‘ข้าวแช่เจ้าพระยา’ ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ประเทศไทย
เสน่ห์อาหารฤดูร้อน ประเทศไทย ต้องยกให้กับ ‘ข้าวแช่’ เพราะไม่มีอาหารแบบนี้ที่ใดในโลก วันนี้ หมูหวานชวนชิม ขอแนะนำ ‘ข้าวแช่เจ้าพระยา’ ณ ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ‘เชฟอ้น’ กล่าวว่า เมนูนี้น่าจะเป็น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ได้
ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ห้องอาหารไทย ดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงนี้มีเมนูประจำฤดูร้อน ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย นำเสนอ ข้าวแช่เจ้าพระยา เป็น ข้าวแช่ รสชาติชาววังที่มีเอกลักษณ์ มาพร้อมเครื่องเคียงรสโอชา
ตลอดเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2567 พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำทันใดที่ หมูหวานชวนชิม หลบอากาศร้อนเข้าไปนั่งในร้านภายใต้บรรยากาศแบบไทยคลาสสิค แอร์เย็นฉ่ำ
พนักงานสาว ก็มาเสิร์ฟ น้ำส้มฉุนลิ้นจี่ระกำ รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี หอมเย็นสดชื่น เครื่องดื่มโรยด้วยหอมแดงเจียว และถั่วป่น อันเป็นเอกลักษณ์ของ ส้มฉุน ตามมาด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยโบราณ อย่าง ม้าฮ่อไส้ถั่ว สูตรพิเศษเพื่อเปิดต่อมรับรส ก่อนสำรับ ข้าวแช่ชาววัง จะมาเสิร์ฟ
ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ แห่งนี้ อาหารไทย อร่อยถูกปากอยู่แล้ว พอมาทำ ข้าวแช่ ก็ อร่อย ถูกใจเข้าไปอีก ดื่มด่ำกับ น้ำส้มฉุนลิ้นจี่ระกำ และ ม้าฮ่อไส้ถั่ว แล้ว ก็ได้เวลา ข้าวแช่เจ้าพระยา นำมาเสิร์ฟ
หมูหวานชวนชิม ได้ลิ้มรส ‘ข้าวแช่’ อันมี ข้าวหอมมะลิ แช่ในน้ำร่ำดอกไม้หอมเย็น มาพร้อมเครื่องเคียงรสโอชาที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ประกอบไปด้วย พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้งห่อไข่แพ
พริกแห้งบางช้างสอดไส้ปลาผัด ลูกกะปิชุบทอด ปลายี่สนผัดหวานปั้นก้อน ม้าอ้วนปลากุเลา ยำมะม่วงมะพร้าวคั่ว ไชโป๊ผัดหวาน หมูฝอยหอมเจียว อัญชันสอดไส้ไก่
ลีลาวดียัดไส้กุ้งสามเกลอ หอมแดงยัดไส้ไก่ผัด ไข่แดงเค็มชุบทอด และผักแนมแกะลาย ปิดท้ายด้วยของหวานอันน่ารื่นรมย์ อย่างน้ำแข็งใสลูกตาลน้ำกุหลาบวุ้นผลไม้ ที่เห็นแล้วก็ตกหลุมรักทันที
สำรับข้าวแช่เจ้าพระยา เสิร์ฟที่ ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เชฟอ้น- อนุกูล พูลพิพัฒน์ เล่าถึงธีม ข้าวแช่ ปีนี้ว่าต้องการทำ ข้าวแช่เสิร์ฟในตู้กับข้าว ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจาก ตู้กับข้าวคุณยาย เดิมเขาเติบโตมากับครอบครัวที่ทำฟาร์มเลี้ยงปลาช่อน มีการถนอมอาหาร ในตู้กับข้าวจะมีอาหารแห้งอาทิ ปลาช่อน ปลาสลิด กุ้ง ปลาเค็ม ไข่เค็ม ฯลฯ วัตถุดิบในตู้กับข้าวเหล่านี้สามารถนำมาสร้างสรรค์เมนู ทอด ฉาบ และอื่นๆ
'เชฟอ้น' เจ้าตำรับ ข้าวแช่เจ้าพระยา
“ความพิเศษของกับข้าวบ้านเรามี 18 อย่าง ถือว่าเยอะที่สุดในพระนครแล้ว ถ้ารวมอะลาคาร์ทอีก 4 อย่าง ก็จะกลายเป็น 20 กว่าอย่าง เราอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสรสชาติที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน มีหมู ไก่ เนื้อ น้ำจืด น้ำเค็ม มังสวิรัติ เรามีหมดในนั้น
วิธีการกินข้าวแช่ที่ถูกต้อง ต้องสะอาด หมดจดตั้งแต่คำแรกจนจบ คือเราจะไม่เอากับลงไปในข้าว และเป็นการสร้างสรรค์ทุกๆคำ อย่างลูกกะปิ เราสามารถทานกับเครื่องผัก เพื่อสัมผัสรสหลายมิติได้ เราเสิร์ฟลูกกะปิในสำรับ 3 คำ ทานกับกระชาย 1 เสี้ยว ก็จะเป็นรสชาติใหม่ ลูกกะปิกับมะม่วงก็จะได้อีกรสชาติหนึ่ง ลูกกะปิกับต้นหอมก็จะได้อีกรสชาติหนึ่ง
ทานกับข้าวพร้อมผัก ล้างปากด้วยข้าวและน้ำ เพื่อจะเริ่มทานในคำต่อๆไป ความพิเศษอีกอย่างคือ ของทอดเรากรอบไม่อมน้ำมัน ดังนั้นจะไม่มีความเลี่ยนในทุกๆคำที่ทาน
อิ่มพอดีแล้วก็ตบท้ายด้วยขนมหวาน ลูกตาลลอยแก้วในน้ำเชื่อมกุหลาบ ลูกค้าบางท่านชอบทานข้าวกับน้ำมาก สั่งเพิ่มได้ ความพิเศษของข้าวเราก็จะอบควันเทียน ก่อนนั้นจะลอยดอกไม้ทั้ง 4 อย่างเลย ชมนาด กุหลาบมอญ มะลิ กระดังงาไทย วิธีทำแบบดั้งเดิม เผากระเปาะของกระดังงา เพื่อให้มีความหอมเย้ายวน
การทำน้ำดอกไม้ จะมีทั้งแช่ลงไปในน้ำและลอยจริงๆก็คือหาภาชนะที่ลอยน้ำแล้วใส่ดอกไม้ลงไป เช่นมะลิตูมเกือบบาน เพื่อให้เขาไปบานสมบูรณ์ในน้ำ ความหอมจะฟุ้งกระจายตอนที่เขาผลิบาน ชมนาดต้องเก็บตอนเย็นเท่านั้น จะมีกลิ่นหอมหวานเหมือนข้าวที่สุกใหม่ กุหลาบมอญสีชมพู จะหอมสดชื่น
เราจะร่ำน้ำ 3 วัน ทำเวลาเดียวกันตักขึ้นเวลาเดียวกัน พอเราจะทานจะได้รับทั้งความหอมสดชื่น หวานละมุน และมีความเย้ายวน ของกระดังงารนไฟ เวลาพลบค่ำเป็นเวลาที่เราจะร่ำ น้ำดอกไม้ เพราะเก็บมาก็ทำเลย คนโบราณได้คิดไว้แล้วว่าช่วงไหนคือเหมาะสมที่สุด”
น้ำส้มฉุน ลิ้นจี่ ระกำ หอมหวานสดชื่น
'ม้าฮ่อ' พอดีคำ
กุหลาบมอญสีชมพู ร่ำทั้งดอก หลังจากนั้นนำกลีบมาทำน้ำแข็งก้อน ที่มีกลีบดอกกุหลาบ น่ารักมีเสน่ห์เป็นยิ่งนัก ในส่วนของ น้ำลอยดอกไม้
เชฟอ้น เล่าว่า สามารถนำไปทำสลิ่ม ที่มีกลิ่นหอม หรือคั้นน้ำกะทิราดขนมหวาน หรือวุ้นดอกไม้ได้ กลิ่นดอกไม้จากธรรมชาติจะหอมอ่อนๆ สมัยเด็กๆ คุณยายนำดอกมะลิไปแช่ไว้ในกระติกน้ำที่มีก้อนน้ำแข็ง กลางวันร้อนๆตักน้ำมาดื่มจะมีกลิ่นหอมของดอกไม้เพิ่มความสดชื่น
ข้าวหอมมะลิ หุงมาหอมๆนุ่มๆ พร้อมน้ำแข็งทำจากน้ำลอยดอกไม้
‘ข้าวหอมมะลิ’ ที่เชฟอ้นใช้ ก็คัดเลือกมาอย่างดี เคี้ยวเหนียวนุ่ม รินน้ำลงไปแล้วน้ำต้องไม่ขุ่น กับข้าว 18 อย่าง พริกบางช้างสอดไส้ทำยากสุดเพราะมีหลายขั้นต้อน ได้พริกแห้งมาต้องแคะเม็ดออกแล้วนำไปแช่น้ำ แล้วตากแดดให้กลับมาเป็นพริกแห้งเหมือนเดิม แล้วนำปลาแห้งมาโขลก ผัดพริกแกง ยัดไส้ แล้วนำไปทอดอีกครั้ง
เชฟอ้น ต้องการทำข้าวแช่ ที่รับประทานแล้ว อร่อย ครบทุกรสสัมผัส ด้วยความที่ศึกษาตำราอาหารโบราณมามาก เขาพบว่ากับข้าวของ ‘ข้าวแช่’ รวบรวมมาได้ 26 อย่าง เนื่องจากเจ้าจอมแต่ละสมัยมีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่ได้มาใหม่
รวมถึงสร้างสรรค์จานชามที่ใส่ข้าวแช่ รวมทั้งการออกจากวังมาใช้ชีวิตข้างนอก เชิญเพื่อนมาที่บ้าน แต่ละปีก็จะเปลี่ยนภาชนะการเสิร์ฟ ปีนี้ใช้ภาชนะแก้ว ปีหน้าเสิร์ฟในภาชนะที่เอามาจากอินเดีย อีกปีภาชนะจากอังกฤษ ฯลฯ บ่งบอกถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ รสนิยม และฐานะ
“ในรัชกาลที่ 2 ผมอ่านเจอว่าห้ามใช้เครื่องแก้ว เพราะสมัยนั้นหายาก ให้ใช้กระเบื้องเคลือบ พอยุค ร.5 ร.6 เฟื่องฟูมาก บางสำรับเสิร์ฟในเครื่องเงิน ผมอยู่ในวงการอาหารไทยมา 15 ปี ข้าวแช่ เป็นสำรับที่อ้นชอบ รู้สึกว่าเป็นอันเดียว Festive เดียวที่ชัดเจนที่สุดว่ามันคือ อาหารไทย อาหารทั่วโลกในแต่ละประเทศก็จะมีบ่งบอก
เช่นอีสเตอร์ต้องกินไก่งวง ตับห่าน บ้านเรา สงกรานต์ต้องกินข้าวแช่ ดังนั้นเป็น Festiveที่ชัดเจนเรื่องอาหารไทย อ้นจึงเก็บข้อมูลและชอบที่จะทำมาก สำหรับที่นี่ผมทำปีที่ 5 แล้ว ปีแรกเสิร์ฟในหม้อดินเผา จากนั้นเป็นเสิร์ฟจานกระเบื้อง และเป็นปีแรกที่ทำแบบนี้ ปีหน้าจะทำกับ 26 อย่าง ให้เลือกว่าอยากอะไร”
ลูกตาลลอยแก้วน้ำกุหลาบ สีชมพูหอมชื่นใจ
แรงบันดาลใจมาจาก 'ตู้กับข้าวของคุณยาย'
หากมา 2 ท่าน เพิ่มเติมจานนี้เสริมอาหารที่เสิร์ฟในตู้กับข้าว
หมูหวานชวนชิม ขอแนะนำให้ลองสั่ง เครื่องเคียงในแบบ เมนู อะ ลา คาร์ท เพิ่มเติมอาทิ เมนูเนื้อแผ่นลูกผักชี (180++) ปลาช่อนนาฉาบสามรส (220++) กุ้งเสียบฉาบหวาน (180++) ปลาหมึกวงฉาบเค็มพริกแห้ง (180++) และ ถั่วทองทอด (180++)
ต้องบอกว่าได้ดื่มด่ำกับอาหาร ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย อย่าง ข้าวแช่เจ้าพระยา ในบรรยากาศ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่างมีเสน่ห์ เติมเต็มความสุขในช่วงฤดูร้อนได้อย่างแท้จริง
บรรยากาศห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์
ห้องอาหาร เดอะ สยาม ที รูมท์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เสิร์ฟสำรับ ‘ข้าวแช่’ ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป เวลา 12:00 – 00:00 น. ราคา 920++ สำหรับเซตละหนึ่งท่าน และราคา 1,820++ สำหรับเซ็ตละสองท่าน อีกทั้งยังสามารถสั่งกลับบ้านบรรจุในตระกร้าสานสวยงามในราคา 850++
‘ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์’ สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกทั้งทางบก และทางน้ำ รวมไปถึงเรือรับส่งฟรีจากท่าเรือติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน
สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาโทร. +66 (0) 2 059 5999 อีเมล [email protected] หรือจองผ่าน https://sevn.ly/xw92S4UF
เว็บไซต์: www.thesiamtearoom.com/asiatique-branch
เฟสบุ๊ก: https://www.facebook.com/siamtearoom
อินสตาแกรม: www.instagram.com/thesiamtearoom/
ไลน์ @thesiamtearoom