ทำไมคนไทยชอบ ‘ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี’ เจ้าพ่อ 'ไวน์นาปา แวลลีย์'
‘ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี’ มีหลายรุ่น หลายราคา ตอบสนองได้หลายกลุ่ม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไวน์รสชาติหนักแน่นเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย บางรุ่นนอกจากจะไม่ฝาดแล้วยังแฝงไว้ด้วยรสชาติที่หอมหวาน ทำให้ดื่มง่าย
ช่วงหลังเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา มีผู้สอบถาม ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การจับกุมสินค้าหนีภาษีของเจ้าหน้าที่ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะมี ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี อยู่ในนั้นเสมอ เป็นสิ่งยืนยันว่าไวน์แบรนด์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้น คนที่ชอบซื้อไวน์ด้วยวิธีดังกล่าวต่างบอกว่ารสชาติหนักแน่น ดื่มอร่อยกว่าไวน์ออสเตรเลียเจ้าดังที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งของการปลอมแปลงและเลี่ยงภาษี
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า โรเบิร์ต มอนดาวี ไวเนอรี นั้นไม่ใช่ของตระกูล มอนดาวี เพราะเขาขายกิจการให้กับคอนสเตลเลชั่น แบรนด์ ( Constellation Brands) ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1933 ปีที่ครอบครัวมอนดาวี ไม่มีไร่องุ่นและโรงทำไวน์เป็นของตระกูล
ไม่นับรวม โอปุส วัน (Opus One) เพราะไม่ใช่ของตระกูลมอนดาวีแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นการร่วมหุ้นกับ ชาโต มูตง ร็อธชิลด์ (Chateau Mouton Rothschild) จากฝรั่งเศส
หลังจากนั้นคอนสเตลเลชั่น แบรนด์ ก็สร้าง ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี ให้เป็นไปตามแนวทางของตนเองในฐานะที่เป็นพ่อค้า ทั้งรสชาติข้างในขวดและฉลากข้างขวด ซึ่งเป็นเรื่องปกติในทุกประเทศทั่วโลก
หนึ่งในรุ่น Private Selection
โรเบิร์ต มอนดาวี มีหลากหลายรุ่นหรือซีรีส์ หลากรสชาติ รุ่นที่ได้รับความนิยม และมีการหลบเลี่ยงภาษีมากที่สุดคือ โรเบิร์ต มอนดาวี ไพรเวท เซเลคชั่น (Robert Mondavi Private Selection) ซึ่งมีหลายรุ่นหลายรสชาติ
อย่างไรก็ตามรุ่นที่ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้มากที่สุด ประกอบด้วย 3 รุ่นคือ
โรเบิร์ต มอนดาวี นาปา แวลลีย์ (Robert Mondavi Napa Valley)
โรเบิร์ต มอนดาวี โอ๊ควิลล์ (Robert Mondavi Oakville)
โรเบิร์ต มอนดาวี เดอะ รีเสิร์ฟ (Robert Mondavi The Reserve)
ทั้งหมดทำจากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) เป็นหลักเหมือนกัน
เทียบกับฝรั่งเศสพื้นที่ที่เล็กกว่า ย่อมได้ไวน์คุณภาพที่เหนือกว่า ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี เช่นเดียวกัน นาปา แวลลีย์ เป็นพื้นที่ใหญ่กว้างไพศาล ขณะที่โอ๊ควิลล์เป็นเมืองในนาปา แวลลีย์ เรียกว่าเป็นพื้นที่เล็กลงไปอีก ขณะที่เดอะ รีเสิร์ฟ ใช้องุ่นจาก ไร่โท กาลอน (To Kalon) เท่านั้น เล็กลงไปอีก
ทั้ง 3 รุ่นนี้มีการปรับเปลี่ยนฉลาก สี และถ้อยคำบางอย่าง
โรเบิร์ต มอนดาวี นาปา แวลลีย์ รุ่นน้องเล็ก เดิมในฉลากเป็นรูปประตูทางเข้าไวเนอรีและมีไร่องุ่นด้านหลังพร้อมตัวหนังสือแข็ง ๆ หน่อยตามรูปวิเทจ 2018 พอมา 2019 มีเฉพาะรูปประตูทางเข้าไวเนอรีไม่มีไร่องุ่น แต่มีนก 3 ตัวบินมาแทน พร้อมลายเซ็นโรเบิร์ต มอนดาวี สามารถใช้องุ่นจากไร่ใดก็ได้ในนาปา แวลลีย์
Oakville ฉลากเดิม
โรเบิร์ต มอนดาวี โอ๊ควิลล์ (Robert Mondavi Oakville) น้องคนกลาง รุ่นนี้เปลี่ยนชัดเจน จาก Oakville ตัวใหญ่กลางฉลาก เปลี่ยนเป็นรุ่น The Estate อยู่ใต้ประตูเข้าไร่สีทอง คำว่า Oakville มาอยู่ด้านล่าง บ่งบอกถึงที่มาขององุ่นว่า มาจากไร่ในเมืองโอ๊ควิลล์ เมืองที่โรเบิร์ต มอนดาวี เลือกเป็นที่ตั้งไวเนอรี่ในปี 1966
โรเบิร์ต มอนดาวี เดอะ รีเสิร์ฟ (Robert Mondavi The Reserve) พี่ชายคนโต เป็นรุ่นท็อป ออกวางตลาดครั้งแรกปี 1971 ใครที่บอกว่าดื่ม ไวน์โรเบิร์ต มอนดาวี มาเยอะแล้ว ถ้าไม่ได้ดื่ม “The Reserve” ต้องลดเสียงคุยให้เบาลง
Oakville ฉลากใหม่
สีฉลากเหมือน The Estate จากเดิมสีนวล ๆ เปลี่ยนมาเป็นสีดำ คำว่า “The Reserve” อยู่ใต้ประตูเข้าไร่สีทองเหมือนกัน และระบุเลยว่าเป็นองุ่นจากไร่ To Kalon Vineyard คือใช้องุ่นจากไร่ที่ระบุเท่านั้นไม่มีองุ่นจากที่อื่นมาผสม เรียกว่าเป็น Single Vineyard
ไร่โท กาลอน (To Kalon) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในไร่องุ่นชั้นเยี่ยมของโลก (The ultimate expression of terroir)
ทั้งรุ่น “The Estate” (Oakville) และ “The Reserve” นี้ใครไปเจอวินเทจเก่า ๆ ที่ฉลากเป็นสีนวล ๆ ก็ไม่ต้องตกใจคิดว่าเป็นของปลอม
The Reserve เป็นรุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ ไร่โรเบิร์ต มอนดาวี และวงการไวน์แคลิฟอร์เนียมากที่สุด และได้รางวัลจากการชิมทั้งในประเทศและระดับนานาชาติมากที่สุด
คราวนี้ลองมาดูผลการชิมของทั้ง 3 รุ่นและเป็นวินเทจเดียวกันทั้งหมดคือ 2018 ว่าเป็นอย่างไร
โรเบิร์ต มอนดาวี “นาปา แวลลีย์” กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 2018 (Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon 2018) : เป็นบอร์กโดซ์ เบลนด์ ขนานแท้ ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 87% แมร์โลต์ (Merlot) 5% เปอตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 4% กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 3% และมาลเบค 1%
Napa Valley ฉลากเดิม
สีแดงเข้มจนเกือบดำ หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม ดอกไวโอเล็ต ซีดาร์ สไปซี่ แบล็คเปปเปอร์ เฮิร์บ จันทน์เทศ กระวาน ม็อคคา ช็อกโกแลต ใบยาสูบ กล่องซิการ์ มิเนอรัล โอ๊คหอมหวาน แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นเริ่มนุ่มเนียน จบยาวนานด้วยผลไม้ สไปซี อาจยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก ปีหน้าน่าจะดีกว่านี้ แต่ก็สามารถดื่มตอนนี้ได้.......19.5/20 คะแนน
รุ่น Reserve 2005
โรเบิร์ต มอนดาวี “ดิ เอสเตท” โอ๊ควิลล์ นาปา แวลลีย์ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 2018 (Robert Mondavi “The Estates” Oakville Napa Valley Cabernet Sauvignon 2018) : เป็นบอร์กโดต์ เบลนด์ เช่นกันทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 86% กาแบร์เนต์ ฟรอง 10% เปอตีต์ แวร์กโดต์ 2% มาลเมค 1% และแมร์โลต์ 1% บ่ม 17 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศส
Napa Valley 2019 ฉลากใหม่
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี่ แบล็คเคอร์แรนท์ ราสพ์เบอร์รี พลัม ดอกไวโอเลต มะกอกดำ ช็อกโกแลต กาแฟคั่ว สไปซี่ เฮิร์บ ยี่หร่า จันทน์เทศ กานพลู ขิง วานิลลา ใบยาสูบ โอ๊คหอมหวาน แอสิดสดชื่น แนนนินหนักแน่นนุ่มหวาน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่ เฮิร์บ โอ๊คกรุ่น ๆ สามารถเริ่มดื่มได้ในปีนี้เป็นต้นไป และนับยาวไปได้อีก 9-10 ปี..........19/20 คะแนน
The Reserve ฉลากเดิม
โรเบิร์ต มอนดาวี “เดอะ รีเสิร์ฟ” โท กาลอน วินเยิร์ด กาแบร์เนต์ โซวีญยอง นาปา แวลลีย์ 2018 (Robert Mondavi “The Reserve” To Kalon Vineyard Cabernet Sauvignon Napa Valley 2018) : เป็นวินเทจที่ 8 ของไร่ To Kalon ที่ใช้คำว่า The Reserve เป็นบอร์กโดซ์ เบลนด์ ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 93% กาแบร์เนต์ ฟรอง 5 % และเปอตีต์ แวร์กโดต์ 2% บ่ม โอ๊คฝรั่งเศส ผลิต 9,791 ลัง
The Reserve ฉลากใหม่
สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม และแบล็คเชอร์รี่ ดอกไวโอเลต กรีนเปปเปอร์ มิเนอรัล มะกอกดำ กาแฟคั่ว แบล็คช็อกโกแลต ใบยาสูบสด ๆ สไปซี่โอ๊คหอมหวาน เฮิร์บ จันทน์เทศ กานพลู ยี่หร่า หนังสัตว์ วานิลลา แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและเริ่มนุ่ม
จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี่ เฮิร์บ วานิลลา แนะนำให้เปิดล่วงหน้าสัก 1 ชม.เริ่มดื่มได้ในปีนี้เป็นต้น และเก็บได้อย่างน้อย 20 ปี ....19.5/20 คะแนน
โรเบิร์ต มอนดาวี แม้จะล่วงลับไปแล้ว แต่เมรัยที่เขาสร้างเอาไว้ยังเป็นอมตะให้โลกระลึกถึง
