‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

‘ข้าวแช่’ น่าจะเป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ เพราะเทศกาลกินข้าวแช่ ในหน้าร้อน ของ ประเทศไทย ไม่เหมือนใครในโลก ‘สำรับข้าวแช่’ สวยงาม มีความประณีตพิถีพิถัน ตั้งแต่การหุงข้าว ขัดข้าว เก็บดอกไม้มาทำน้ำลอยดอกไม้ ไปจนถึงการทำลูกกะปิ ฯ

ข้าวแช่ สำรับไทย ที่น่าจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม  ต่อจากวัน สงกรานต์ไทย  'หมูหวานชวนชิม' มองว่าไม่มี อาหารฤดูร้อนของชนชาติใดโดดเด่น สวยงาม และชัดเจนเท่ากับ 'ข้าวแช่' ของประเทศไทย อีกแล้ว

ปัจจุบันนี้ทั้งร้านอาหาร ห้องอาหารในโรงแรม น้อยใหญ่ต่างมี ‘ข้าวแช่’ ให้ได้ลิ้มลองมากขึ้น มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท เรียกได้ว่าหากินได้ไม่ยากเท่าสมัยก่อน บางร้านเสิร์ฟข้าวแช่ยาวนานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว (ตั้งแต่เดือนมีนา-พฤษภาคม)

ความเป็นมา 'ข้าวแช่ไทย' อาหารคลายร้อน เมื่อกว่า 200 ปีก่อน

‘ข้าวแช่’ เป็นอาหารที่มีถิ่นกำเนิดจากชาวมอญ ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา นำไปถวายพระ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่  ทว่า ‘ข้าวแช่’ ได้กลายมาเป็นเมนูอาหารในฤดูร้อนของไทยไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ 

หลักฐานเท่าที่มีบันทึก ก็คือเมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น ได้ถวายงานในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เจ้าจอมฯท่านนี้มีเชื้อสายมอญ ได้ทำข้าวแช่ขึ้นโต๊ะเสวย จนเป็นที่โปรดปราน 

สุนทรภู่ กวีเอกในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ยังกล่าวถึงเมนูข้าวแช่ไว้ในบทประพันธ์ของท่าน นั่นแสดงให้เห็นถึงความมีอยู่ตั้งแต่สมัยนั้น และยังเป็นเมนูโปรด ของในหลวงรัชกาลที่ 4 เมื่อเสด็จไปประทับยังพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี  ก็ยังทรงโปรดเสวย ข้าวแช่ จนเป็นที่มาของข้าวแช่เมืองเพชรบุรีนั่นเอง

เครื่องเคียง ข้าวแช่ ประกอบด้วยลูกกะปิ, ปลายี่สนผัดหวาน, ไชโป๊หวาน , หัวหอมยัดไส้ , พริกหยวกยัดไส้

พอมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านทรงโปรดข้าวแช่มากเช่นกัน เครื่องแนมที่เป็นผักแกะสลักสวยงามก็เกิดในยุคนี้ และ ร.5 ทรงโปรดมะม่วงดิบในสำรับข้าวแช่มาก อาจเป็นเพราะช่วยเพิ่มความสดชื่นและแก้เลี่ยนได้ดี

ดังนั้น ‘ข้าวแช่’ มีต้นกำเนิดมาจากชาวมอญก็จริง  ทว่าสำรับข้าวแช่วังหลวง มีการเพิ่มเติมประดิดประดอย ออกมาหน้าตาดูดี มีการคิดสูตรกับข้าวเพิ่มเติมอีกมากมาย

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ 'ข้าวแช่' สำรับอาหารไทยหน้าร้อน มีข้าวกับน้ำลอยดอกไม้ หอมๆ เย็นๆ และกับข้าว อิ่มท้องสบายๆ 

เชฟอ้น อนุกูล พูลพิพัฒน์ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ มองว่า ไม่มีอาหารแบบนี้ที่ใดในโลก ข้าวแช่ น่าจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (SoftPower) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

เชฟอ้น 

‘เชฟอ้น’ ศึกษาตำราอาหารโบราณมามาก เขาได้พบว่ากับข้าวของ ‘ข้าวแช่’ เมื่อรวบรวมดีๆ มีถึง  26 อย่างด้วยกัน เนื่องจากเจ้าจอมแต่ละสมัยมีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่ได้มาใหม่ รวมถึงสร้างสรรค์สำรับด้วยการจัดใส่จานชามสวยงาม

คนในวังเมื่อออกมาใช้ชีวิตข้างนอก  เชิญเพื่อนมาที่บ้าน แต่ละปีก็จะทำข้าวแช่เลี้ยงแล้วเปลี่ยนภาชนะการเสิร์ฟ เพื่อความแปลกใหม่ ไม่จำเจ เช่น ปีนี้ใช้ภาชนะแก้ว ปีหน้าเสิร์ฟในภาชนะที่เอามาจากอินเดีย อีกปีภาชนะจากอังกฤษ ฯลฯ ดังนั้น สำรับข้าวแช่ จึงบ่งบอกถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่รวมถึงรสนิยม และฐานะ อีกด้วย

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ 'กับข้าว' ใน 'สำรับข้าวแช่' 

“ในรัชกาลที่ 2 ผมอ่านเจอว่าห้ามใช้เครื่องแก้ว  เพราะสมัยนั้นเครื่องแก้วหายาก โปรดให้ใช้กระเบื้องเคลือบแทน พอยุค ร.5 ร.6  ข้าวแช่เฟื่องฟูมาก บางสำรับเสิร์ฟในเครื่องเงิน ผมอยู่ในวงการอาหารไทยมา 15 ปี ข้าวแช่ เป็นสำรับที่ผมชอบมากๆ  

รู้สึกว่าเป็นสิ่งเดียว ที่เป็นเฟสทีฟไทย ที่ชัดเจนที่สุด ว่านี่คือ อาหารไทยหน้าร้อน อย่างฝรั่งเขามี เทศกาลอีสเตอร์ ต้องกินไก่งวง ตับห่าน บ้านเรา สงกรานต์ต้องกินข้าวแช่ เป็นเฟสทีฟที่ชัดเจนของไทยเราครับ”   เชฟอ้นกล่าว

การทำ ‘ข้าวแช่’ เป็นงานคราฟต์ที่ต้องใส่ใจในรายละเอียด

‘ข้าวแช่’ เหมาะกับภูมิอากาศแบบเมืองไทย เพราะหน้าร้อนบ้านเรา ร้อนมากจนไม่อยากข้าวปลาอาหาร ดังนั้นสำรับนี้ตอบโจทย์ เพราะเป็นอาหารที่เสิร์ฟแบบเย็น โดยเฉพาะ ข้าว ที่เสิร์ฟใน น้ำลอยดอกไม้ หอมๆ เย็นๆ

ใครยังไม่เคยลองชิมก็จะคิดว่า จะเข้ากันได้อย่างไร พอได้ลองครั้งหนึ่งแล้วจะติดใจ  ผู้คนในยุคปัจจุบัน เด็กรุ่นใหม่ หันมากินข้าวแช่หน้าร้อนกันมากขึ้น ทำให้ร้านอาหารต่างพากันทำข้าวแช่สูตรตัวเองไว้ให้บริการลูกค้า

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

'น้ำลอยดอกไม้' ต้องพิถีพิถันรู้เทคนิคเช่นเก็บดอกไม้ตอนค่ำ อบร่ำจนน้ำมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้

‘ข้าวแช่’ มีน้ำลอยดอกไม้เป็นองค์ประกอบ ทำให้การย่อยอาหารง่ายขึ้น และยังช่วยลดอุณหภูมิ สร้างความสมดุลในร่างกาย คลายร้อน ผิวพรรณแลดูชุ่มชื้น ข้าวแช่ชาววัง สมัยก่อนเขาจะหุงข้าวด้วยน้ำใบเตย แล้วนำมาอบควันเทียน บางสูตรก็จะนำข้าวไปขัด ล้างหลายรอบจนเหลือแต่แกนข้าวแข็งๆ เวลาใส่น้ำลอยดอกไม้ลงไป น้ำไม่ขุ่น แลดูสวยงาม น่ารับประทาน  

ส่วนน้ำที่ใส่ลงไปในข้าวแช่ โบราณมักใช้น้ำฝน ใส่ไว้ในคนโทดินเผา หรือตุ่มดิน เพราะยังไม่มีตู้เย็น ไม่มีน้ำแข็งเหมือนกับสมัยนี้ แล้วนำดอกมะลิ หรือกุหลาบมอญ หรือกระดังงาลนไฟลอยไว้ข้ามคืน

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ลูกกะปิทอด กับหัวหอมสอดไส้ 

กับข้าวแช่ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ  ลูกกะปิทอด  ทำจากกะปิอย่างดี หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด ปลาย่างมะพร้าวคั่ว กระชาย ผัดให้เป็นเนื้อเดียวกันทิ้งให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ชุบไข่ทอดจนหอม แล้วมี

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ พริกหยวกสอดไส้ หรือ หรุ่ม 

พริกหยวกสอดไส้กุ้ง หรือ หรุ่ม  จะนำหมูสับและกุ้งสับปรุงรสแล้วยัดใส่ในพริกหยวกนึ่งจนสุก แล้วห่อต้วยไข่ซึ่งทำเป็นตาข่าย  ‘ไซโป๊ผัด’ วิธีทำก็คือนำหัวไซโป๊เส้นมาเคี่ยวกับน้ำตาล แล้วผัด  ‘ปลายี่สน’ ใช้เนื้อปลากระเบนยี่สนแห้ง มาผัดกับน้ำตาลปึกจนเนื้อหนึบแล้วปั้นเป็นก้อน  

เวลารับประทานข้าวแช่ ให้ตักข้าวก่อน เคี้ยวข้าวแล้วกลืน ตามด้วยกับข้าว อาทิ ลูกกะปิ 1 คำ เด็ดกลีบกระชายที่จักเป็นดอกไม้ คล้ายกับดอกจำปี เคี้ยวตาม สัก 1 กลีบ ก็จะช่วยเพิ่มรสชาติที่แตกต่าง

‘หมูหวานชวนชิม’ ขอแนะนำ ‘ข้าวแช่’ ร้านที่ อร่อย โดนใจ ดังนี้

‘ข้าวแช่เจ้าพระยา’ ห้องอาหารเดอะ สยาม ที รูมท์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จัดสำรับข้าวแช่ ไว้ในตู้กับข้าว ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ตู้กับข้าวคุณยาย  เครื่องเคียงประกอบ ด้วย พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้งห่อไข่แพ พริกแห้งบางช้างสอดไส้ปลาผัด

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ 'เชฟอ้น' หุงข้าวสองสี เสิร์ฟกับน้ำลอยดอกไม้ แถมยังมีน้ำแข็งที่ทำจากน้ำลอยดอกไม้มาช่วยเพิ่มความเย็นและสร้างสีสัน

ลูกกะปิชุบทอด ปลายี่สนผัดหวานปั้นก้อน ม้าอ้วนปลากุเลา ยำมะม่วงมะพร้าวคั่ว ไชโป๊ผัดหวาน หมูฝอยหอมเจียว อัญชันสอดไส้ไก่ ดอกลีลาวดียัดไส้กุ้งสามเกลอ หอมแดงยัดไส้ไก่ผัด ไข่แดงเค็มชุบทอด และผักแนมแกะลายสวยงาม มีเครื่องดื่มอย่าง ‘น้ำส้มฉุนลิ้นจี่ระกำ’ และของว่าง ‘ม้าฮ่อไส้ถั่ว’ ด้วยนะ

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

'สำรับข้าวแช่เจ้าพระยา' 

เสิร์ฟ ‘ข้าวแช่’ ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2567  เวลา 12:00 – 00:00 น. ราคา 920++ สำหรับเซตละหนึ่งท่าน และราคา 1,820++ สำหรับเซตละสองท่าน อีกทั้งยังสามารถสั่งกลับบ้านบรรจุในตระกร้าสานสวยงามในราคา 850++  อีกด้วย

สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาโทร. +66 (0) 2 059 5999 อีเมล [email protected] หรือจองผ่าน https://sevn.ly/xw92S4UF

เว็บไซต์:  www.thesiamtearoom.com/asiatique-branch

เฟสบุ๊ก:   https://www.facebook.com/siamtearoom

อินสตาแกรม: www.instagram.com/thesiamtearoom/

ไลน์ : @thesiamtearoom

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

ข้าวแช่นารา ไทยคูซีน 

นารา x สิริไท (Sirithai)  ‘ข้าวแช่’ จากร้าน ‘นาราไทย คูซีน’  ปีนี้พิเศษตรงที่ใช้ข้าวเกษตรอินทรีย์ปลอดสาร แบรนด์ ‘สิริไทย’ ของนักแสดงสาว เชอรี่-เข็มอัปสร ข้าวออร์แกนิคนุ่มหนึบ มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เสิร์ฟในสำรับหรูคล้ายร้อน มีเครื่องเคียงถึง 12 อย่างด้วยกัน อาทิ พริกหยวกสอดไส้, หัวหอมยัดไส้ทอด, ลูกกะปิปั้นทอด, ไชโป๊เส้นผัดหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, หมูหวานฝอย, พริกแห้งบางช้างทอดสอดไส้ปลาช่อน,  ไชโป๊แผ่นหน้าหมู, ไข่เค็มมุกมณี, หนังปลากรอบไข่เค็ม, กุ้งหวานไชยา, ปลาแห้งแตงโม 

ต้องการชิมข้าวแช่ เชิญได้ที่ ร้านนารา ไทยคูซีนทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2567  ราคาข้าวแช่ชุดละ 890+

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

ข้าวแช่ฝีมือเชฟชัชษร ประทุมมา โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ 

โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นำเสนอ ‘ข้าวแช่’ สำรับไทย คลายร้อน  ณ ห้องอาหารเฟลอริช และ ล็อบบี้ เลาจน์  โดยเชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef และเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงเป็นข้าวแช่พร้อมเครื่องเคียงตำรับชาววัง พร้อมเครื่องเคียง 7 อย่าง อาทิ  

‘ลูกกะปิ’ ใช้กะปิคลองโคลนย่างจนหอม ก่อนโขลกกับเนื้อปลาดุกย่าง ผัดกับกระชาย, ตะไคร้ และข่า ทิ้งให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ นำมาชุบไข่ทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ทานคู่กับกระชายเพิ่มความอร่อย และมี ‘หอมแดงไส้ปลายี่สนผัดหวาน’       

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ เชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

‘ยำมะม่วงกุ้งเสียบ’  ‘พริกหยวกสอดไส้’  ‘หัวไชโป๊วผัดหวาน’   ตามด้วย ‘หมูฝอย’ หรือ ‘เนื้อฝอย’   ผักแนม มีทั้งกระชายสด มะม่วงดิบ และผักสดอื่นๆ เป็นตัวช่วยชูให้รสเครื่องเคียงโดดเด่น

ข้าวแช่ตำรับชาววัง’  เสิร์ฟให้ทุกวัน ณ ห้องอาหารเฟลอริช และ ล็อบบี้ เลาจน์  โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 12:00 – 15:00 น. ในราคาชุดละ 990++ บาทสำหรับ 1 ท่าน หรือสั่งเป็นสำรับกลับบ้าน ในราคาชุดละ 1,290++ บาทสำหรับ 1 ท่าน

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่โทร. +66 02 095 9999 หรือ email [email protected].หรือสั่งซื้อผ่านทาง online shopได้ที่ https://www.sindhornkempinskishop.com/vouchers/khao-chae/ 

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ 'สำรับข้าวแช่โบราณ'  ที่ ห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค)

สำรับข้าวแช่โบราณ  ที่ ห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โดย เชฟพลอย พรทิชา จันทร์สว่าง พร้อมเสิร์ฟ 'ข้าวแช่'  พร้อมเครื่องเคียง 10 ชนิด ได้แก่ พริกหยวกยัดไส้หมูสับและกุ้ง ลูกกะปิ ปลายี่สนผัดหวาน ลูกไข่เค็มทอด เนื้อฝอย หมูฝอย ปลาสลิดเคลือบหวาน หอมแดงยัดไส้ ไก่บดปลาเค็ม และไชโป๊ผัดหวาน ทุกสำรับเสิร์ฟพร้อมของว่างดับร้อนอย่างส้มฉุน และน้ำสมุนไพรอัญชันมะนาว

ให้บริการทุกวันตลอดเดือนเมษายน 2567 ในราคา 850 บาทสุทธิ ต่อสำรับ สั่งกลับบ้าน ราคา 1,200 บาทสุทธิ (บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) ให้บริการตั้งแต่เวลา 12.00 – 16.00 น. ที่ห้องอาหารเจดับบลิว คาเฟ่ และยังให้บริการข้าวแช่ในบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน ราคา 1,795 บาทสุทธิ ต่อท่าน เฉพาะวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567

และในบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อสายวันอาทิตย์ ราคา 2,972 บาทสุทธิ ต่อท่าน ตลอดทั้งเดือนเมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.00 น.ห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 21.00 น. และห้องอาหารเจดับบลิว คาเฟ่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 10.30 น. (มื้อเช้า) เวลา 12.00 – 15.00 น. (มื้อกลางวัน) และเวลา 17.30 – 22.00 น. (มื้อค่ำ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 02.656.7700

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ‘ข้าวแช่คลายร้อนมื้อกลางวัน’  ที่ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

ข้าวแช่คลายร้อนมื้อกลางวัน  ที่ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ จัดเมนูที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรม ปีละครั้ง กับเมนู ‘ข้าวแช่’ตลอดเดือนเมษายน 2567 นี้ ที่ห้องอาหารดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ บริการทั้งในรูปแบบบุฟเฟต์มื้อกลางวัน และเมนูตามสั่งตลอดวัน

สำรับนี้ ใช้ ข้าวหอมมะลิอบควันเทียน หอม นุ่ม น้ำลอยดอกไม้หอมเย็นสดชื่นจากดอกมะลิ  เสิร์ฟพร้อม เครื่องเคียงต่างๆ อาทิเช่น ลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ หอมแดงทอด ปลายี่สนผัดหวาน หัวไชโป๊หวาน หมูฝอย มาพร้อมผักแกะสลัก อย่างวิจิตรบรรจง ทั้งกระชาย มะม่วง แตงกวา

รับประทานกันได้อย่างไม่อั้นเฉพาะมื้อกลางวันรวมกับบุฟเฟต์นานาชาติทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. เพียงท่านละ 659 บาทถ้วน (จากปกติ 900 บาท) หรือทานเป็นชุดตามสั่งได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. เพียงชุดละ 359 บาท ++

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8413-4 หรือไลน์ @theemeraldhotel และ

www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ‘ข้าวแช่ตำรับทองหล่อ’ แถมมีบริการเดลิเวอรี่ ในแพคเกจที่เลอค่า

ร้านอาหารไทย ‘ทองหล่อ’ เสิร์ฟ ข้าวแช่ตำรับทองหล่อ แถมมีบริการเดลิเวอรี่ ในแพคเกจที่เลอค่า (ขั้นต่ำ 3 ชุด/ออเดอร์) สั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2567  (สั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน) เมนู ‘ข้าวแช่’ คลายร้อนในสำรับมี ลูกกะปิทอด หอมแดงไทยนึ่งหมูสับปลาเค็ม พริกหยวกสอดไส้กุ้งและเนื้อปู ไข่ไหมทอง หมูฝอยเส้นทอง ปลายี่สนผัดหวาน และไชโป๊น้ำผึ้งผัดหวาน

เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิไทยในน้ำลอยดอกไม้ และเครื่องเคียงผักและผลไม้ โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ  ‘สำรับข้าวแช่ปิ่นโตจรุงใจ’  ราคา 1,999 บาท (สำหรับ 2 ท่าน) และ ‘สำรับข้าวแช่จรุงใจ’ ราคา 1,299 บาท (สำหรับ 2 ท่าน) ราคาดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว

สำรับข้าวแช่ปิ่นโตจรุงใจ  บรรจุในปิ่นโตสีขาว 4 ชั้น ประดับด้วยพวงมาลัยดอกไม้ และ สำรับข้าวแช่จรุงใจ  บรรจุในกล่องสีขาว 4 กล่อง ประดับด้วยผ้าตาข่ายสีเทาและริบบิ้น พิเศษสุด เมื่อสั่งข้าวแช่ชุดใดก็ได้ ครบ 3 ชุด  รับฟรี! แตงโมปลาแห้ง 1 ชุด สำหรับค่าจัดส่ง ทางร้านจะคิดตามระยะทางจริงที่ลูกค้าแจ้งเส้นทางจัดส่งโดย Grab Car หรือ Lalamove

ร้านอาหารไทย ‘ทองหล่อ’  ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ ชั้น 2 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เวลาเปิด-ปิดของทางร้านขึ้นอยู่กับวันที่มีการจัดงานแสดงสินค้า สอบถามเพิ่มเติม โทร. 091-770-8516 และไลน์: @thonglorcuisine ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ ได้ทาง เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม Thonglor Cuisine

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ‘บัลโคนี่ เลาจน์’ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok)

‘บัลโคนี่ เลาจน์’ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok) เสิร์ฟข้าวแช่ อาหารในราชสำนักตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ที่ประกอบด้วยข้าวหอมมะลิเย็นฉ่ำลอยน้ำดอกมะลิและกุหลาบ ให้บริการพร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ ได้แก่

หอมแดงสอดไส้ปลาชุบแป้งทอด หมูฝอย และลูกกะปิทอด เป็นต้น ขอเชิญไปลิ้มรสความอร่อยของ ‘ข้าวแช่สูตรต้นตำรับ’ ในบรรยากาศที่เรียบหรูของ ‘บัลโคนี่ เลาจน์’  ได้ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายน 2567 ให้บริการเวลา 11.00 น. ถึง 17.00 น. ราคาชุดละ 460++ บาท

สำรองที่นั่งสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  ได้ที่ อีเมล [email protected] หรือโทร +66 (0) 2 656 0444  เว็บไซต์ InterContinental.com/Bangkok (ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’

‘ชุดข้าวแช่ชาววัง’ ที่ ห้องอาหาร Bangkok’78 โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ

ชุดข้าวแช่ชาววัง ที่ ห้องอาหาร Bangkok’78 โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ (Sindhorn Midtown Hotel) ซอยหลังสวน บริการ ‘ข้าวแช่’ คลายร้อน ตลอดเดือนเมษายน - พฤษภาคม พ.ศ. 2567 จำหน่ายในราคาชุดละ 930 บาทสุทธิ สั่งกลับบ้านแพคเกจสวยงาม ราคา 1,090 บาท (สั่งจองล่วงหน้า 3 วัน)

เชฟกอล์ฟ เตรียมเครื่อง 8 อย่าง เครื่องเคียงเน้นวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิ ไชโป๊ จากราชบุรีผัดหวานแล้วอบควันเทียน มีความหอม หวาน เค็ม ลงตัว ‘หมูฝอย’ โรยด้วยหอมเจียว ‘ลูกกะปิ’ ใช้กะปิจากคลองโคน ผัดจนหอมหนึบกำลังดี ชุบไข่เป็ดทอด ‘ปลายี่สน’ ผัดหวานกลมกล่อม ‘ไข่แดงเค็ม’ นวดแล้วปั้นก้อนทอด

‘หอมแดงสอดไส้’ ใช้ปลาช่อนนา จากแม่ลา สิงห์บุรี นำเนื้อปลามาย่างแล้วโขลกจนฟู แล้วนำมาผัดกับเครื่องอาทิมะพร้าวและถั่วลิสงนำไปสอดไส้แล้วชุบแป้งทอด  ‘อัญชันสอดไส้’ นำกุ้งสับหมักกับสามเกลอ ‘พริกหยวกสอดไส้หมูสับ’ เชฟนำหมูบดผสมกับกุ้งสับ คลุกเคล้ากับสามเกลอ ก่อนนำไปยัดไส้นึ่ง แล้วห่อด้วยหรุ่ม (ตาข่ายที่ทำจากไข่โรยในกระทะ)

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ปลาแห้งแตงโม 

‘ปลาแห้งแตงโม’ เชฟใช้ปลาช่อนจากสิงห์บุรีเช่นกัน ‘ส้มฉุนหิมะ’ มีทั้งลิ้นจี่ ลำไย สดชื่นจริงๆ สูตรนี้เชฟนำน้ำลอยดอกไม้ก่อน อาทิ กุหลาบ มะลิ กระดังงา แล้วนำไปอบควันเทียนดอกไม้รวมทีหลัง เพิ่มความหอม ที่ซับซ้อนอย่างเป็นธรรมชาติ

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ห้องอาหาร Bangkok’ 78 ห้องอาหารไทยสไตล์เรโทร ย่านหลังสวน อยู่ใน โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ (Sindhorn Midtown Hotel) เลขที่ 68 ซอยหลังสวน ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน โทร. 02 796 8888

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ‘ข้าวแช่’ ฝีมือ ‘เชฟเรณู หอมสมบัติ’ หมูหวานชวนชิม นำมาจัดสำรับเบนโตะ ที่บ้าน 

ข้าวแช่ ที่ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ปีนี้ เชฟเรณู หอมสมบัติ หัวหน้าเชฟอาหารไทย ซึ่งได้จัดเตรียมนำข้าวมาแช่ในน้ำอบควันเทียนลอยดอกมะลิหอมละมุน เสิร์ฟพร้อมสารพันเครื่องเคียง อาทิเช่น ลูกกะปิ  หอมแดงสอดไส้เนื้อปู พริกหยวกสอดไส้กุ้ง ปลายี่สนผัดหวาน แนมด้วยผักสดแกะสลักสุดประณีต เสิร์ฟคู่กับข้าวหอมๆในน้ำอบควันเทียนลอยดอกมะลิ จบสวยๆ ด้วยเมนูของหวานสุดพิเศษอย่าง ทับทิมกรอบ หรือไอศกรีมรสใบเตย หอมหวานลงตัว คลายร้อนได้ดี

‘ข้าวแช่’ เชฟเรณู พร้อมเสิร์ฟ ตั้งแต่วันที่ 7- 30 เมษายน 2567 ราคาชุดละ 750 บาท หรือจะสั่งกลับบ้านในรูปตะกร้าสานลายสวยงามพร้อมพวงมาลัยดอกไม้ ราคาชุดละ 1,400 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ 02 679 1200

‘ข้าวแช่’ ซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย  ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ จะเห็นได้ว่า ​‘ข้าวแช่’ น่าจะเป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ เพราะ เทศกาลกินข้าวแช่ ในหน้าร้อน ของ ประเทศไทย ไม่เหมือนใครในโลก วิจิตร บรรจง สวยงาม ประณีตพิถีพิถัน....เชื่อว่า ปี 2568 สำรับข้าวแช่ไทย....นับวันจะเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากขึ้น