‘หัวหิน’ ภัตตาคารไหหลำ 70 ปี ตรงข้าม สน. ‘นางเลิ้ง’

หัวหิน แท้จริงแล้วมาจากสำเนียงภาษาจีน หัว หมายถึง คนจีน,   หิน หมายถึง ความเจริญ 

คุณ ชูชาติ ดวงทวีทอง ผู้สืบทอดกิจการ หัวหินโภชนา จากรุ่นพ่อที่เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 กล่าวถึงที่มาของชื่อ ‘หัวหิน’ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับ อ.หัวหิน แต่อย่างใด

บรรยากาศภายในร้านหัวหินโภชนา 

ชั้นบนของร้านเป็นห้องแอร์

“เหตุที่เป็น จีนเจริญ เพราะว่าคุณลุงมาเปิดกิจการหล่อเหล็กชื่อว่า ไทยเจริญ คุณพ่อผมตามมาจากเมืองจีนมาช่วยพี่ชายแต่ด้วยสุขภาพไม่ดี ทำงานหล่อเหล็กไม่ได้ เนื่องจากมีทั้งผงถ่านและความร้อนสูง สมัยก่อนทำงานกันในตึกแถว อากาศไม่ระบาย คุณพ่อจึงมาเปิดร้านอาหาร เดิมชื่อว่า โภชนากร มีโหรระดับชาติตั้งให้ ต่อมาร้านย้ายมาอยู่ตรงที่ปัจจุบันจึงเปลี่ยนชื่อเป็น หัวหินโภชนา เนื่องจากร้านของพี่ชายชื่อ ไทยเจริญ ร้านของน้องจึงชื่อว่า จีนเจริญ”

คุณชูชาติเล่าให้ฟังว่า ละแวกนางเลิ้ง  หลานหลวง วิสุทธิกษัตริย์ สมัยก่อนจะมีชุมชนชาวจีนไหหลำอาศัยอยู่ โดยมีอาชีพเป็นช่างไม้ ช่างเฟอร์นิเจอร์ เปิดกิจการโรงแรม โรงเหล็ก โรงกลึง และร้านอาหาร 

หากอยากรู้ว่าร้านไหนเป็นร้านอาหารจีนไหหลำให้สังเกตที่ตู้โชว์หน้าร้าน ถ้าเห็นไก่ต้มแขวนโชว์อยู่ก็ใช่เลย

ไก่ตอนจานเล็ก เสิร์ฟพร้อมแตงกวาดอง ข้าวมัน และ น้ำจิ้มรสกลมกล่อม

“ร้านไหหลำต้องมีไก่ตอนแท้ๆ ไม่ใช่เอาไก่เนื้อมาทำมาต้มแล้วมากินกับข้าวมัน ร้านไหหลำจะใช้ไก่จากนครปฐมที่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเหลือฟาร์มเดียวที่เลี้ยงไก่แบบชาวบ้าน จะเป็นไก่ที่มีอายุ 3-4 เดือนแล้วค่อยนำมาขุนหรือที่เรียกว่าตอนจนไก่โต เนื้อไก่ตอนเมื่อนำมาต้มจะมีความกรุบกรอบ นุ่ม ไม่เละ แค่นำมาจิ้มน้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาวก็อร่อยแล้ว”

ด้วยเหตุนี้ ไก่ตอน จึงเป็นเมนูเด่นของอาหารจีนไหหลำ หัวหินโภชนาจะขายไก่ตอนเป็นจานขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ (110/220/330 บาท) ส่วนข้าวมันสั่งแยกต่างหาก

เราสั่งจานเล็กมากิน ยอมรับเลยว่าเนื้อไก่นุ่มเคี้ยวอร่อย น้ำจิ้มก็ดี ส่วนแตงกวาดองที่ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นักแต่รสชาติถูกใจ กินกับข้าวมันหนึ่งถ้วยแทบไม่อยากแบ่งเพื่อนเลย

นอกจากไก่ตอนแล้ว เมนูอาหารไหหลำในตำนานของหัวหินโภชนา ยังมี ชุดสุกี้ไหหลำ (ไก่ หมู เนื้อ ทะเล ราคา 350 – 550 บาท) ขนมจีนไหหลำ (ไก่ หมู เนื้อ เนื้อตุ๋น ราคา 55 – 80 บาท) สตูลิ้นวัว (จานเล็ก 130 จานใหญ่ 250 บาท ) จับฉ่ายผัดแห้ง (จานเล็ก 130 จานใหญ่ 250 บาท) แพะตุ๋นเครื่องยาจีน (330 บาท) และ โอห่วยเนื้อตุ๋น (จานเล็ก 130 จานใหญ่ 250 บาท)

รายการอาหารบนกระดานชวนชิมไปหมด

“โอห่วย เป็นผักดองที่คนไหหลำมีประจำบ้าน ทำมาจากก้านต้นเผือก สมัยก่อนจะรู้กันว่าบ้านไหนทำโอห่วยขายเป็นอาชีพ ก็จะไปซื้อกัน สมัยนี้กลายเป็นของหายาก ต้องไปหาที่พิษณุโลก เกาะสมุย หรือ ภูเก็ตยังพอมี ทางร้านเราตอนนี้ดองเอง นำไปผัด หรือ ตุ๋นเป็นน้ำแกง กินกับน้ำจิ้มไหหลำที่มีรสเปรี้ยวและเค็มจากกะปิ” คุณชูชาติอธิบาย
 

มะระผัดไข่

“คุณพ่อเปิดร้านได้สิบปี ก็แต่งงานกับคุณแม่ จึงมีอาหารไทยเข้ามาร่วมด้วย คุณแม่เป็นลูกชาวจีนไหหลำอยู่ที่บ้านโป่ง ราชบุรี เมนูอาหารไทยเรามีหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นสะตอผัดกุ้ง ปลาเก๋าราดพริก แกงป่า พริกแกงเราตำเอง เมนูร้านเราจึงเป็นอาหารไหหลำและอาหารไทย รวมๆ กันกว่าร้อยรายการ”

คลายข้อสงสัยของชื่อ ‘หัวหิน’ และทำความรู้จักกับอาหารไหหลำในตำนานจากทายาทรุ่นที่สองของร้านแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาชิมกันตามอัธยาศัย เนื่องจากเมนูมีมากมายจริง ๆ เราจึงขอให้สหายร่วมโต๊ะเลือกอาหารที่อยากจะรับประทานกันมาคนละอย่างสองอย่าง

ออส่วนจานเล็ก

หอยจ๊อจานเล็ก

หลังจากเริ่มต้นที่ไก่ตอนที่เราติดใจแตงกวาดองที่กินเข้าคู่กับเนื้อไก่แล้ว ออส่วน (จานเล็ก 130 จานใหญ่ 250 บาท) เป็นอีกจานทีเราถูกใจ ตามด้วย หอยจ๊อ (จานเล็ก 130) มะระผัดไข่ (จานเล็ก 80 บาท) ปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กๆ ราดพริก จานนี้คลุกข้าวสวยร้อนๆ กับพริกที่ราดมาเคี้ยวปลาตัวเล็กที่ทอดกรอบกินไปพร้อมกันเพลินเลย (จานเล็ก 130 บาท) และ สุกี้ไก่น้ำ (สั่งเป็นชาม 90 บาท) หน้าตาอาจไม่ดึงดูดแต่รสชาติสุกี้ดีเลย จดไว้ในใจว่าคราวหน้าจะสั่งแบบเป็นชุดใหญ่เลย

ปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กๆราดพริกจานเล็ก

ไอศกรีมกะทิแบบโบราณ

อิ่มแล้วไม่ลืมกิน ไอศกรีมกะทิ (สกู๊ปละ 35 บาท) ที่คุณชูชาติเล่าว่ายังทำแบบวิธีโบราณด้วยการเขย่าน้ำกะทิในถังไม้จนกว่าจะแข็งตัวเป็นไอศกรีมให้เราได้ลิ้มรสชาติกัน 

หัวหินโภชนา เป็นร้านอาหารจีนไหหลำและอาหารไทยที่ยังคงความคลาสสิกของความเป็นดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ สไตล์การตกแต่ง รวมทั้งเมนูอาหารวันวานที่มีให้เลือกอิ่มหนำสำราญได้มากกว่าร้อยรายการ ในราคาที่สามารถกลับมากินได้อีกบ่อยๆ แบบไม่ต้องเกรงใจกระเป๋าสตางค์

ภาพ : อนุตรา อึ้งสุประเสริฐ

 

หัวหินโภชนา

• ตั้งอยู่บนถนนกระออม เยื้องกับสถานีตำรวจนางเลิ้ง ร้านไม่มีที่จอดรถ ควรวางแผนการเดินทางเพื่อความสะดวกของแต่ละท่าน
• เปิดบริการ 10.30 – 19.30 น. ทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์ - อาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
• โทร. 0 2282 7219 ,โทร. 08 0175 8232