'เบกา ซิซิเลีย' 'ไวน์สเปน' ที่ต่อกรกับ 'ไวน์กรองด์ ครู' ของฝรั่งเศส
มีผู้ถามมาบ่อยว่ามี ‘ไวน์สเปน’ ตัวไหนที่มีคุณภาพเทียบเท่า หรือสามารถปราบ ‘ไวน์กรองด์ ครู’ ของฝรั่งเศสได้บ้าง คำตอบคือมีแน่นอน ยกให้ ‘เบกา ซิซิเลีย’ รุ่น 'อูนิโก' ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่ดีที่สุด แพงที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนกระทิงดุ
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์บอกว่า ไวน์สเปน คุณภาพระดับหลุดโลก เป็นที่โหยหาของคอไวน์ทั่วโลก สามารถต่อกรกับไวน์ระดับสุดยอดของชาติอื่นได้คือ เบกา ซิซิเลีย (Vega Sicilia) โดยเฉพาะรุ่น อูนิโก (Unico) ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่ดีที่สุด แพงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนกระทิงดุ
ที่สำคัญเคยชนะ ไวน์กรองด์ ครู ของฝรั่งเศสหลายชั้นและหลายครั้งในการชิมระดับนานาชาติมามากแล้ว สมกับชื่อรุ่น Unico ที่มีความหมายว่า Unique หรือ the only one
เบกา ซิซิเลีย ไวเนอรี (Cr.bonv.se)
เบกา ซิซิเลีย ไวเนอรี (Bodegas Vega Sicilia) ตั้งอยู่ในเขตริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) ในแคว้นกาสติลยา อี ลีออน (Castilla y Leon) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ซึ่งเป็นเขตผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของสเปน ในเมืองไทยเริ่มมีไวน์เขตนี้มากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
กำเนิดของ เบกา ซิซิเลีย ย้อนไปในปี ค.ศ.1848 เมื่อ ดอน ตอริบิโอ เลกันดา (Don Toribio Lecanda) ราชาที่ดินแห่งแคว้นบาสค์ (Basque) ได้พบกับมาร์เกส์ เด บัลบุเอนา ( Marques de Valbuena) ขุนนางที่กำลังจะล้มละลาย จึงซื้อไร่ปาโก เด ลา เบกา ซานตา เซซิเลีย อี การ์ราสกัล (Pago de la Vega Santa Cecilia y Carrascal) ทางตะวันตกของริเบรา เดล ดูเอโร ประมาณ 2,000 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน)
ปินเตีย 2016
หลังจากใช้เป็นพื้นที่ทางเกษตรกรรมอยู่ประมาณ 16 ปี ดอน อีลอย เลกันดา อี ชาเบส (Don Eloy Lecanda y Chaves) ลูกชายของดอน ตอริบิโอ เลกันดา ได้รับมรดกจากพ่อ และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ เบกา ซิซิเลีย เพราะดอน อีลอย เลกันดา อี ชาเบสชื่นชอบ ไวน์บอร์กโดซ์ เป็นพิเศษ จึงก่อตั้งไร่องุ่นอย่างเป็นทางการในปี 1864 แล้วเดินทางไปบอร์กโดซ์เพื่อนำต้นองุ่นชั้นดี 18,000 ต้นมาปลูก
ประกอบด้วยกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) แมร์โลต์ (Merlot) มาลเบค (Malbec) การ์เมอแนร์ (Carmenere) และปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) นับเป็นเจ้าแรกที่นำพันธุ์องุ่นต่างถิ่นมาปลูกในสเปน
กระบวนการผลิต
ปี 1888 ดอน อีลอย เลกันดา อี ชาเบส และภรรยาเอมีเลีย โกกา อาไกร์เร (Emilia Coca Aguirre) ร่วมกับเพื่อนปาสกูเอล แฮร์เรโร (Pascual Herrero) ก่อตั้งบริษัทขึ้นโดย ดอน อีลอย เลกันดา ถือหุ้นใหญ่ 83% หลังจากนั้นอีก 15 ปี อันโตนิโอ (Antonio Herrero) ลูกชายของปาสกูเอล แฮร์เรโร มาซื้อหุ้นทั้งหมด ในระยะแรกขายน้ำองุ่นเป็นถังใหญ่ ๆ
ไร่องุ่นปินเตีย
น้ำเนื้อที่สุดยอดของ เบกา ซิซิเลีย เกิดขึ้นเมื่อ โดมิงโก การ์รามิโอลา (Domingo Garramiola) ไวน์เมกเกอร์ของบริษัท Laguardia ในริโอฆา (Rioja) เดินทางมา Vega Sicilia ในปี 1915 เพื่อหาน้ำองุ่นไปทำไวน์ เพราะไร่องุ่นที่ริโอฆาถูกฟีลล็อกซีรา (Phylloxera) ทำลายจนราบเรียบ แค่เหยียบแผ่นดินก้าวแรกเขาก็รู้ทันว่านี่คือแผ่นดินทองในการปลูกองุ่นทำไวน์ จึงขอเช่าพื้นที่เป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 1901 หลังจากนั้น “เบกา ซิซิเลีย” จึงผลิตขึ้น วินเทจแรกคือ 1915
ไวน์เบกา ซิซิเลีย เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปี 1929 เป็นต้นมา หลังจากวินเทจ 1917 และ 1918 ได้รับรางวัลจากงาน World Fair 1929 ที่เมืองบาร์เซโลนา
เขตผลิตไวน์ ริเบลา เดล ดูเอโร
ปี 1982 ตระกูล อัลบาเรซ (Alvarez) เจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เข้ามาซื้อ เบกา ซิซิเลีย พร้อมกับปรับปรุงครั้งใหญ่ ด้วยการซื้อเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยทุกอย่างเข้ามาทดแทนของเก่า ทำให้รสชาติของ “เบกา ซิซิเลีย” ดีขึ้นเป็นลำดับ และในปีนั้นเขตริเบรา เดล ดูเอโร ก็ได้รับการยกระดับเป็น DO
ปัจจุบัน ตระกูล “อัลบาเรซ” ก็ยังครอบครองไวน์ยิ่งใหญ่ของโลกยี่ห้อนี้ และเป็นสมาชิกสมาคมผู้ผลิตไวน์ที่เป็นครอบครัวหรือ Primum Familiae Vini (PFV) ซึ่งมีสมาชิก 13 ราย
ไวน์ในเครือ
นอกจากนั้นตระกูล “อัลบาเรซ” ซื้อไร่องุ่นเพิ่มคือ Bodegas Alion (ใน Ribera del Duero เช่นเดียวกับ Vega Sicilia ) ในปี 1992, Bodegas Alquiriz (ใน Toro) ปี 2001 และปี 1993 ก็ข้ามไปซื้อไร่ Oremus ในเขตโตกาย (Tokaj) ประเทศฮังการี ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วก็ซื้อ ไร่เดอิวา (Deiva) ในแคว้นกาลิเซีย (Galicia) ของสเปน
เบกา ซิซิเลีย ใช้องุ่นเทมเปรานีลโย (Tempranillo) ซึ่งเกษตรกรในริเบรา เดล ดูเอโร เรียกว่า ตินโต ฟีโน หรือตินโต ปาอิส (Tinto Fino / Tinto Pais) เป็นองุ่นแดงประจำชาติของสเปนเป็นหลักประมาณ 80% นอกนั้นเป็นองุ่นฝรั่งเศส เช่น กาแบร์เนต์ โซวีญยอง ประมาณ 15% นอกนั้นเป็นแมร์โลต์ และมาลเบค ขึ้นอยู่กับวินเทจ ส่วนการ์เมอแนร์ และปิโนต์ นัวร์ ที่ปลูกในยุคแรก ๆ ไม่มีการปลูกแล้ว
องุ่นเทมปรานิลโย (Cr.virginwines.co.uk)
ไวน์เบกา ซิซิเลีย บ่มไว้ในถังโอ๊คนานนับ 10 ปี ทำให้รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเมื่ออยู่ถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่ครบ 1 ปีแล้ว จะถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊คขนาดเล็กซึ่งเป็นโอ๊คใหม่อีก 2 ปี ขั้นตอนนี้ในปีแรกไวน์จะถูก Racking (การถ่ายไวน์จากถังหนึ่งไปยังอีกถังหนึ่ง โดยทิ้งตะกอนไว้ที่ถังเดิม เป็นการทำให้ไวน์ใสโดยธรรมชาติ และจะทำในขั้นตอนการบ่มไวน์) 4 ครั้ง ปีที่ 2 จะทำ Racking อีก 2 ครั้ง จากนั้นถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊คเก่าอีก 4 ปี จึงบรรจุขวด แล้วบ่มในขวด อีก 2-3 ปี จึงวางตลาด
เบกา ซิซิเลีย ไวเนอรี (Cr.vinello.eu)
เมื่อวางตลาดก็ต้องลุ้นอีกครั้ง มีเงินอาจจะไม่ได้ครอบครอง จะซื้อเบกา ซิซิเลีย ต้องไปลงชื่อขึ้นบัญชี List of Potential Buyers ของเขาไว้ แล้วกลับไปนอนร้องเพลงรอที่บ้านประมาณ 1 - 2 ปี โชคดีจะได้รับหนังสือจากบริษัทแจ้งว่า ท่านเป็นคนโชคดีที่สุดในโลก กรุณาไปจ่ายเงินจองได้ แต่ให้แค่ 1-2 ลังเท่านั้น ..อันนี้เป็นกระบวนการในยุคก่อน ปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนแปลงไป
ปัจจุบันเบกา ซิซิเลีย ผลิตไวน์ 3 รุ่นที่ทำให้ไวน์นี้ยิ่งใหญ่คือ
1 เบกา ซิซิเลีย “อูนิโก” ริแซร์บา เอสเปเชียล (Vega Sicilia “Unico” Reserva Especial) เป็นรุ่นสุดยอด และเป็นรุ่นไม่มีวินเทจ (Non Vintage) เกิดจากการนำไวน์ปีที่ดีที่สุดมาผสมผสานกัน บางปีจะไม่มีขาย..
Vega Sicillia Unico Especial (Cr.rarewineco.com)
2 เบกา ซิซิเลีย “อูนิโก” กราน ริแซร์บา (Vega Sicilia “Unico” Gran Reserva) เป็นรุ่นรองลงมาแต่สร้างชื่อที่สุด ทำจากเทมปรานิลโยเป็นหลัก เป็นรุ่นที่มีวินเทจ และผลิตเฉพาะปีที่ดี ๆ ดังนั้นบางปีจึงไม่มีการผลิต วางตลาดอย่างน้อย 10 ปีหลังการบ่ม และสามารถเก็บได้อีก 15 - 20 ปีหรือมากกว่านั้น
Vega Sicilia “Unico” Gran Reserva
3 บัลบูเอนา (Valbuena) เป็นไวน์ฉลากสอง (Second Label) ของ Vega Sicilia แต่เป็น Reserva ทำจากองุ่นที่ต้นอายุน้อย จากไร่เดียวกับรุ่น Unico ซึ่งวินเทจนั้นไม่มีการผลิต Unico ใช้เทมปรานิลโย 85% ที่เหลือมีแมร์โลต์ และมาลเบค วางตลาดหลังบ่ม 5 ปี จึงเรียกว่า Valbuena 5° ตัวเลขด้านหลังคือบ่ม 5 ปี
Valbuena 5°
นอกจากนั้นก็มีรุ่นรอง ๆ เช่น
อาลิออน (Alion) เป็นไร่ในริเบรา เดล ดูเอโร และเป็นรุ่นแรกที่ผลิตจากองุ่นตินโต ฟีโน 100% บ่มในโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 100% เป็นไวน์คุณภาพแต่สามารถดื่มในขณะที่เป็นไวน์ใหม่ ผลิตประมาณปีละ 300,000 ขวดขึ้นอยู่กับวินเทจ
ปินเตีย (Pintia) รุ่นนี้ผลิตในเขตโตโร (DO Toro) ซื้อมาในปี 1997 อายุขององุ่นเฉลี่ย 30 – 50 ปี ไวน์บ่มในโอ๊คใหม่ล้วน ๆ เป็นโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกันโอ๊คในอัตรา 70/30
อย่ากระนั้นเลยชิม เบกา ซิซิเลีย รุ่นอูนิโก สัก 2 วินเทจก็แล้วกัน
เบกา ซิซิเลีย อูนิโก 1989
เบกา ซิซิเลีย "อูนิโก" ริเบรา เดล ดูเอโร 1989 (Vega Sicilia “Unico” Ribera del Duero 1989) : ผมชิมกับลูกสาวของเจ้าของ ที่เดินทางมาเมืองไทย ทำจากองุ่นตินโต ฟีโน 80% และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 20% เป็นขวดหมายเลข 062421 โดย 1989 เป็นวินเทจที่ดีผลิตทั้งขวดธรรมดา, แม็กนั่ม และดับเบิ้ล แม็กนั่ม วางตลาดในปี 2003
สีแดงแกมบราวน์ หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ ๆ เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี เชอร์รี พลัม และฟิก มีลูกเกดนิด ๆ มิเนอรัล บัลซามิค หนังสัตว์ ช็อกโกแลต มิเนอรัล ควันไฟคล้ายย่างเนื้อ สมุนไพรแห้งซ่า ๆ แบล็คเปปเปอร์ ใบชา แอสิดยังพอมี แทนนินนุ่มเนียนพลิ้ว จบด้วยผลไม้สุกหอมหวาน เฮิร์บชุ่มคอ และมิเนอรัล......19/20 คะแนน
อูนิโก 2010
เบกา ซิซิเลีย “อูนิโก” ริเบรา เดล ดูเอโร 2010 (Bodegas Vega Sicilia “Unico” Ribera del Duero 2010) : ทำจากตินโต ฟีโน 94% และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 6% องุ่นอายุเฉลี่ย 35 ปี หมักด้วยยีสต์พื้นเมือง หมักในถังไม้ขนาดใหญ่ บ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกัน 6 ปี บ่มในขวดอีก 3 ปี วินเทจ 2010 ถือเป็นวินเทจที่ดีเยี่ยมอีกวินเทจหนึ่งของ Unico และมีการแย่งกันซื้อ ขณะที่ในเมืองไทยได้มาไม่มาก
สีแดงเข้ม ขอบส้มนิด ๆ สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และพรุน ดอกไม้และใบไม้แห้ง ๆ เอิร์ธตี้ ชอกโกแลต กาแฟคั่ว สไปซี เฮิร์บ กานพลู จันทน์เทศ ฮาเซลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใบยาสูบ หนังสัตว์ ซีดาร์ สโมคกี้โอ๊คและหวาน ๆ วานิลลา แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียนหวานเหมือนเคี้ยวได้ จบยาวด้วยผลไม้สุก สไปซีเฮิร์บ มิเนอรัล กำลังสุกปลั่ง เป็นไวน์ที่ต้องดื่มสักครั้งในชีวิต......20/20 คะแนน
ไร่องุ่นปินเตีย (Cr.vinovest.co)
ท่านที่เป็นแฟนทีมชาติสเปนถ้าสเปนได้แชมป์ยูโร 2024 ขึ้นมา ยังไงก็ต้องฉลองด้วย เบกา ซิซิเลีย กรองด์ ครู แห่งสเปน จึงจะนับว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง