol 2015) : สุดยอดไวน์แดงของโลกที่ทำจากองุ่นแมร์โลต์ บรรจุขวดในเดือนกรกฏาคม 2017
สีแดงเข้มปึ๊กจนเกือบดำ หอมกลิ่นผลไม้เปลือกดำ มัลเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพลัม ดอกลาเวนเดอร์ วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ ชะเอมเทศ ใบไธม์ มิเนอรัล ทรัฟเฟิล มะกอกดำ ช็อกโกแลต สโมคกี้โอ๊ค ซีดาร์ แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่น จบยาวด้วยผลไม้ เอิร์ธตี้ สไปซี่ และโอ๊คหอมกรุ่น ยังไม่เปิดตัว น่าจะเริ่มดื่มได้ในอีก 6-7 ปีข้างหน้า ใครมีอยู่ในเซลลาร์เก็บยาว ๆ ไปเลย 40-50 ปี...20/20 คะแนน
ชาโต บูร์จเนิฟ ปอเมอฮรอล 2018
ชาโต บูร์จเนิฟ ปอเมอฮรอล 2018 (Château Bourgneuf Pomerol 2018) : ไวน์จากตำบลปอเมอฮรอลดินแดนกระจิ๊ดริด และไร้มงกุฎไม่มีการจัดชั้นใดรับรอง แต่เป็นที่โหยหาของคอไวน์ทั่วโลก โดยครอบครัววาย์ฮรอง (Famille Vayron) ครอบครองมาตั้งแต่ปี 1821 และมีเพื่อนบ้านอย่างชาโต ตรอตานัวย์ เจ้าของฉายา เบบี้ เปตรุส (Baby Petrus)
วินเทจ 2018 นี้ทำจากแมร์โลต์ 80% และกาแบร์เนต ฟรองซ์ 20% อายุขององุ่นประมาณ 40 ปี บ่มโอ๊ค 12-14 เดือน โดย 30% บ่มในโอ๊คใหม่ ที่สำคัญได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากทีมไวน์เมกเกอร์ของตระกูลมูอิกซ์ (Moueix) ที่ปลุกปั้นชาโต เปตุส จนโด่งดังนั่นเอง
สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ดอกลาเวนเดอร์ มิเนอรัล ทรัฟเฟิล ช็อกโกแลต ใบยาสูบ เกาลัด สไปซีเฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย ชะเอมเทศ วานิลลา มินต์ สไปซีโอ๊ค แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นเนียน จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สโมคกี้และสไปซีเฮิร์บ อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะประมาณ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย และสามารถเก็บได้ประมาณ 15-20 ปี แต่ของอร่อย ๆ อย่างนี้ไม่ควรเก็บนาน เอามาแบ่งกันชิมเถิด เป็นหนึ่งในไวน์ปอเมอฮรอลที่คุณภาพเกินราคา......19.5/20 คะแนน
ชาโต ตรอตานัวย์ ปอเมอฮรอล 2016
ชาโต ตรอตานัวย์ ปอเมอฮรอล 2016 (Château Trotanoy,Pomerol 2016) : อีกหนึ่งในสุดยอดไวน์แห่งปอเมอฮรอล เจ้าของคือทายาทเจ้าของชาโต เปตรุส และผลิตไวน์ในสไตล์ชาโต เปตรุส ใช้แมร์โลต์ 95% กาแบร์เนต์ ฟรอง 5%
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้อบอวล พลัม แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี มัลเบอร์รี ดอกไม้แห้ง มิเนอรัล ช็อกโกแลต กาแฟคั่ว ทรัฟเฟิล สไปซี่ เฮิร์บ อบเชย จันทน์เทศ มะกอกดำ ใบยาสูบ ไส้ดินสอดำ ถ่านไม้ แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและเริ่มนุ่ม ฟูลบอดี้ จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี่ เฮิร์บ
ควรเปิดล่วงหน้าสัก 1 ชั่วโมงครึ่ง อาจจะยังไม่สุกเต็มที่นัก น่าจะอีกประมาณ 2-3 ปี เป็นไวน์ที่แนะนำให้ซื้อเก็บไว้ ราคาขึ้นทุกเดือน และสามารถเก็บได้กว่า 30 ปี.....19.5/20 คะแนน
ชาโต กลีเนต์ ปอเมอฮรอล 2015
ชาโต กลีเนต์ ปอเมอฮรอล 2015 (Chateau Clinet Pomerol 2015) : ทำจากองุ่นที่ปลูกบนพื้นที่ 8 เฮกตาร์ (ประมาณ 50 ไร่) น้ำองุ่น 37 เฮกโตลิตร/ 1 เฮกตาร์เท่านั้น ประกอบด้วยแมร์โลต์ 90% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 9% และกาแบร์เนต์ ฟรอง 1% บ่มโอ๊คฝรั่งเศส 16 เดือน โอ๊คใหม่ 65% อีก 35% บ่มโอ๊คใช้แล้ว 1 ปี
สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และมัลเบอร์รี ดอกไวโอเลต กลีบกุหลาบแห้ง มิเนอรัล ทรัฟเฟิล สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ อบเชย ยี่หร่า ใบยาสูบ มินต์ สโมคกี้โอ๊ค ซีดาร์ วานิลลาหวาน ๆ แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก แต่ก็สามารถดื่มได้ในปีนี้.....20/20 คะแนน
ไร่องุ่นในปอเมอฮรอล (Cr.Photo by Marla Norman)
ไวน์ดังกล่าวไม่ได้หาซื้อง่าย ๆ อย่างที่กล่าวในตอนแรก พื้นที่น้อย ทำไวน์ได้น้อย ขณะที่ความต้องการสูง โอกาสที่จะเจอของปลอมก็มีสูงตามไปด้วย
สอบถามได้ที่ Wine in Love โทร.080 461 8989