Sala Rossa ร้านอาหารอิตาเลียนรสดีราคาไม่แรง ในซอยมหาดเล็กหลวง 2
อยากกินอาหารอิตาเลียนรสดี ราคาไม่แรง เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ บรรยากาศเงียบสงบ Sala Rossa (ซาล่า โรสซ่า) ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ
สายวันเสาร์สหายรักชักชวนให้ไปกินมื้อเที่ยงกันที่ Sala Rossa (ซาล่า โรสซ่า) ทำให้ได้รู้ว่าในซอยมหาเล็กหลวง 2 มีร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ที่นั่น เพื่อนบอกว่าชอบใจในรสชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบจนไม่น่าเชื่อว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
Sala Rossa ร้านอาหารอิตาเลียน
ซาล่า โรสซ่า มีความหมายว่าอะไรนะ คุณ เด่น-ทรงศักดิ์ เขตกิตติคุณ เจ้าของร้านบอกว่า Sala หมายถึง ห้อง ส่วน Rossa คือ สีแดง ร้านนี้จึงมีชื่อที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ห้องสีแดง เป็นเพราะว่าร้านแรกของ ซาล่า โรสซ่า เปิดอยู่ในซอยศาลาแดง ต่อมาย้ายมาอยู่ในซอยมหาดเล็กหลวงนับรวมตั้งแต่เปิดร้านในปี 2004 ปีนี้ครบ 20 ปีพอดี
คุณเด่นเล่าให้ฟังว่าทำธุรกิจอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีอยู่นานจนภรรยาอยากจะกลับบ้านที่เมืองไทย จึงตัดสินว่าจะเปิดร้านอาหารอิตาเลียนโดยจะนำเชฟชาวอิตาเลียนมาปรุงอาหารให้ชิมกันแบบต้นตำรับ
แต่ปรากฎว่าเชฟเกิดเปลี่ยนใจ ภรรยาคุณเด่นจึงไปเข้าคอร์สเรียนอาหารอิตาเลียนแล้วมารับหน้าที่เชฟดูแลอาหารของ ซาล่า โรสซ่า ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
เตาพิซซ่าเก่าแก่จากอิตาลี
“วัตถุดิบส่วนหนึ่งมาจากอิตาลี เพราะว่าผมเดินทางไปอิตาลีเกือบทุกเดือน จนช่วงโควิดต้องพักไป มาช่วงหลังๆ เดินทางไปทุก 3 เดือน ส่วนเตาพิซซ่าเป็นเตาเก่าแก่ที่นำเข้ามาจากอิตาลีตั้งแต่ตอนเปิดร้าน ใช้ไม้ยูคาลิปตัสเป็นฟืน ทำให้พิซซ่าของเรามีกลิ่นหอมของไม้เจืออยู่ด้วย” คุณเด่นบอกกับเราพลางเชิญไปชมเตาพิซซ่าที่ตั้งอยู่ภายในร้าน
ดูเตาแล้วเราก็มาดูเมนูพิซซ่ากันต่อ พิซซาของที่นี่เป็นแบบแป้งบางกรอบ ในความบางที่มีเนื้อแป้งให้เคี้ยวได้อร่อย โดยทางร้านจะเสิร์ฟแป้งพิซซ่าอบร้อนๆ มาให้เรารับประทานคู่กับมะเขือเทศซัลซ่า ระหว่างรออาหาร ขณะเดียวกันถ้าถูกใจแป้งก็สั่งพิซซ่าต่อกันได้เลย
พิซซ่า Sala Rossa
เมนูพิซซ่าที่เจ้าของร้านแนะนำ คือ Sala Rossa พิซซ่าชื่อเดียวกับร้าน (520 บาท) มีหน้าเป็นเห็ด แอนโชวี่ ซาลามี่ พาร์มาแฮม และซอสมะเขือเทศสดสูตรเด็ดของทางร้าน ส่วนคนรักชีสมี Four Cheese พิซซ่าหน้าซอสมะเขือเทศ ท็อปปิ้งด้วยชีสแน่นๆ 4 ชนิด ได้แก่ Gorgonzala Brie Parmesan Mozzarella ให้ชิมกันอย่างเต็มอิ่ม ที่น่ารัก คือ พิซซ่ามีให้เลือกมากกว่า 12 หน้า ตัดสินใจไม่ได้สามารถสั่งแบบ Half/Half ได้เลย
ส่วน สปาเก็ตตีคาร์โบนาร่า (400 บาท) เมนูโปรดของใครหลายคนที่นี่จะปรุงแบบดั้งเดิม ไม่มีครีม ไม่มีแฮม แต่จะใส่ Pancetta หรือ เบคอนสไตล์อิตาเลียนที่ทำจากหมูสามชั้น เข้มข้นด้วยไข่แดงและชีส Pamigiano Reggiano มีความคล้ายกับ Pamesan แต่จะมีกระบวนการผลิตที่เข้มงวดกว่าและมาจากพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น (Parma, Bologna, Mantua, Modena, หรือ Emilia Romagna)
สปาเก็ตตีโบโลญญ่า
ในขณะที่ สปาเก็ตตีโบโลญญ่า ปรุงมาในสไตล์ของเมืองโบโลญญ่า เนื้อสับผัดกับซอสมะเขือเทศจึงมีรสชาติจัดจ้านกว่าอาหารทางภาคกลาง เป็นเมนูสปาเก็ตตีที่ถูกปากคนชอบกินเนื้อไม่น้อยทีเดียว
หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว
ปลากะพงขาวอบยัดไส้ผักโขมและเห็ดเสิร์ฟพร้อมซอสเนยมะนาว
สำหรับเมนูยอดนิยมของ ซาล่า โรสซ่า ที่ใครมาเป็นต้องสั่ง ซึ่งเราชิมแล้วเห็นด้วยแบบไม่ค้าน นั่นคือ หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว (490 บาท) กับ ปลากะพงขาวอบยัดไส้ผักโขมและเห็ดเสิร์ฟพร้อมซอสเนยมะนาว (620 บาท)
หอยแมลงภู่สดจากนิวซีแลนด์อบมาในซอสไวน์ขาวที่ได้รสชาติและกลิ่นชวนให้คิดถึงทะเล ส่วนปลากะพงขาวอบมาหอมละมุนเนื้อนุ่มและผักโขมที่ยัดไว้ในตัวปลานั้นกลมกล่อมมาก
อาหารเรียกน้ำย่อย
อาหารจานสลัด
เมนูอาหารมีค่อนข้างมากและหลากหลาย เรียกว่าต้องใช้เวลาตัดสินใจในการเลือกพอสมควรเลย เช่นเดียวกับของหวานที่มีทั้งเชอร์เบ็ตมะนาว ไอศกรีมโฮมเมดหลากรสจาก Ghignoni แบรนด์ดังระดับแชมป์ของอิตาลี ทีรามิสุ (240 บาท) รวมไปถึงแอปเปิ้ลอบเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา (240 บาท)
เราเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเที่ยงและบรรยากาศที่อบอุ่นภายใน ซาล่า โรสซ่า จนถึงเวลาพักเบรกช่วงบ่ายของร้าน เพราะไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกับสถานที่สำหรับนั่งคุยกันได้สบาย เดินทางสะดวก ไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญมีอาหารรสดี ในราคาไม่แรง แถมด้วยบริการที่เอาใจใส่
จะบอกว่าเป็นคนง่ายๆ จะมีใครเชื่อมั้ยนี่
ซาล่า โรสซ่า (Sala Rossa)
- ที่ตั้ง : ชั้น G อาคารแกรนด์ ซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถนนราชดำริ (จอดรถได้ในอาคาร)
- เปิดบริการ : ทุกวัน มื้อกลางวัน 11.30-14.30 น. มื้อค่ำ 17.30-22.30 น. โทร.0 2650 5445, 064 664 1151
- เฟซบุ๊ก Sala Rossa