เยี่ยมร้านใหม่ "Ohh คุณพระ" สำรับกับข้าวไทยที่เลือนหาย ณ ท่าเรือปากคลองตลาด

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่าลมร้อนไปชมนิทรรศการ “เอกสารล้ำค่าจารึกสยาม” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ได้ชมชุดเอกสารโบราณยุคจารีตที่บันทึกอยู่ในรูปแบบของศิลาจารึก หนังสือสมุดไทย เอกสารใบลาน เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง คัมภีร์อันกุรอาน จินดามณี  ตลอดจนแผนภูมิของแผ่นดิน (แผนที่โบราณ) ไปจนถึงกฎหมายตราสามดวง สนธิสัญญาเบาว์ริง เป็นต้น 

กล่าวได้ว่าเป็นนิทรรศการที่นำเสนอเอกสารล้ำค่าที่เราต่างได้รู้จักกันในบทเรียนสมัยเป็นนักเรียนนักศึกษากันมาแล้ว อีกทั้งยังมีเอกสารอีกมากมายที่เปิดให้เราได้รู้จักประวัติศาสตร์บ้านเมืองในแง่มุมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย

เยี่ยมชมนิทรรศการด้วยความอิ่มเอมใจที่ได้เห็นจำนวนผู้เข้าชมอย่างหนาตา เราจึงอยากส่งท้ายวันดีๆ ด้วย อาหารไทย เพื่อให้สมกับบรรยากาศ

Ohh คุณพระ ปากคลองตลาด

ระเบียงร้าน "Ohh คุณพระ"

ทราบมาว่า Ohh คุณพระ ร้านอาหารไทยที่มีเครื่องแขวนตรงหน้าต่างที่งามจับตาตรงท่าเตียนย้ายร้านมาอยู่ที่บริเวณท่าเรือปากคลองตลาด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เราสี่คนจึงพากันไปที่นั่นเพราะอยากจะไปซื้อดอกไม้และชมพระอาทิตย์ตกดินตรงแถวนั้นด้วย

ด้วยความที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ในร้านจึงมีเมนูอาหารจานเดียว และอาหารไทยให้บริการไม่มากนัก เราจึงสั่ง ข้าวตังหน้าตั้ง ปลาแห้งแตงโม หลนปลากุเลา พริกขิงตามเสด็จ และ ต้มยำกุ้ง มารับประทานด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อยว่ามีเมนูน้อยไปหน่อย 

ครั้นพออาหารมาเสิร์ฟชิมแล้วรู้สึกว้าวในระดับหนึ่ง จนได้สนทนากับ เชฟจ้า – ชัชวาลย์ วรวิทย์สัตถญาณ แล้วกินตามคำแนะนำของเชฟคราวนี้เข้าใจเลยว่าทำไมร้านจึงได้ชื่อว่า Ohh คุณพระ เพราะกินแล้วอยากอุทานว่า “โอ้ ! คุณพระ” ขึ้นมาทันที

ปลาแห้งแตงโม

เริ่มต้นที่อาหารคลายร้อน ปลาแห้งแตงโม ที่แกะสลักชิ้นแตงโมสวยงาม มาพร้อมกับปลาแห้งที่มีเนื้อเนียนละเอียดไปพร้อมกับเครื่องปรุงที่กรุ่นกลิ่นไปด้วยความหอมของส้มซ่า

“ปลาแห้งของเราจะมองไม่เห็นน้ำตาล หอมเจียว เนื้อปลาเลย เพราะว่าทุกอย่างเป็นนำไปโขลกจนละเอียดยิบ นำไปคั่วจนมีรสชาติแล้วก็ค่อยมาโรยส้มซ่าทีหลัง กินคู่กับแตงโมที่เราสั่งจากเจ้าประจำ หน้าร้อนแตงโมจะอร่อยที่สุดค่ะ ถ้าไปกินหน้าฝนแตงโมจะฉ่ำน้ำเกินไปรสจะไม่ค่อยหวาน เม็ดก็จะมาก” เชฟจ้าอธิบาย

ได้กินแตงโมหวานๆ คู่กับปลาแห้งกลิ่นหอมรสกลมกล่อมที่ไม่หวานนำและเข้ากันพอดี เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ชื่นใจดีจริง ๆ จากนั้นก็มาต่อกันที่ ข้าวตังหน้าตั้ง ของ Ohh คุณพระ กันต่อ 

ข้าวตังหน้าตั้ง

“เป็นเมนูผสมผสานระหว่างบ้าน เจ้าคุณมไหสวรรย์ กับบ้านของตัวเอง (เดิม “ชวกุล” ต่อมานำราชทินนามมาเป็นนามสกุล วรวิทย์สัตถญาณ) จุดเด่นของบ้านเจ้าคุณ คือ มีกระเทียมสดฝานเป็นแผ่นๆ กับใส่ข้าวหมากลงปรุงรสในหน้าตั้ง แต่เนื่องจากลูกค้าไม่ชินว่าทำไมถึงมีกระเทียมฝาน จึงถอดกระเทียมออก

ส่วนสูตรของที่บ้านใส่กุ้งสดและกุ้งแห้งลงไปด้วย ไม่ใส่ถั่วลงไปในหน้าตั้ง แต่ใช้วิธีโรยถั่วลงไปแทน ผิดกับทุกที่เพราะถ้าเราใส่ถั่วลงไปทิ้งไว้ระยะหนึ่งถั่วจะบานทำให้แล้วหมดอร่อย เลยเลือกที่จะทำเหมือนที่บ้านดีกว่า” เชฟจ้าอธิบายทำให้เราได้ความรู้ใหม่ เช่นเดียวกับ หลนปลากุเรา และ น้ำพริกตามเสด็จ ที่มีเรื่องราวและวิธีกินที่อร่อยกล่าวคือ

หลนปลากุเรา

“หลนปลากุเรา เป็นของกินโบราณที่ต้องอยู่คู่กับปลาทอด จะเป็นปลาสลิด ปลาดุกฟูก็ได้ เหตุผลที่ต้องเป็นปลาทอด เพราะว่าหลนมี 3 รส พอมากินกับปลาทอดรสชาติจะกลมกลืนกัน ทำให้หลนมีรสไม่จัดจนเกินไปนัก เมื่อกินแล้วอยากจะกินผัก นี่คือ หลน 

พริกขิงตามเสด็จ

สำหรับ พริกขิงตามเสด็จ ต้องกินทุกอย่างในคำเดียวกัน ในหนึ่งคำมีน้ำพริก กระเทียมดอง ไข่เค็ม จะได้ครบรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด

เหตุที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำพริกตามเสด็จเพราะว่าเวลาเดินทางสามารถนำน้ำพริกนี้เป็นนำพริกตั้งต้นที่จะนำไปละลายกะทิผัดใส่เนื้อสัตว์ หรือ ไปทำเป็นพริกขิงปลากรอบ และน้ำพริกอื่นๆได้”

ต้มยำกุ้ง

มาถึง ต้มยำกุ้ง เมนูที่ดูเหมือนคุ้นเคยกันดี แต่เชฟจ้าทำให้เราต้องอุทาน “โอ้ !คุณพระ” ขึ้นมาอีกครั้ง

“ต้มยำเป็นต้มยำที่ใส่กะทิ เมื่อก่อนไม่มีต้มยำน้ำข้นหรือน้ำใส  สีแดงที่เราเห็นในต้มยำมาจากมันกุ้งล้วน ๆ ถ้าอยากได้น้ำข้น แค่เติมกะทิลงไปเท่านั้น

เวลาปรุงนี่สำคัญ น้ำปลากับน้ำมะนาวต้องปรุงรองที่ก้นถ้วย เราจึงตักต้มยำลงไป เพราะไม่อย่างนั้นความสดของมะนาวน้ำปลาจะหายไปหมด เพราะโดนความร้อน

อาหารที่นี่รสชาติไม่เผ็ด มีเผ็ดตัวเดียวคือพริกขิง นอกนั้นจะใส่พริกมาเป็นลูกโดด ๆ ให้” ใครกินเผ็ดมากเผ็ดน้อยก็สามารถร่วมสำรับกันได้

ส้มฉุน

ลูกตาลเชื่อมในน้ำตาลสด

ค่ำวันนั้นเราปิดท้ายกันด้วยของหวานที่แสนชื่นใจ ได้แก่ ส้มฉุน ที่มาครบเครื่องด้วยลิ้นจี่ หอมเจียว ขิง และผิวส้มซ่า ส่วนอีกเมนูเป็น ลูกตาลเชื่อมในน้ำตาลสด ที่ให้รสหวานหอมแตกต่างไปจากน้ำเชื่อมปกติ

สนนราคาอาหารและน้ำดื่มทั้งหมดอยู่ที่ 1,060 บาท ได้ยินแล้วถึงกับอุทานชื่อร้านอีกรอบด้วยเกรงว่าคิดราคาผิดไปไหม เนื่องจากอาหารมีหลายรายการอยู่แถมจัดเสิร์ฟมาอย่างประณีตงดงาม

สรุปว่าถ้าใครชื่นชอบอาหารไทยโบราณที่หารับประทานได้ยาก เชฟจ้าแนะนำให้โทรมาจองล่วงหน้า 2-3 วันจะดีกว่า โดยทางร้านจะมีอาหารให้เลือกหลากหลายสำรับ ไม่ว่าจะเป็นสำรับพระนคร หรือ สำรับธนบุรี 

ข้าวแช่ Ohh คุณพระ

ระหว่างหน้าร้อนนี้ไปจนถึง 30 มิถุนายน มีสำรับ ข้าวแช่ บริการชุดละ 650 บาท (รับประทานได้ 2 คน) น้ำข้าวแช่จะไม่อบควันเทียน แต่อบร่ำด้วยดอกชมนาด กระดังงา และกุหลาบมอญ

เครื่องเคียงประกอบด้วย ลูกกะปิชุบไข่ทอด พริกหยวกยัดไส้หมูและกุ้งห่อคลุมด้วยแพไข่ หมูสับปลากุเราเค็มชุบไข่ทอด หอมแดงยัดไส้ปลาช่อนผัดหวานชุบแป้งทอด เนื้อ/หมูฝอยหวาน ไข่แดงเค็มปั้น หัวไชโป๊ผัดหวานโรยด้วยกากหมูเจียว เนื้อปลายี่สนผัดหวาน 

ผักแนมประกอบมี มะม่วง แตงกวา ต้นหอม ดอกพริกชี้ฟ้า กระชายและขมิ้นขาวแกะสลัก
พร้อม ลูกตาลลอยแก้ว หรือ ส้มฉุน เป็นเครื่องหวาน ในชุดข้าวแช่ยังมีเมนูยำหัวปลี หรือ ยำส้มฉุน ให้เลือกรับประทานด้วย 

นับเป็นสำรับข้าวแช่ที่มีเครื่องประกอบมากมายจนต้องอุทานชื่อ Ohh คุณพระ อีกครั้ง ในวันที่เรากลับไปเยือนที่ร้านเป็นคำรบสอง ทั้งนี้ไม่ว่าจะไปกินสำรับไหนขอแนะนำให้โทร.ไปจองล่วงหน้า เพื่อความอิ่มเอมใจค่ะ

 

ร้าน Ohh คุณพระ 

• ที่ตั้ง : ท่าเรือปากคลองตลาด ถนนอัษฎางค์  MRT สถานีสนามไชยทางออกท่าเรือราชินี จอดรถได้ที่จอดรถตลาดยอดพิมาน 
• เปิดบริการ :ทุกวันเว้นวันพุธ 11.00-21.00 น.
• โทร.08 9897 3278 Add line official ID: @ohhkhunpra
• เฟซบุ๊ก Ohh คุณพระ